+++กรณีที่นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น เปิดเผยทางเฟซบุ๊ก กรณีการตั้งบ่อนกาสิโน ตรงจุดผ่านแดน ด่านช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกองทัพบก ชี้แจงว่า ชายแดนไทย-กัมพูชา ตลอดทั้งแนวยังมีความไม่ชัดเจนเรื่องเส้นเขตแดน เนื่องจากการยึดถือหลักฐานแผนที่คนละฉบับ จึงอาจมีเส้นทับคลาดเคลื่อนบ้างรวมถึงหลักเขตแดนเดิมบางจุดสูญหายหรือถูกโยกย้ายจากตำแหน่งเดิม พร้อมกับยืนยันว่า บ่อนกาสิโนของกัมพูชาที่ถูกอ้างถึงนั้นได้ก่อสร้างอยู่หลังแนวเขต 130 เมตร จึงมั่นใจว่าบ่อนกาสิโนดังกล่าวตั้งอยู่ในเขตประเทศกัมพูชา และอยู่นอกแนวเขตแผนที่ที่ประเทศไทยยึดถือ พร้อมกับระบุว่าจะเดินทางตรวจสอบบ่อนในวันนี้
+++พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมคณะ เดินทางไปร่วมประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย - กัมพูชา ครั้งที่ 12 ที่ จ.เสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่ 29 - 30 มี.ค. ร่วมกับ พล.อ.เตียบันห์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมกัมพูชา พล.อ. ประวิตร กล่าวว่า การเดินทางไปในครั้งนี้ไม่ได้มีการพูดคุยในเรื่องเขาพระวิหาร ทั้งในและนอกรอบ ยืนยันความสัมพันธ์ไทยกับกัมพูชาดีอยู่แล้ว ส่วนการดำเนินการตามมติของศาลโลกในการจัดวางกำลังในพื้นที่ ยังไม่มีการพูดคุยกัน ซึ่งขณะนี้เราก็พูดคุยกับกัมพูชารู้เรื่องทุกอย่าง อย่างไรก็ตาม การเดินทางไปดังกล่าวเป็นการประชุมตามวาระ
+++การประชุมดังกล่าว เป็นเวทีให้คณะกรรมการทั้งสองประเทศได้พบปะพูดคุยสรุปความก้าวหน้า และทบทวนการทำงานร่วมกัน และร่วมกันพิจารณาเสริมสร้างความร่วมมือในการดูแลความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงปลอดภัยในพื้นที่ชายแดน พร้อมทั้งกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพและหน่วยงานความมั่นคงของทั้งสองประเทศ
+++ส่วนเรื่องเลือกตั้งท้องถิ่น พล.อ.ประวิตร ปฏิเสธกระแสข่าว การเตรียมจัดการเลือกตั้งในท้องถิ่นว่า ไม่เคยระบุเช่นนั้น เพียงแต่สมมติ ว่าน่าจะมีเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งก็ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะกฎหมายลูกยังไม่ออก ส่วนจำเป็นต้องใช้ ม.44 หรือไม่ ไม่สามารถทำได้ ทุกอย่างต้องรอรัฐธรรมนูญ รัฐบาลยืนยันว่าจะเดินตามโรดแมปและกฎหมายทุกอย่าง พล.อ.ประวิตร ยังปฏิเสธข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) หลังสงกรานต์นี้ โดยระบุว่า ผู้สื่อข่าวคิดกันไปเอง และขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณใดๆ ที่จะปรับครม.
+++นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การเข้าไปช่วยเหลือกรมสรรพากรหลังถูกนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยื่นฟ้องกรณีเรียกเก็บภาษีหุ้นชินคอร์ป ว่า ปกติหน่วยงานราชการที่ถูกฟ้อง พนักงานอัยการจะแก้ต่างให้อยู่แล้ว และเป็นไปตามระเบียบปกติ สำหรับรัฐบาลคงไม่ได้เข้าช่วยอะไร นอกจากกรมสรรพากรต้องการให้ช่วย เป็นเรื่องปกติ ดังนั้นไม่ต้องห่วง เจ้าหน้าที่ ทำไปตามอำนาจหน้าที่ ดังนั้นจะไม่มีผลทางด้านวินัยกับเจ้าหน้าที่ผู้นั้น ยกเว้นว่าการแพ้คดีนั้นเป็นความบกพร่องชัดเจน เช่น ไม่นำพยานเข้าสืบในศาลตามกำหนดนัด หรือที่เรียกว่าละทิ้งคดี ทำให้รัฐไม่ได้ภาษีอย่างนี้ถือว่ารัฐเสียประโยชน์
++รองนายกฯ กล่าวว่า เมื่อรัฐดำเนินการ ก็มาบอกว่ากลั่นแกล้ง ลำเอียง เลือกปฏิบัติ เลือกเล่นงาน และจะกระทบกับการสร้างความปรองดอง อยากให้เข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติธรรมดา ดีที่สุดก็คือปล่อยให้เรื่องนี้ให้ศาลตัดสิน
+++ศาลอาญา นัดฟังคำพิพากษาศาลอาญา คดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่อัยการฟ้องนางจุฑามาศ ศิริวรรณ อายุ 70 ปี อดีตผู้ว่าททท. และ น.ส.จิตตโสภา ศิริวรรณ บุตรสาว อายุ 43 ปี ร่วมกันทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 ,พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (ฮั้วประมูล) พ.ศ.2542 ม.12 กรณีเรียกรับ เงิน 60 ล้าน จากสามีภรรยานักธุรกิจชาวอเมริกัน จัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ Bangkok film ปี2546 ในส่วนของการดำเนินคดีในสหรัฐอเมริกา กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ได้ดำเนินคดีกับนายเจอรัลด์ กรีนและนางแพทริเชีย กรีน สองสามีภรรยานักธุรกิจชาวอเมริกันในความผิดฐานให้สินบนเจ้าหน้าที่รัฐต่างประเทศอันเป็นความผิดตามกฎหมายของสหรัฐอเมริกา โดยจำเลยทั้งสองได้รับโทษถึงที่สุดแล้ว ขณะที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยึดเงิน 60 ล้านบาท ของนางจุฑามาศ ที่ฝากอยู่ตามธนาคารใน 5 ประเทศ จากการตรวจสอบพบว่า นางจุฑามาศ มีทรัพย์สินเป็นเงินที่ฝากอยู่ในบัญชีประเทศอังกฤษ ไอร์แลนด์ สิงคโปร์ เกาะเจอร์ซีย์ และสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีบุตรสาวเป็นผู้ถือครองแทน และการชี้แจงถึงที่มาของเงินดังกล่าวไม่มีน้ำหนักที่จะรับฟังได้
+++เจ้าหน้าที่ทหารและกู้ภัยออสเตรเลีย เดินทางเข้าถึงพื้นที่ชายฝั่งซึ่งประสบภัยจากพายุไซโคลนเด็บบี้ ในรัฐควีนส์แลนด์ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย และร่วมฟื้นฟูพื้นที่ที่เสียหาย โดยพายุเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งในรัฐควีนส์แลนด์เมื่อวานนี้ และทำให้มีฝนตกหนัก ลมแรงเป็นเวลาหลายชั่วโมง ทำให้ต้นไม้ใหญ่ล้มกีดขวางถนน ไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง และมีผู้เสียชีวิต 1 คนจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ และยังมีเหตุดินถล่มบริเวณชายหาดโบเวนและแอร์ลี
+++นายกรัฐมนตรีมัลคอล์ม เทิร์นบูล ประกาศให้เจ้าหน้าที่และประชาชนปฏิบัติตามแผนรับมือภัยพิบัติ และให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นประชาชนหลายพันคน ยังพักอยู่ในที่พักชั่วคราว เนื่องจากพายุไซโคลนยังมีความรุนแรงอยู่ในระดับ4 ที่ทำให้มีลมกรรโชกแรง และฝนตกหนัก ซึ่งนางแอนนาสตาเซีย ปาลาสซุค มุขมนตรีรัฐควีนส์แลนด์เปิดเผยว่า พื้นที่เสียหายหนักคือชายฝั่งวิทซันเดย์ และเกาะต่างๆ โดยเฉพาะที่เกาะเดย์ดรีม ซึ่งมีนักท่องเที่ยวอยู่ประมาณ 200 คนกับเจ้าหน้าที่ 100 คน
แฟ้มภาพ