ตำรวจ บังคับใช้คำสั่งม. 44 เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง รับเทศกาลสงกรานต์ รับมีคำจ่ายค่าปรับเพียงร้อยละ 1

22 มีนาคม 2560, 14:48น.


หลังจากหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)มีคำสั่งที่14/2560 ใช้มาตรา44  ออกมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวานนี้ พลตำรวจโทวิทยา ประยงค์พันธุ์  ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ได้เกิดอุบัติเหตุจำนวนมาก รัฐบาลจึงออกมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบกอย่างเร่งด่วน 3 ข้อ โดยมี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)และกรมการขนส่งทางบก ร่วมดำเนินการ ประกอบด้วยกรณีจอดรถกีดขวางจราจร เจ้าหน้าที่จราจร มีอำนาจยกรถไปเก็บรักษาได้ทันที โดยเจ้าของรถจะต้องผู้รับผิดชอบออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด ,การบังคับใช้กฎหมายให้ผู้ขับขี่รถยนต์   รถโดยสารสาธารณะทุกประเภท และ ผู้โดยสาร คาดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่งส่วนรถกระบะ หรือรถยนต์รุ่นเก่า ที่ไม่มีเข็มขัดนิรภัย กรมการขนส่งทางบก อยู่ระหว่างพิจารณา เพื่อสามารถบังคับใช้ให้ทันช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้



สุดท้ายกรณีผู้ที่ถูกออกใบสั่ง แต่ไม่มาชำระค่าปรับ จะต้องมาชำระค่าปรับภายใน 7-30วัน ตามข้อหาที่ได้รับ  หากยังไม่ชำระ จะออกหนังสือเตือนให้มาชำระภายในเวลา 15 วัน หากไม่มาอีก สตช. ก็จะทำหนังสือเพื่อบันทึกข้อมูลส่งไปยังกรมการขนส่งทางบก ให้ระงับการต่อภาษีประจำปีชั่วคราว  โดยผู้ขับขี่จะต้องไปชำระค่าปรับที่นายทะเบียน กรมการขนส่งทางบก ก่อนภายใน30วัน  ถึงจะได้รับการต่อภาษี หรือชำระอีกทางหนึ่งคือที่ เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย ถ้าภายใน30วันไม่ชำระค่าปรับอีก ก็จะระงับการต่อภาษี1ปี ซึ่งถือว่ารถคันนั้นเป็นรถที่ผิดกฎหมาย  จากการตรวจสอบสถิติการออกใบสั่งตั้งแต่ 1 กันยายน 2559 จนถึงปัจจุบัน มีผู้ทำผิดกฎจราจร 680,000ใบ มีผู้มาชำระค่าปรับเพียงร้อยละ 11เท่านั้น และร้อยละ 2 ที่แจ้งยกเลิกใบสั่ง



อย่างไรก็ตาม หากเจ้าของทะเบียนรถ ยืนยันว่าตัวเองไม่ได้ทำผิดตามที่ออกใบสั่ง สามารถทำหนังสือโต้แย้งกับเจ้าหน้าได้ภายใน15วัน หากตรวจสอบแล้วไม่ได้กระทำผิดจริงก็จะยกเลิกใบสั่ง แต่หากตรวจสอบพบว่ากระทำผิดจริงเจ้าหน้าที่ก็จะส่งเรื่องไปให้ศาลพิจารณาต่อไป



ผู้สื่อข่าว:ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ

ข่าวทั้งหมด

X