คณะทำงานสืบสวนสอบสวนเหตุการณ์เครื่องบินโดยสารของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ MH17 ตกในยูเครนของทางการมาเลเซีย จำนวน 62 คน มีกำหนดเดินทางถึงกรุงเคียฟของยูเครนในวันนี้ นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ของ มาเลเซีย กล่าวว่า เขาได้หารือทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เพื่อขอความช่วยเหลือทางการรัสเซียในการจัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปในพื้นที่ที่เครื่องบินตก ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 298 คน สำนักข่าวเบอร์นามาของทางการมาเลเซียรายงานอ้างคำกล่าวของนายกรัฐมนตรีมาเลเซียว่า ผู้นำมาเลเซียได้บอกกับผู้นำรัสเซียว่า พื้นที่ที่เกิดเหตุเครื่องบินตกไม่ควรมีการปรับเปลี่ยน จนกว่าคณะทำงานของมาเลเซียจะเดินทางเข้าไปถึงและเริ่มต้นกระบวนการสืบสวน ผู้นำมาเลเซียแสดงความหวังว่า ประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชงโกแห่งยูเครน จะเห็นพ้องในการพักรบในพื้นที่ที่เครื่องบินประสบเหตุ เพื่อเปิดทางให้เจ้าหน้าที่ต่างชาติเข้าไปสอบสวนเหตุการณ์ในพื้นที่ดังกล่าวได้อย่างสะดวกและปลอดภัย
ด้านกระทรวงคมนาคมมาเลเซียรายงานว่า ในจำนวนคณะทำงานที่รัฐบาลมาเลเซียส่งเข้าไปในยูเครน มีเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนเหตุการณ์เครื่องบินตกจำนวน 2 คนที่ทางการยูเครนเชิญให้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสอบสวนด้วย นอกจากนั้นยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านการบิน การแพทย์ ผู้แทนจากกองทัพอากาศมาเลเซีย จากสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ และจากสำนักงานกิจการการบินพลเรือนร่วมในคณะด้วย และแม้ว่าจุดที่เครื่องบินตกนั้นจะอยู่ในการยึดครองของกลุ่มกบฎ แต่ความรับผิดชอบในการสืบสวนสอบสวนยังต้องเป็นความร่วมมือกับรัฐบาลยูเครนตามที่บัญญัติไว้ในข้อตกลงสากล ท่ามกลางความวิตกว่า การเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวจะถูกขัดขวาง เนื่องจากเป็นพื้นที่การปะทะกันระหว่างกองทัพยูเครนกับกลุ่มกบฎที่ฝักใฝ่รัสเซีย และก่อนหน้านี้ก็มีรายงานว่า คณะผู้สังเกตการณ์จากองค์การเพื่อความมั่นคงและความร่วมมือแห่งยุโรป ซึ่งเดินทางไปถึงบริเวณที่เครื่องบินตกแล้ว แต่ไม่สามารถเข้าไปสังเกตการณ์เหตุการณ์ได้ทั้งหมด เนื่องจากมีการขัดขวางจากกลุ่มกบฎ ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศของเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นประเทศต้นทางของเที่ยวบินลำที่ประสบเหตุตก และมีผู้โดยสารชาวดัตช์เสียชีวิตจากเครื่องบินตกครั้งนี้เกือบ 200 คน เดินทางถึงกรุงเคียฟแล้ว พร้อมเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนอีก 15 คน เพื่อร่วมในการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น