+++หลังจากที่ จส.100 ได้รับแจ้งจากพลเมืองดี คุณเอส ขับรถแท็กซี่เขียว เหลือง มล -9259 กทม.ว่าเมื่อเช้านี้( 20 ก.ค.) เวลา 08.30น. รับผู้โดยสารเป็นหญิงชาวลาว อายุประมาณ 17 ปี จากแถวอ่อนนุช 17 และหญิงคนดังกล่าว ร้องไห้ ท่าทางตื่นตกใจ บอกแต่เพียงว่า ให้ออกรถ จะมีคนมาจับ และขอให้คุณเอสไปส่งที่บ้านพี่ชายแถวลาดพร้าว ระหว่างเดินทางมีการสอบถาม หญิงชาวลาวคนนี้บอกว่าถูกคนร้ายสองคนจับมาจากชลบุรี และมาขังไว้และถูกข่มขืนและจะนำไปขายต่อในราคาสองหมื่นบาท ตัวเองแกล้งขอเข้าห้องน้ำ และหลบหนีออกมาจนเจอคุณเอส ขับแท็กซี่ผ่านมา
+++คุณเอส โทรมาที่จส.100 เล่าเหตุการณ์และขอคำแนะนำ จส.100 ประสานไปที่สน.พระโขนงและให้คุณเอส นำหญิงชาวลาวไปแจ้งความ จากนั้น ผกก.สน.พระโขนง สายสืบ สายตรวจ นำทั้งสองคน ไปชี้จุดที่รับขึ้นรถแท็กซี่มา และหาบ้านเช่าที่คนร้าย ขังสาวชาวลาวไว้ แต่ไม่พบบ้านหลังดังกล่าว ทั้งนี้จุดที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่คาบเกี่ยวระหว่างสน.พระโขนงและคลองตัน จึงส่งมอบให้สายตรววจสน.คลองตันไปดำเนินการสอบต่อ
+++ร.ต.อ.ณัฐวุฒิ ศุภวัฒน์ หัวหน้าสายตรวจสน.คลองตัน เปิดเผยว่า เมื่อได้สอบปากคำหญิงชาวลาว ยอมรับว่าโกหกุเรื่องขึ้นมา ไม่ได้ถูกข่มขืน ไม่ได้ถูกจับ แต่ทะเลาะกับแฟน ต้องการจะหนีเลยวิ่งหนีออกมา ทราบชื่อ คือ น.ส.สยมพร แก้วบัวศรี อายุ 21 ปี ไม่ใช่อายุ 17 ปี เป็นคนลาวเข้ามาทำงานที่กรุงเทพ และรู้จักกับแฟนคือนายเบิร์ด ทองสุข ประกอบกับ นายเบิร์ด ก็ได้เดินทางมาที่สน.คลองตัน และให้การกับตำรวจตรงตามที่น.ส. สยมพร ให้ปากคำกับตำรวจ บอกว่า ฝ่ายหญิงจะไปทำงานบาร์ ตัวเองไม่ยอมเลยทะเลาะกันฝ่ายหญิงต้องการจะเลิก แต่ตัวเองพยายามง้อไม่ยอมเลิก และทั้งคู่ก็ร้องไห้ จนให้การไม่ได้ ตำรวจต้องไกล่เกลี่ยให้ตกลงกันให้ได้ ทั้งนี้จุดที่เกิดเหตุ สรุปว่าอยู่ในพื้นที่สน.พระโขนง ซ.อ่อนนุช 13เลยส่งตัวและสำนวนกลับมาที่สน.พระโขนง
+++ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ตำรวจที่สน.พระโขนง เจ้าของพื้นที่ แจ้งสองข้อหากับน.ส.สยมพร คือ แจ้งความเท็จ ส่งต่อศาลแขวงพระโขนง เนื่องจากอายุ21ปี เพื่อทำการปรับ2,000บ.หรือจำคุก 6 เดือนถึง1ปี และพาสปอร์ต ขาดการต่ออายุ จึงส่งเรื่องต่อให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อดำเนินการส่งกลับประเทศไปต่ออายุพาสปอร์ต ระหว่างที่แจ้งข้อหา ทั้งคู่ยังร้องไห้ โดยฝ่ายชายพยายามปลอบใจฝ่ายหญิง ขณะที่ ฝ่ายหญิงพูดอย่างเดียวว่าต้องกลับบ้านไปหาแม่
สานนท์