โฆษกรัฐบาล เผย เล่นน้ำสงกรานต์ให้ปลอดภัย อย่าเล่นน้ำท้ายกระบะบนถนนสายหลัก อันตราย!

28 มีนาคม 2560, 16:54น.


หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงกรณีการเล่นน้ำในช่วงเทศกาลสงกรานต์  ที่มีข่าวอ้างอิงตนเองที่พูดว่า สงกรานต์ปีนี้เจ้าหน้าที่ไม่ได้อนุญาตให้นำโอ่งหรือถังน้ำขึ้นท้ายรถกระบะ แต่จะต้องไม่มีคนไปนั่งหรือยืนอยู่ท้ายรถ หากพบจะต้องถูกตำรวจจับปรับแน่นอน โดยจะต้องนั่งรัดเข็มขัดนิรภัยอยู่ภายในห้องโดยสารเท่านั้น ขอชี้แจงว่า เป็นการตัดต่อนำเอาคำในบางส่วนมา ความจริงแล้ว สิ่งที่ออกมาพูดคือ ในการเล่นน้ำสงกรานต์ เจ้าหน้าที่พร้อมจะผ่อนผันให้เนื่องจากอยู่ในช่วงเทศกาล แต่หากจะขนน้ำไปเล่นที่ใด ให้บรรจุน้ำในถังไว้ท้ายรถ ส่วนตัวคนให้ไปนั่งในรถจนกว่าจะถึงจุดหมาย จึงลงจากรถออกมาเล่นที่ท้ายรถกระบะได้ หรือหากจะอยู่ท้ายรถกระบะเพื่อรถระหว่างทาง เจ้าหน้าที่ก็ ขอให้เล่นอยู่ในชุมชนหรือหมู่บ้าน อย่าขึ้นไปเล่นบนท้ายกระบะในถนนสายหลัก เพราะจะเกิดอุบัติเหตุได้ ส่วนคำสั่งตามมาตรา 44 ที่ระบุให้ผู้โดยสารรถรถยนต์ส่วนบุคคลจะต้องคาดเข็มขัดนิรภัยนั้น ไม่ได้บังคับว่ารถยนต์ส่วนบุคคลทุกคัน จะต้องคาดเข็มขัดนิรภัย ทั้งนี้ต้องดูจากปีที่จดทะเบียนไว้ว่าเข้าหลักเกณฑ์ตามที่ได้กำหนดหรือไม่ ซึ่งหากปีที่มีการจดทะเบียนได้มีการติดตั้งเข็มขัดนิรภัยแล้วก็จะต้องคาดให้ถูกต้อง เพื่อความปลอดภัย



ส่วนการประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือคสช. เมื่อช่วงเช้า ได้มีการพิจารณาในประเด็นด้านการศึกษา ประกอบด้วย การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานของสถาบันอุดมศึกษาซึ่งในอดีตมีหลักเกณฑ์ในการเลือก อธิการบดีของมหาวิทยาลัย ที่จะต้องเป็นข้าราชการ โดยคำสั่งตามมาตรา 44 ได้เปิดโอกาสให้ผู้ไม่เป็นข้าราชการ ก็สามารถเป็นอธิการบดีได้ ซึ่งจะมีข้อดีทำให้มีตัวเลือก ที่เหมาะสมในการดำรงตำแหน่งอธิการบดีมากขึ้น  นอกจากนี้ยังมีการพิจารณาเรื่องการปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาค โดยในการจัดตั้งศึกษาธิการภาค 18 ภาค ใน 18 กลุ่มจังหวัด กำหนดให้ ผู้ตรวจราชการ หรือข้าราชการระดับ 10 ผู้ทำหน้าที่เป็นศึกษาธิการภาคและศึกษาธิการจังหวัด ต้องมาจากการสรรหา โดยกระทรวงจะเป็นผู้พิจารณาการสรรหาและกำหนดกฎระเบียบในการสรรหา ต่อไป



ส่วนการประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบ อนุญาตให้แรงงานต่างด้าว ประเทศกัมพูชา ลาว เมียนม่า เดินทางกลับประเทศได้ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ในระหว่างวันที่ 5 -30 เมษายน โดยการขออนุญาตเดินทางกลับให้ไปยื่นหนังสือรับรองจาก สำนักงานจัดหางานจังหวัดในพื้นที่ที่ทำงานอยู่ โดยไม่ต้องเดินทางมายื่นที่กรุงเทพมหานคร และสามารถเดินทางกลับได้ทั้งตัวเอง รวมทั้งบุตรอายุไม่เกิน18 ปี และอยู่ในระยะเวลาการอนุญาตให้อยู่ในประเทศไทย โดยนายกรัฐมนตรี ได้กำชับทุกกระทรวงให้ดูแลอำนวยความสะดวกให้แรงงานต่างด้าว และจะไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมทั้งขาเข้าและขาออกประเทศ หากมีรายงานการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเข้ามา จะตรวจสอบเจ้าหน้าที่อย่างเร่งด่วน



รวมทั้งจะมีการทบทวนกฎกติกา เรื่องการสอบใบอนุญาตขับขี่ ที่ก่อนหน้านี้ ได้ระบุว่าต้องเข้ารับการอบรม 15 ชั่วโมง โดยสามารถฝึกอบรมได้ที่โรงเรียนขนส่งใน 5 พื้นที่ 5 จังหวัด หรือ เข้าฝึกอบรมที่ขนส่งของจังหวัด หรือไปที่โรงเรียนสอนขับรถยนต์ของภาคเอกชน ทั้งนี้มีเสียงร้องเรียนเรื่องค่าใช้จ่าย และมาตรฐานต่างๆ  จึงต้องนำไปพิจารณาและมาเสนอใหม่อีกครั้ง

ข่าวทั้งหมด

X