ชาติตะวันตกต่างแสดงท่าทีที่ต้องการให้รัสเซีย กดดันกลุ่มกบฎแบ่งแยกดินแดนชาวยูเครนที่ฝักใฝ่รัสเซีย ให้ยินยอมเปิดทางให้เจ้าหน้าที่ต่างชาติเดินทางเข้าไปปฏิบัติภารกิจสืบสวนสอบสวนเหตุเครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ เที่ยวบิน MH17 ตกในพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครน ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มกบฎ
นายกรัฐมนตรีมาร์ก รูตต์ แห่งเนเธอร์แลนด์ แจ้งประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซียว่า เวลาในการแสดงให้โลกเห็นว่ารัสเซียมีความตั้งใจดีต่อเรื่องที่เกิดขึ้นกำลังหมดลง จึงขอให้ผู้นำรัสเซียช่วยใช้อิทธิพลกดดันกลุ่มกบฎ เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าไปในพื้นที่และทำงานได้อย่างสะดวก เนื่องจากผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นชาวดัตช์ ด้านนายกรัฐมนตรีแองเกล่า เมอร์เกิ้ล ผู้นำเยอรมนีได้หารือทางโทรศัพท์กับผู้นำรัสเซียเช่นกัน เพื่อเรียกร้องให้รัสเซียให้ความร่วมมือในการตรวจสอบเหตุเครื่องบินตก
ขณะที่นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน แห่งอังกฤษ และนายกรัฐมนตรีโทนี่ แอบบ๊อตต์ แห่งออสเตรเลีย เห็นพ้องที่จะร่วมกันเดินหน้ากดดันในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เพื่อให้ดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ต่างชาติสามารถเข้าไปตรวจสอบและเก็บกู้ซากเครื่องบินได้ เช่นเดียวกับรัฐมนตรีการต่างประเทศสหรัฐฯ และอังกฤษที่หารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เพื่อช่วยประสานให้เจ้าหน้าที่เดินทางเข้าไปในพื้นที่ ตามที่มีรายงานว่าคณะผู้สังเกตการณ์จากองค์การเพื่อความมั่นคงและความร่วมมือแห่งยุโรป หรือ โอเอสซีอี ถูกกลุ่มกบฎจำกัดการเข้าถึงพื้นที่ที่เครื่องบินประสบเหตุ ขณะที่รัฐบาลยูเครนกล่าวหากลุ่มกบฎว่าพยายามทำลายหลักฐานที่ชี้ว่ากลุ่มกบฎเป็นใช้ขีปนาวุธยิงเครื่องบินโดยสาร
ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวบีบีซีที่อยู่ในพื้นที่รายงานว่า มีเจ้าหน้าที่กำลังเร่งขนย้ายศพผู้โดยสารออกจากพื้นที่ที่เครื่องบินตก โดยยังไม่ทราบว่านำไปเก็บไว้ที่ใด รวมทั้งไม่ทราบว่าเจ้าหน้าที่นั้นเป็นฝ่ายรัฐบาลหรือกลุ่มกบฎ
**8.02F174 **