ป.ป.ท.มีมติตั้งอนุกรรมการไต่สวนคดี"บิลลี่"เป็นคดีเร่งด่วน

20 กรกฎาคม 2557, 07:21น.


กรณีนายนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนชาวกะหร่างในพื้นที่ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี และพยานปากสำคัญในคดีชาวบ้านบางกลอย จ.เพชรบุรี ยื่นฟ้องกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรณีเจ้าหน้าที่อุทยานทำลายที่พักและพืชไร่อ้างว่าบุกรุกป่าสงวน ซึ่งเขาสูญหายไปตั้งแต่วันที่ 17 เมษายนนั้น นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ท. มีมติให้ตั้งคณะอนุกรรมการ 3 ชุด ขึ้นมาไต่สวนคดีสำคัญเร่งด่วนอีก 3 คดี โดยคดีของนายบิลลี่เป็น 1 ในนั้น ตามที่นางพิณนภา พฤกษาพรรณ ภรรยาของนายบิลลี่ เข้าแจ้งความต่อตำรวจ สภ.แก่งกระจาน เอาผิดเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เนื่องจากนายบิลลี่ถูกเจ้าหน้าที่อุทยานจับกุมในข้อหาลักของป่า แต่ไม่ยอมส่งตัวนายบิลลี่ให้ตำรวจในฐานะพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี จึงถือว่าเจ้าหน้าที่อุทยานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ คณะกรรมการจึงมีมติให้ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาไต่สวนเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน เพราะคดีนี้ตำรวจ สภ.แก่งกระจาน เป็นผู้ส่งสำนวนและเอกสารขอให้ ป.ป.ท.เร่งดำเนินการ จึงต้องเรียกเจ้าหน้าที่อุทยานที่เกี่ยวข้องในช่วงเวลานั้นมาสอบปากคำด้วย



ส่วนอีก 2 คือ คดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับชาวพม่าหลอกชาว โรฮิงญาหลบหนีเข้าเมือง ซึ่งเข้าข่ายค้ามนุษย์ เมื่อปี 2556 ในพื้นที่ภาคใต้ และคดีเจ้าหน้าที่เทศบาลเมือง จ.ชัยภูมิ ทุจริตจัดทำโครงการฝังกลบขยะวงเงิน 1 แสนบาท โดยการขุดหลุมฝังกลบ แต่ไม่ปฏิบัติตามสัญญาจ้างเหมา กลับนำขยะไปกองทิ้งไว้ในชุมชน



นอกจากนี้ยังมีมติชี้มูลความผิดและส่งสำนวนให้อัยการสั่งฟ้องคดีอาญารวม 3 คดี ได้แก่ คดีเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าประจำอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย ทำความผิดวินัยร้ายแรงและทำผิดคดีอาญา คดีตำรวจนครบาลสามเสนเป็นเจ้าพนักงานซื้อจัดทำการรักษาทรัพย์โดยนำทรัพย์ไปเป็นของตนเองและผู้อื่นโดยทุจริต มีความผิดตามมาตรา 147 และ 157 และคดีเจ้าหน้าที่ กทม.เขตคลองสาน เป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ย้ายบุคคลอื่นเข้าทะเบียนบ้าน ซึ่งไม่มีสภาพบ้านอยู่จริง และออกบัตรประชาชนให้ใหม่ นอกจากนี้ ป.ป.ท.จะส่งหลักฐานให้หน่วยงานต้นสังกัดดำเนินการเอาผิดทางวินัยร้ายแรงต่อไป



....

ข่าวทั้งหมด

X