ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาวางเพลิงสะพานไทย-เบลเยี่ยม ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ยืนยันไม่มีเจตนาวางเพลิง แต่ยอมรับประมาททิ้งก้นบุหรี่ในกองขยะ ขณะทำธุระส่วนตัว พลตำรวจโทศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ ควบคุมตัวนายสำราญ สุขเขียว หรือ เอก ล็อคหนึ่ง มือเผาสะพานไทย-เบลเยี่ยม เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์เพื่อชี้จุดและทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
เริ่มจากจุดแรกบริเวณที่ผู้ต้องหาใช้นอนพักอาศัยอยู่ใต้สะพาน จุดที่สอง เป็นบริเวณข้ามสะพานฝั่งสวนลุมพินี ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหาเดินไปเก็บก้นบุหรี่ ส่วนจุดที่ 3 เป็นช่องระหว่างสะพาน ที่ผู้ต้องหาเดินลงไปทำธุระส่วนตัว และได้นำก้นบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ ก่อนทิ้งลงไปในกองขยะ แล้วเดินออกจากที่เกิดเหตุ จนกระทั่งพบกลุ่มควันออกมาจากใต้สะพาน พยายามจะบอกเพื่อนซึ่งเป็นคนเร่ร่อนด้วยกันให้ช่วยดับไฟ แต่ไม่มีใครสนใจ ด้วยความกลัวจึงได้หลบหนีไปพักอาศัยอยู่ย่านหัวลำโพง และถูก สน.ท่าเรือ จับกุมตัวไว้ได้ ในข้อหาเร่ร่อน
นายสำราญ ยอมรับว่าไม่ได้ตั้งใจก่อเหตุวางเพลิงหรือมีความขัดแย้งกับบุคคลเร่ร่อนด้วยกัน แต่ทำไปด้วยความประมาท เนื่องจากที่ผ่านมาใช้ชีวิตอยู่ในบริเวณดังกล่าวเป็นเวลานานกว่า 1 เดือน มีอาชีพเก็บของเก่าขาย เวลาขับถ่ายส่วนใหญ่จะไปเข้าที่สวนลุมพินี แต่วันนั้นปวดท้องจนทนไม่ไหว
พลตำรวจโทศานิตย์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบนายสำราญ เดินอยู่ในจุดเกิดเหตุจึงขอศาลออกหมายจับ สอบสวนสารภาพว่า ไม่มีเจตนาวางเพลิง และจากการสอบสวนไม่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองหรือเป็นมาเฟียขัดแย้งกับคนเร่ร่อนด้วยกัน โดยจะนำผู้ต้องหาไปตรวจสภาพจิตใจเพื่อยืนยันเป็นคนวิกลจริตหรือไม่ พร้อมกำชับตำรวจทุกท้องที่กวดขันจับกุมคนเร่ร่อน และคนวิกลจริตอย่างจริงจัง ป้องกันเกิดเหตุลักษณะนี้อีก
เบื้องต้นนายสำราญถูกแจ้งข้อหา กระทำการให้เกิดเพลิงไหม้โดยประมาทและทำให้ทรัพย์สินของผู้อื่นได้รับความเสียหาย ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 14,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ จะควบคุมตัวไปขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ฝากครั้งผลัดแรกวันพรุ่งนี้(25 มี.ค.) พร้อมคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเกรงว่าจะหลบหนี