+++หลังจากที่เมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่สรรพากร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางพลัด ปิดเอกสารการประเมินเรียกเก็บภาษีจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯเกี่ยวกับหุ้นชินคอร์ปกว่า 1.7 หมื่นล้านบาท ที่รั้วหน้าบ้านจันทร์ส่องหล้า เลขที่ 472 ซอย จรัญสนิทวงศ์ 69 แขวงและเขตบางพลัด ซึ่งเป็นที่อยู่ของนายทักษิณ ตามทะเบียนราษฎร เป็นการคำนวณภาษีถึงวันที่ 31 มีนาคม 2560
+++การประเมินภาษีดังกล่าวเป็นการประเมินจากกรณีที่ซื้อหุ้นของบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือหุ้นชินคอร์ป จำนวนหุ้นกว่า 329 ล้านบาทจากบริษัทแอมเพิลริชมาในราคา 1 บาท จากราคาตลาด 49.25 บาท และนำไปขายให้เทมาเส็ก เท่ากับมีส่วนต่าง 48.25 บาท ดังนั้น นายทักษิณมีรายได้พึงประเมิน 15,899,272.594.53 บาท รายได้จำนวนนี้ต้องมาคำนวณเพื่อเสียภาษี
+++นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ฐานะหนึ่งในทีมกฎหมายนายทักษิณ ว่า นายทักษิณจะใช้สิทธิอุทธรณ์ภายในเวลา 30 วัน ขณะนี้ได้ฟอร์มทีมนักกฎหมายขึ้นมาเพื่อดูแลเรื่องนี้แล้ว ทั้งนี้ นายทักษิณ ไม่มีภาระและความรับผิดที่จะต้องชำระภาษี หวังว่าคณะกรรมการฯจะรับอุทธรณ์ด้วยดี ส่วนผลจะเป็นอย่างไรคงสรุปตอนนี้ไม่ได้ แต่จะมีกระบวนการต่อเนื่องไปในชั้นศาลภาษีอากรกลาง
+++เรื่องวัดพระธรรมกาย นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมว.ยุติธรรม พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) หารือร่วมกัน นายสุวพันธุ์ รายงานสถานการณ์วัดพระธรรมกาย การติดตามพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย การทำงานร่วมกันระหว่างคณะสงฆ์และ พศ.การดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยภายในวัดที่ได้รับความร่วมมือมากขึ้น ส่วนเรื่องการบริหารงานวัด เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีรับจะเข้ามาดูแล แต่เห็นว่าน่าจะเพิ่มอะไรบางอย่างเพื่อให้คนมีความมั่นใจ อาจจะเป็นรูปแบบของคณะกรรมการร่วมหลายฝ่าย โดยมอบให้ ผอ.พศ.ไปหารือกับคณะสงฆ์ต่อไป
+++ส่วนจะมีการพิจารณาเรื่องพื้นที่ควบคุมว่าจะยกเลิกหรือไม่ ให้อธิบดีดีเอสไอ ไปทำข้อพิจารณาและส่งเรื่องกลับมาภายใน 1-2 วันนี้
+++ด้านพระทัตตชีโว อดีตรักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี พร้อมพระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เดินทางเข้าพบพนักงานอัยการเพื่อรับทราบข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตามที่อัยการได้นัดหมายไว้ โดยพระทัตตชีโวมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ก่อนเข้าพบพนักงานอัยการ จากนั้นเดินทางกลับทันทีโดยไม่ให้สัมภาษณ์
+++นายปัญญา ถาวรอัครนิล ทนายความดูแลด้านกฎหมายให้พระของวัดพระธรรมกาย เปิดเผยว่า อัยการยังไม่มีการสั่งฟ้องศาล เพราะทางวัดขอความเป็นธรรมอยู่ โดยยังมีการสืบสำนวนและสรุปสำนวนอยู่ อัยการ จะขอเลื่อนระยะเวลาออกไปตามกำหนดนัดครั้งละ 6 วัน โดยพระทั้งสองรูปจะต้องเดินทางมาตามนัดของอัยการจังหวัดธัญบุรี เพื่อมาเซ็นรับทราบทุกครั้ง โดยนัดครั้งต่อไปจะเป็นวันที่ 3 เม.ย.นี้
+++พระสงฆ์วัดพระธรรมกาย ทั้งหมด 13 รูป ได้เดินทางมาพบอัยการจังหวัดธัญบุรีเป็นที่เรียบร้อย ยังขาดอยู่ 1 รูป คือ พระธัมมชโย
+++นายสมศักดิ์ ห่มม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะรักษาการแทนผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) มอบนโยบายให้รองผู้อำนวยการ ขสมก.และผู้ที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบความเรียบร้อยเรื่องการส่งมอบงานต่างๆ ว่ามีเรื่องไหนเป็นเรื่องเร่งด่วนและเป็นเรื่องที่ค้างจำเป็นต้องทำ รวมทั้งให้ไปพิจารณาเรื่องหนี้สิน ของ ขสมก.ว่ามีส่วนใดเกิดจากนโยบาย และส่วนใดเกิดจากการดำเนินการของ ขสมก.เอง นอกจากนี้ยังได้สอบถามถึงการจัดหารถโดยสารที่ใช้ก๊าชธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง (เอ็นจีวี) 489 คันกับบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด โดยได้แต่งตั้งฝ่ายกฎหมายขึ้นมา 1 ชุดเพื่อดูข้อกฎหมาย รวมทั้งมอบให้คณะกรรมการตรวจรับรถไปพิจารณา และให้ทั้ง 2 คณะเสนอความเห็นกลับมา คาดว่าไม่เกิน 15 วันหลังจากนี้จะได้ข้อสรุปชัดเจนว่าจะยกเลิกสัญญากับบริษัท เบสท์รินหรือไม่ ซึ่งจะต้องนำผลเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกิจการ (บอร์ด) ขสมก.พิจารณาด้วย
+++การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) วาระพิเศษระหว่างวันที่ 29-31 มี.ค. เป็นการพิจารณากฎหมายสำคัญหลายฉบับที่เสนอโดยคณะรัฐมนตรี สำหรับวันนี้ มีวาระสำคัญคือกระบวนการดำเนินการถอดถอนนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรมว.ต่างประเทศ ออกจากตำแหน่ง จากกรณีออกหนังสือเดินทางให้นายทักษิณ โดยมิชอบ โดยจะเป็นขั้นตอนการรับฟังคำแถลงปิดสำนวนด้วยวาจาของคู่กรณีคือ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผู้กล่าวหา และนายสุรพงษ์ ผู้ถูกกล่าวหา ก่อนที่จะนัดลงมติถอดถอนหรือไม่ถอดถอนในการประชุมสนช.วันที่ 30 มี.ค.
+++ ศาลอาญา นัดฟังคำพิพากษาศาลอาญา คดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่อัยการฟ้องนางจุฑามาศ ศิริวรรณ อายุ 70 ปี อดีตผู้ว่าททท. และ น.ส.จิตติโสภา ศิริวรรณ บุตรสาว อายุ 43 ปี ร่วมกันทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 ,พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (ฮั้วประมูล) พ.ศ.2542 ม.12 กรณีเรียกรับ เงิน 60 ล้าน จากสามีภรรยานักธุรกิจชาวอเมริกัน จัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ Bangkok film ปี2546
+++ความเคลื่อนไหวสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 64 เซนต์ ปิดที่ 48.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 58 เซนต์ ปิดที่ 51.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
+++ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ พุ่งขึ้นแรง จากปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มการเงินและพลังงาน ขณะที่ข้อมูลพบว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 16 ปี
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 150.52 จุด ปิดที่ 20,701.50 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 16.98 จุด ปิดที่ 2,358.57 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 34.77 จุด ปิดที่ 5,875.14 จุด
+++ราคาทองคำ ปิดในแดนลบ ทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 10 เซนต์ ปิดที่ 1,255.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แฟ้มภาพ