นายกฯจะชี้แจงหลังรับพระราชทานรธน./เข้มทุกด้านสงกรานต์ปีนี้/เชงเม้งออนไลน์

สรุปข่าว 19.35 น.

+++หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี  พ.อ.อภิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้นำพระราชโอวาทของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ที่ทรงพระราชทานไว้ เนื่องในวันข้าราชการพลเรือน ให้กับคณะรัฐมนตรี รับทราบ ความว่า งานราชการนั้นคืองานของแผ่นดิน มีผลเกี่ยวเนื่องโดยตรง ถึงประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชนทุกคน ดังนั้น ข้าราชการผู้ปฏิบัติ บริหารงานของแผ่นดิน จึงต้องทำความเข้าใจถึงความสำคัญในหน้าที่ และความรับผิดชอบของตนให้ถ่องแท้ ร่วมกันคิด ร่วมกันทำ ด้วยความอุตสาหะเสียสละ และด้วยความสุจริตจริงใจ โดยถือประโยชน์ ที่จะเกิดจากงานเป็นหลักใหญ่ งานของแผ่นดินทุกส่วนจะได้ดำเนินก้าวหน้าไปพร้อมกัน และสำเร็จประโยชน์ที่พึงประสงค์ คือยังความเจริญ  มั่นคงให้เกิดแก่ประเทศชาติ และประชาชนได้แท้จริงและยั่งยืนตลอดไป

++ส่วนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่จะประกาศใช้ว่า เมื่อวันที่ 3 เม.ย. รัฐบาลได้รับพระราชโองการ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ประกาศหมายกำหนดการพระราชพิธีประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 วันที่ 6 เม.ย.เวลา 15.00 น.โดยเรื่องนี้นายกฯจะเป็นผู้ชี้แจงต่อประชาชนด้วยตัวเองในวันเดียวกัน

+++มาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์  กระทรวงคมนาคม ได้เสนอแผนการป้องกันอุบัติเหตุและอำนวยความสะดวก ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตั้งแต่วันที่ 5-18 เม.ย. ครอบคลุมไปถึง การขนส่งทางน้ำ ทางบก และทางอากาศ ซึ่งได้จัดตั้งจุดบริการประชาชน ข้อมูลการเดินทาง การตรวจสภาพรถยนต์ ระหว่างการเดินทาง ในทางถนน และทางน้ำ 718 จุดทั่วประเทศ ส่วนการให้บริการขนส่งสาธารณะได้สั่งการ หน่วยงานรับผิดชอบ จัดเตรียมพื้นที่ สถานีขนส่ง ชานชลา พื้นที่จอดรถสำรอง เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน รวมทั้งเพิ่มจำนวนรถโดยสารรถตู้โดยสาร รถไฟ เพิ่มเที่ยวสอ่งการเกินรถ เที่ยวบินพิเศษ จำนวน 521,996 เที่ยว ให้เพียงพอต่อประชาชน

+++กระทรวงมหาดไทย เสนอมาตรการขับรถมีน้ำใจ สร้างวินัยจราจร ซึ่งระหว่างวันที่ 22 มี.ค.- 10 เม.ย เป็นช่วงดำเนินการอยู่ ส่วนช่วงควบคุม ระหว่างวันที่ 11 -17 เม.ย. เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุทางถนนให้น้อยที่สุด เช่น ตรวจสอบซ่อมแซมถนน ตรวจมาตรฐานยานพาหนะ ดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  เพิ่มความเข้มงวด มาตรการรักษาความปลอดภัย เน้นงานด้านการข่าวและเฝ้าระวังการก่อวินาศกรรม การป้องกันเหตุในจุดเสี่ยงต่างๆ ที่มีประชาชนอยู่จำนวนมาก พร้อมจัดตั้งศูนย์อำนวยการในพื้นที่จัดงาน และสั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด

++++นอกจากนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้เสนอ แนวคิดสงกรานต์แบบไทยใช้น้ำอย่างรู้คุณค่าทุกชีวาปลอดภัย เป็นโครงการอนุรักษ์และส่งเสริมสงกรานต์แบบไทย และเล่นน้ำอย่างเหมาะสม ใช้น้ำอย่างประหยัด รวมทั้งรักษาความปลอดภัยโดยเคารพกฎอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งขอความร่วมมือ แต่งกายให้สุภาพ ส่วนผู้ประกอบการ จัดงานแสดงต่างๆ ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของประเทศในปัจจุบัน  ส่วนการห้ามขึ้นไปเล่นน้ำบริเวณท้ายรถกระบะ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทั้ง นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงเรื่องการเล่นน้ำสงกรานต์ ซึ่งหากจะนำน้ำขนใส่ท้ายรถกระบะแล้วสาดเล่นก็ขอให้จอดรถก่อน แต่หากอยากยืนเล่นน้ำระหว่างรถกระบะแล่น ก็ขอให้อยู่ในพื้นที่ชุมชน อย่าขึ้นมาบนถนนสายหลัก ส่วนบริเวณรอบคูเมืองที่ จ. เชียงใหม่ นายกเทศมนตรีผู้เกี่ยวข้อง สามารถคุยกับเจ้าหน้าที่ได้ ขออนุโลมได้ เนื่องจากเป็นประเพณีที่ทำติดต่อกันมาทุกปี ส่วนมาตรกาการคาดเข็มขัดนิรภัยภายในรถยนต์นั้น ก็เพื่อลดการสูญเสียในชีวิตของประชาชนและเพื่อให้เกิดความปลอดภัย อย่างไรก็ตามหากผ่านพ้นเทศกาลสงกรานต์ไปแล้ว เกิดความสูญเสียในชีวิต หรือ ความคาดหวังที่จะลดการเกิดอุบัติเหตุไม่สำเร็จตามเป้า  ก็คงไม่เกี่ยวข้องกับมาตรา 44 ไม่เข้มงวดมากพอ แต่อยู่ที่ความร่วมมือของประชาชน ในการปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ

+++พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี (ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี) กล่าวถึงความคืบหน้าของคดี พลทหารยุทธกินันท์ บุญเนียม หรือเบนซ์ อายุ 22 ปี ทหารเกณฑ์สังกัดมณฑลทหารบกที่ 45 (มทบ.45) ค่ายวิภาวดีรังสิต จ.สุราษฎร์ธานี เสียชีวิตหลังเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ว่า ล่าสุดผลการตรวจชันสูตรศพ โดยนิติเวชโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ระบุสาเหตุการเสียชีวิตของ พลทหารยุทธกินันท์ ว่ามาจากสาเหตุ ไตวาย และตามร่างกายมีรอยฟกช้ำ เนื่องจากถูกทำร้ายด้วยของแข็งไม่มีคม หลังจากนี้จะได้สอบสวนปากคำแพทย์ผู้ทำการผ่าศพ เพื่อประกอบสำนวนการสอบสวน เพื่อขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาต่อศาลมณฑลทหารบกที่ 45 ต่อไป“ขณะนี้มีพยานหลักฐานเชื่อมโยงถึงผู้กระทำการแล้ว โดยเตรียมขออนุมัติหมายจับได้แล้วอย่างน้อย 5 คน และอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานอีก 2 คน คาดว่าภายในวันพรุ่งนี้ (5 เม.ย.) จะสามารถสรุปสำนวนเพื่อขออนุมัติหมายจับได้

+++ความคืบหน้าเหตุระเบิด2 ลูก ที่สถานีรถไฟใต้ดินในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก รัสเซียเมื่อเวลา 14.30 น.วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น บีบีซีรายงานอ้าง นางเวโรนิกา สกอร์ตโซวา รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขรัสเซียและหน่วยข่าวกรองของประเทศคีร์กีซสถาน ประเทศในเครืออดีตสหภาพโซเวียตในเอเชียกลางว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตเพิ่มจาก 11 ศพเป็น 14 ศพ หลังมีผู้เสียชีวิตในโรงพยาบาลเพิ่มอีก 3 ศพเมื่อเช้าวันนี้ มีผู้บาดเจ็บ 49 คน รัฐบาลท้องถิ่นในเมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์กประกาศไว้ทุกข์ 3 วัน นายซเวตลานา เปเทรนโก พนักงานสอบสวนระดับสูงของรัสเซียชื่นชมคนขับรถไฟที่ตัดสินใจขับรถไฟจากจุดเกิดเหตุต่อไปจนถึงสถานีเซนนายา พลอชชาดเพื่อให้ทีมกู้ภัยสามารถนำตัวผู้บาดเจ็บไปส่งยังโรงพยาบาล ช่วยให้หลายคนรอดชีวิต

++สำหรับคนรายคือนายอัคบาร์ซฮอน จาลิลอฟ พลเมืองชาวคีร์กีซเชื้อสายอุซเบค ซึ่งได้สัญชาติรัสเซีย เขาเกิดในเมืองออช ประเทศคีร์กีซสถานเมื่อปี 2538 แต่ยังคงมีรายงานที่ขัดแย้งกันว่า คนรายรายนี้เป็นมือระเบิดพลีชีพหรือไม่ คาดว่าคนร้ายอาจจะมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรง ด้านนายเซอร์เล ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียกล่าวในการประชุมกับนายเออร์ลัน อับดีลดาเยฟ รัฐมตรีต่างประเทศคีร์กีซสถานว่า การโจมตีครั้งนี้แสดงให้เห็นอีกครั้งหนึ่งว่าทุกประเทศจะต้องร่วมมือกันปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายนี้ให้หมดไป

+++ด้านโฆษกรัฐบาลรัสเซียเปิดเผยว่าผู้นำประเทศทั่วโลก รวมถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัปม์ของสหรัฐฯ นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลของเยอรมนี นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ของสหราชอาณาจักร นางเฟเดริกา โมเกรินี หัวหน้าฝ่ายต่างประเทศของกลุ่มสหภาพยุโรปและประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนได้โทรศัพท์หรือส่งโทรเลขไปถึงผู้นำรัสเซีย แสดงความเสียใจกับรัฐบาลรัสเซียและญาติผู้เสียชีวิต

+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.96 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,583.82 จุด มูลค่าการซื้อขาย 37,273.47 ล้านบาท

+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวร่วงลงปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบสองเดือนครึ่ง เนื่องจากเงินเยนแข็งค่าขึ้น หลังเกิดเหตุลอบวางระเบิดที่รถไฟใต้ดินเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กของรัสเซียเมื่อวานนี้ปิดปรับตัวลง 172.98 จุด ที่ 18,810.25 จุด

+++ดัชนีฮั่งเส็งปิดตลาดเนื่องในวันเชงเม้ง

+++เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนช่วยให้ประเพณีในยุคสมัยใหม่ดำเนินไปอย่างง่ายดายขึ้น ท่ามกลางคำถามถึงความเหมาะสมขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่บรรดาลูกหลานชาวจีนจะเดินทางไปยังสุสานของบรรพบรุษ ประเพณีเก่าแก่ดังกล่าวเรียกกันว่าเทศกาลเชงเม้ง ซึ่งเป็นเทศกาลสำคัญ ทุกๆปีวันเชงเม้งจะเป็นวันที่ญาติๆได้มารวมตัวกัน กราบไหว้เพื่อรำลึกถึงบุญคุณของบรรพบรุษในปีนี้ ที่สุสานแห่งหนึ่งในเมืองนานกิงได้เปิดให้บริการพิเศษสำหรับบรรดาลูกหลานที่งานรัดตัว หากคุณๆทั้งหลายไม่สามารถเดินทางมาประกอบพิธีเชงเม้งได้ ก็สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลสุสาน เจ้าหน้าที่เหล่านี้จะเป็นผู้ทำความสะอาดหลุมศพให้ พร้อมจัดดอกไม้มาทำพิธีแทน ซึ่งขั้นตอนทุกอย่างนี้ลูกหลานของเจ้าของหลุมสามารถมีส่วนร่วมได้ด้วยการชมผ่านการไลฟ์สตรีมสดๆ ผ่าน Wechat

+++นอกจากนั้นยังมีบริการจุดเทียน และเผากระดาษเงิน กระดาษทองผ่านระบบออนไลน์อีกด้วย ส่วนที่สุสาน Changqing ในกรุงปักกิ่ง จัดกิจกรรมเชงเม้งเช่นเดียวกับสุสานอื่นๆ แต่ที่พิเศษก็คือไม่ใช่หลุมศพแบบตามธรรมเนียม สุสานนี้เลือกที่จะเผาผู้ตาย จากนั้นก็บรรจุเถ้ากระดูกของพวกเขาลงไปในโกศที่ถูกผลิตจากวัสดุเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแทน ซึ่งโกศจะละลายไปกับดินในระยะเวลา 6 เดือนเมื่อถูกฝัง รวมถึงเถ้ากระดูกของผู้ตายก็จะคืนกลับสู่ธรรมชาติเช่นกันทางเลือกใหม่ๆเหล่านี้ก็ต้องเผชิญกับเสียงวิจารณ์จากหลายฝ่าย ที่มองว่าเป็นการไม่ใช้เกียรติผู้ตาย หลุมศพรุ่นใหม่ๆมี QR Code เป็นส่วนหนึ่งบนป้ายสลักหิน