นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) พร้อมด้วย พลตำรวจตรี ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (รอง ผบช.ภ.1) พันตำรวจเอก อดิศ เจริญสวัสดิ์ รองผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 (รอง ผบก.ปส.3 บช.ปส.) เปิดปฏิบัติการ “1386 ทั่วไทย ประชาชนปลอดภัยจากยาเสพติด” ครั้งที่ 9/2560 ภายใต้แผนประชารัฐร่วมใจ สร้างหมู่บ้านชุมชนมั่นคง ปลอดภัยยาเสพติดณ ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงาน ป.ป.ส. (ศปก.ป.ป.ส.) ปฏิบัติการครั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ประสานให้ ศป.ปส.อำเภอ เป็นกลไกขับเคลื่อนสำคัญภายใต้การสนับสนุนของเจ้าหน้าที่จากสำนักงาน ป.ป.ส. ทหาร ตำรวจ รวมทั้งสิ้น 500 นาย ลงพื้นที่ระหว่างวันที่ 17 - 31 มีนาคม 2560 โดยมีพื้นที่เป้าหมาย 171 หมู่บ้าน/ชุมชน 54 อำเภอ 19 จังหวัด ได้แก่ สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง ฉะเชิงเทรา นครราชสีมา กาฬสินธุ์ ขอนแก่น อุตรดิตถ์ นครสวรรค์ เพชรบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี พังงา และตรัง โดยดำเนินการกับเป้าหมายบุคคลรวม 182 ราย เป็นเป้าหมายที่ได้ข้อมูลจากการร้องเรียนของประชาชน 134 ราย การสืบสวนหาข่าว 38 ราย และจากการทำประชาคมหมู่บ้าน 10 ราย
สรุปผลจากปฏิบัติการฯ สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดได้ 60 ราย เป็นนักค้า (ครอบครองเพื่อจำหน่าย) 11 ราย ครอบครองยาเสพติด 2 ราย และผู้เสพ 47 ราย ยึดของกลางยาบ้า 201,946 เม็ด ไอซ์ กัญชา และอาวุธปืน/เครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง พร้อมทั้งยึดอายัดทรัพย์สินรวมมูลค่า 650,000 บาท โดยในส่วนผู้เสพ ศป.ปส.อำเภอ จะส่งตัวเข้ารับการบำบัดรักษาต่อไป
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า ปฏิบัติการ "1386 ทั่วไทย ประชาชนปลอดภัยจากยาเสพติด" ดำเนินการต่อเนื่องภายใต้ "แผนประชารัฐร่วมใจ สร้างหมู่บ้านชุมชนมั่นคง ปลอดภัยยาเสพติด" โดยเน้นกลไกปฏิบัติในระดับพื้นที่ คือ ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอ (ศอ.ปส.อ.) ที่จะต้องทำงานเชิงรุกเข้าถึงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง วัตถุประสงค์ของปฏิบัติการ 1386ฯ นี้ คือ เพื่อลดความเดือนร้อนของประชาชนจากปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด ในหมู่บ้านชุมชน โดยเป้าหมายดำเนินการส่วนใหญ่ได้ข้อมูลมาจากเรื่องร้องเรียนและการแจ้งเบาะแสของประชาชน ผ่านสายด่วน ป.ป.ส. 1386
นอกจากนั้น ยังเป็นการดำเนินการกับผู้ค้ารายย่อย และค้นหาผู้เสพ/ผู้ติดในหมู่บ้านชุมชน เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาตามนโยบายของรัฐ โดยภายใต้ปฏิบัติการนี้ ได้ดำเนินการปิดล้อมตรวจค้นครั้งใหญ่ทั่วประเทศไปแล้ว 18 ครั้ง และยังมีปฏิบัติการปิดล้อมต่อเนื่องเป็นประจำในหน่วยพื้นที่ ได้เข้าทำการตรวจค้นหมู่บ้านชุมชนไปกว่า 2,349 หมู่บ้าน/ชุมชน สามารถจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด 2,634 ราย แยกเป็นผู้ค้า 1,073 ราย นำผู้เสพเข้ารับการบำบัด 1,500 ราย ยึดยาบ้า 2,200,051 เม็ด ไอซ์ประมาณ 26.4 กิโลกรัม เฮโรอีน 7 กรัม ต้นกัญชา 13 ต้น กัญชาแห้ง 19.7 กิโลกรัม คีตามีนผง 34 กรัม คีตามีนน้ำ 24 ขวด วัตถุออกฤทธิ์ 4,764 เม็ด ต้นกระท่อม 20 ต้น ใบกระท่อม 211 กิโลกรัม น้ำกระท่อม 71 ลิตร ยาแก้ไอ 35,696 ขวด อาวุธปืน 267 กระบอก กระสุนปืน 4,548 นัด โดยได้ทำการยึดทรัพย์สิน มีมูลค่ารวมประมาณ 84.6 ล้านบาท
นอกจากนี้ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ร่วมกับ สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่แพร่ระบาดครอบคลุมพื้นที่ภาคกลาง 9 จังหวัด (พื้นที่ภาค 1) 93 เป้าหมาย ได้แก่ สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี ทั้งนี้เพื่อขจัดปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่ โดยสรุปผลการดำเนินการ ดังนี้ สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด รวม 66 ราย แบ่งเป็นครอบครองเพื่อจำหน่าย 27 ราย ครอบครองยาเสพติด 35 ราย นำผู้เสพเข้าบำบัด 4 ราย และยึดของกลาง ได้แก่ ยาบ้า 41,333 เม็ด ไอซ์ 1.2 กิโลกรัม กัญชา 2.4 กิโลกรัม เคตามีน 8 ขวด อาวุธปืน 13 กระบอก เครื่องกระสุน 59 นัด พร้อมทั้งยึดทรัพย์สิน รวมมูลค่า 15,323,585 บาท
CR:ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ป.ป.ส.