ย้ำไม่เลิกจ้าง หลังไฟไหม้รง.พลาสติกในนิคมอุตสาหกรรมทองโกรว์/พระพุทธอิสระขอโทษผอ.พศ.หลังแพร่คลิปพูดคุย/รมว.กต.ย้ำเหตุก่อการร้ายในอังกฤษยุติแล้ว

ข่าวเที่ยงครึ่ง

+++กรณีเพลิงไหม้โรงงานพลาสติกบริษัท เอสพีซี อินเตอร์พรินท์ จำกัด เลขที่ 222/9 หมู่ 2 นิคมอุตสาหกรรมทองโกรว์ ถนนบางนา-ตราด ต.คลองตำหรุ อ.เมือง จ.ชลบุรี ส่งผลให้โรงงานได้รับความเสียหายทั้งหมด ทั้งตัวอาคารสำนักงาน โรงพิมพ์ และคลังเก็บวัสดุ นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากคานเหล็กถล่มลงมาทับ 2 รายคือ นายเอกวัฒน์ จิตรมั่น อายุ 35 ปี กับนายขวัญชัย เฉลิมทองแก้วดี อายุ 45 ปี ล่าสุด เจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังคงปักหลักเฝ้าระวังไม่ให้ไฟลุกลามขึ้นมาอีก จึงพยายามฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไว้ตลอดเวลา เบื้องต้นประเมินค่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท โดยตอนเกิดเหตุเห็นกลุ่มควันพวยพุ่งออกมา ก่อนจะเกิดไฟลุกไหม้รุนแรงและรวดเร็ว         ด้านนายวิเชียร เสงี่ยม หัวหน้าสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จ.ชลบุรี กล่าวว่าเวลานี้ยังไม่มีการเลิกงานพนักงานของโรงงานที่เกิดไฟไหม้ แต่ให้ย้ายไปทำงานที่บางพลีแทน เพื่อรอเคลียร์พื้นที่ให้เรียบร้อยก่อน โดยยืนยันว่าจะไม่มีการสั่งปลดคนงานแต่อย่างใด

+++หลังเกิดเหตุก่อการร้ายอาคารรัฐสภาที่อังกฤษเมื่อคืนนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า เป็นเรื่องของอังกฤษ ในส่วนของประเทศไทย ได้สั่งการให้ฝ่ายความมั่นคงระมัดระวังตลอดเวลาอยู่แล้ว และไม่ต้องยกระดับการดูแล เพราะเฝ้าระวังอยู่ทุกวัน ส่วนกรณีใช้คำวั่งมาตรา 44 บังคับใช้การจราจรอย่างเข้มงวดนั้น พลเอกประวิตรกล่าวว่า  ยังไม่พบอุปสรรคการทำงานระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกรมขนส่งทางบก

+++นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ทางสถานทูตไทยในกรุงลองดอน รายงานว่าเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงบ่ายตามเวลาท้องถิ่น โดยไม่มีคนไทยได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งหลังเกิดเหตุการณ์ขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ และจากการประเมินของทางอังกฤษ คาดว่าผู้ก่อเหตุมีเพียงคนเดียว ส่วนสถานการณ์ในขณะนี้ได้กลับมาเป็นปกติแล้ว ความเสียหายที่เกิดขึ้นและมีคนบาดเจ็บหลายสิบคนนั้น ขณะนี้สถานการณ์ คลี่คลายแล้ว ทุกคนก็ต้องรับรู้และระวังตัวเพราะความเสี่ยงมีอยู่เสมอ ส่วนเรื่องแจ้งเตือน ยังไม่มีอะไรพิเศษ เพราะทางสถานทูตได้ดำเนินการเรื่องให้คนไทยเฝ้าระวังและติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดและยังไม่ได้เรียกสถานทูตไปชี้แจงแต่อย่างใด

++++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ลงนามในคำสั่ง คสช. เมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2560 แต่งตั้งคณะกรรมการการสร้างความรู้ ความเข้าใจ และรับทราบความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์พลังงานไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้ โดยคณะกรรมการชุดดังกล่าวมีจำนวนทั้งสิ้น 17 คน โดยมีผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) หรือเลขาธิการ คสช. เป็นประธานกรรมการ คณะกรรมการชุดนี้มีหน้าที่กำหนดกรอบแนวทางการสร้างความรู้ ความเข้าใจ และรับทราบความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์พลังงานไฟฟ้าในภาคใต้ โดยให้จัดกิจกรรมภายในวันที่ 31 มี.ค. 2560 รวมถึงอำนวยการและประสานงานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในระดับนโยบายนอกจากนี้ ได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงให้ข้อมูลหรือจัดส่งเอกสารที่จำเป็นเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาตามความเหมาะสม อีกทั้งต้องรายงานผลการดำเนินงานนี้และจัดทำข้อเสนอแนะ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาแก่รัฐบาล ภายในวันที่ 28 เม.ย.นี้

+++พระพุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย และแกนนำ กปปส.เวทีแจ้งวัฒนะ โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก ขออภัยในความผิดพลาดกรณีเผยแพร่คลิปสนทนากับ ผอ.สำนักพุทธฯ โดยระบุว่า ขออภัยในความผิดพลาดจากกรณีคลิปหลุด เรื่อง ผอ.สำนักพุทธ สนทนากับพุทธะอิสระ ในกรณีความล่าช้าของศาลสงฆ์ที่ยังไม่ดำเนินการใดๆ กับวัดพระธรรมกาย พร้อมทั้งขอยืนยันว่าพุทธะอิสระไม่ได้สนิทสนมกับท่าน ผอ.สำนักพุทธคนใหม่เป็นการส่วนตัว ท่าน ผอ.ไม่ได้เป็นลูกศิษย์ของพุทธะอิสระ เพียงแต่พุทธะอิสระได้รับความกรุณาจากท่าน ผอ.ด้วยการช่วยอธิบายความสงสัยในการทำงานของคณะสงฆ์ปกครอง ให้พุทธะอิสระได้เข้าใจเท่านั้น ประเด็นในเรื่องนี้มันคงอยู่ที่การสนทนาครั้งนี้มันมีการถ่ายคลิปเอาไว้ด้วย ซึ่งก็ถือว่าเป็นปกติวิถีชีวิตของพุทธะอิสระ ที่ในแต่ละวัน แต่ละเวลา เมื่อมีภารกิจใด เจ้าหน้าที่เขาจะทำการถ่ายคลิปนำไปเผยแพร่ให้ผู้คนได้รับชม ซึ่งหากวันใดพุทธะอิสระจะต้องมีภารกิจสำคัญและพูดคุยกับบุคคลสำคัญ หรือเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ก็จะสั่งห้ามไม่ให้นำคลิปนั้นๆ ไปเผยแพร่ จากการสอบถาม เขาทำไปด้วยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เป็นเหตุทำให้พุทธะอิสระและท่าน ผอ.สำนักพุทธ เสื่อมเสีย และไม่เป็นผลดีใดๆ เลย ขอโทษท่าน ผอ.เป็นอย่างยิ่ง พร้อมกันนี้ได้สั่งให้ผู้เผยแพร่คลิปไปมอบตัวกับเจ้าหน้าที่และไปกราบขอโทษท่าน ผอ.แล้ว และแม้ท่าน ผอ.จะแจ้งความร้องทุกข์เอาผิด พุทธะอิสระก็พร้อมที่จะรับผิดชอบโดยไม่คิดโกรธเคืองหรือตำหนิใดๆ เลย

+++ ในการประชุมคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อศึกษาการจัดตั้งกองทุนข้าว มีรูปแบบเหมือนกับกองทุนอ้อยและน้ำตาลเพื่อใช้ในการดูแลเกษตรกรชาวนา เนื่องจากพบว่าปัญหาราคาข้าวตกต่ำในประเทศ ส่วนหนึ่งมาจากผู้ค้าข้าวทำสัญญาซื้อขายในตลาดต่างประเทศต่ำเป็นเหตุให้มีการกดราคารับซื้อ    น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้ขอความร่วมมือชาวนาให้งดการปลูกข้าวนาปรังรอบที่ 3 เพื่อประหยัดน้ำ และเพื่อให้ผลผลิตข้าวอยู่ในกรอบของโครงการข้าวครบวงจร เนื่องจากปัจจุบันปลูกข้าวเกินแผนเกือบ 3 ล้านไร่ ส่งผลต่อปริมาณผลผลิตข้าวที่จะออกมาในปี 2560 โดยกรมชลประทานรายงานว่าขณะนี้มีพื้นที่ทำนาเสี่ยงขาดน้ำ 2 ล้านไร่ และเตรียมลดการระบายน้ำจาก 4 เขื่อนหลักจากวันละ 48 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ให้เหลือ 32 ล้าน ลบ.ม.

+++นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ผู้รับมอบอำนาจจาก คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์  แกนนำพรรคเพื่อไทย เข้าแจ้งความกับ พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. ให้ดำเนินคดีกับเพจเฟสบุ๊ก ที่ใช้นามแฝงว่า “พี่คนดี” ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา หลังเพจดังกล่าวได้นำภาพถ่ายของคุณหญิงสุดารัตน์ ที่กำลังให้ความรู้กับพระนวกหรือพระที่บวชใหม่ ของวัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก  เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ที่ผ่านมา มาโพสพร้อมแต่งกลอนแปดต่อว่าด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย กล่าวหาว่าเป็นนักการเมืองพิเศษมาเทศน์ให้พระฟัง และยังกล่าวหาเชื่อมโยงกับกิจกรรมของวัดพระธรรมกายด้วย ถือเป็นเจตนาที่ไม่สุจริต ทำให้คุณหญิงสุดารัตน์ ได้รับความ เสียหาย ข้อเท็จจริงของภาพที่ปรากฏ เนื่องจากคุณหญิงสุดารัตน์ ได้รับเชิญบ่อยครั้งในฐานะทำงานด้านส่งเสริมพระพุทธศาสนามา และยังมีการนำข้อความและภาพดังกล่าวไปโพสต่อในกลุ่มแอพพลิเคชั่นไลน์ด้วย จึงนำภาพถ่ายและบทสนทนามามอบให้ตำรวจเป็นหลักฐานให้ดำเนินคดี