สตช.- คลัง เร่งแก้หนี้นอกระบบ เปิดให้นายทุนขึ้นทะเบียนให้ถูกกฎหมายปล่อยกู้2รูปแบบ

มาตรการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ หลังจากที่รัฐบาลออกกฎหมายฉบับใหม่ พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า  สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ได้สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาคทั่วประเทศ รวบรวมรายชื่อผู้ปล่อยเงินกู้นอกระบบภายในวันที่ 1-10 เมษายนนี้  เพื่อขออนุมัติหมายค้น หาหลักฐานในการดำเนินคดี แก้ปัญหาหนี้นอกระบบที่เก็บดอกเบี้ยสูงเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด และเรียกเก็บดอกเบี้ยด้วยวิธีที่ไม่ถูกกฎหมาย หรือ ใช้การคุกคามข่มขู่ลูกหนี้  หลังพบมีประชาชนจำนวนมากได้รับความเดือดร้อน

ด้านนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ระบุว่า รัฐบาลเปิดโอกาสให้เจ้าหนี้นอกระบบขึ้นทะเบียนดำเนินธุรกิจปล่อยกู้นอกระบบ ได้ใน 2 รูปแบบ คือ รูปแบบนาโนไฟแนนซ์ ที่ต้องมีทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ปล่อยกู้ได้ทั่วประเทศ แต่ปล่อยกู้ได้คนละไม่เกิน 100,000 บาท และรูปแบบพิโกไฟแนนซ์ หรือ สินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัด ใช้เงินทุนจดทะเบียน 5,000,000บาท ปล่อยกู้ได้คนละไม่เกิน 50,000 บาท ภายในจังหวัดที่ขึ้นทะเบียน ซึ่งทั้ง 2 รูปแบบ สามารถคิดอัตราดอกเบี้ยได้ไม่เกิน ร้อยละ 3 บาทต่อเดือน หรือร้อยละ 36 ต่อปี แต่หากไม่ขึ้นทะเบียน จะสามารถเก็บดอกเบี้ยได้เพียงร้อยละ 1.25 บาทต่อเดือน หรือร้อยละ 15 ต่อปีเท่านั้น หากเก็บมากกว่ากำหนดโดยไม่ขึ้นทะเบียนจะมีอัตราโทษตามกฎหมาย ส่วนประชาชนที่ยังคงมีหนี้นอกระบบ  อยู่สามารถแจ้งต่อธนาคารออมสิน ของแต่ละสาขา หรือแจ้งโดยตรงมายังกระทรวงการคลัง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ช่วยไกล่เกลี่ยหนี้กับนายทุน และนายทุนก็สามารถขอใบอนุญาตขึ้นทะเบียนดำเนินธุรกิจปล่อยกู้นอกระบบ ได้ที่ธนาคารทั้ง 2 แห่งด้วยเช่นกัน

ด้านพลตำรวจเอกสุวิระ ทรงเมตตา ที่ปรึกษาสัญญาบัติ 10 กล่าวว่า ไฟแนนซ์ทั้ง 2 รูปแบบ เป็นช่องทางที่รัฐบาลต้องการให้ผู้ปล่อยเงินกู้นอกระบบมีช่องทางการประกอบธุรกิจอย่างถูกกฎหมาย และเป็นทางเลือกให้กับประชาชนที่มีความต้องการใช้บริการเงินกู้ที่สถาบันการเงินไม่สามารถอนุมัติให้ได้ โดยมีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก และรัฐบาลจะไม่เข้าควบคุมนายทุน เพียงให้นายทุนทำรายงานสรุปยอดผู้กู้ต่อสำนักงานใหญ่ที่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงการคลังเพื่อความเป็นระเบียบ ซึ่งขณะนี้ มีผู้ขออนุญาตแล้วกว่า 150 คน ส่วนข้าราชการที่เกี่ยวพันกับการปล่อยเงินกู้นอกระบบ

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด โดยไม่มีข้อยกเว้น ยืนยันการจดทะเบียนสินเชื่อรายย่อย ไม่ใช่มาตรการฟอกขาวที่เปิดช่องทางให้ผู้กระทำความผิดหลีกเลี่ยงกฎหมาย เพราะผู้ขอจดทะเบียนทุกคนจะต้องถูกตรวจสอบประวัติ ว่าเคยมีการกระทำความผิดเกี่ยวข้องกับการเงินหรือไม่ อย่างไรก็ตามต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชนในการแจ้งเบาะแสกับเจ้าหน้าที่ หากประชาชนพบเบาะแสการปล่อยกู้นอกระบบที่ไม่เป็นธรรม สามารถโทรผ่านสายด่วน 1359 หรือ แจ้งเบาะแสมาได้ที่ 1599 หรือ สายด่วน 191

ผู้สื่อข่าว:ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ