+++ความคืบหน้าหลังจากสำนักข่าวบีบีซี รายงานข่าวด่วนเครื่องบิน มาเลเซีย แอร์ไลน์ เที่ยวบินMH17จากอัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ มุ่งหน้า กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ตกที่ยูเครน ระหว่างพรมแดนติดกับรัสเซีย ที่กำลังมีการสู้รบ หลังจากนั้นสำนักข่าวต่างประเทศรายงานเพิ่มเติมว่า เครื่องบินโบอิ้ง 777-200 อีอาร์ ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลนส์ เที่ยวบินที่ เอ็มเอช 17 บรรทุกผู้โดยสาร 280 คน นักบินและลูกเรืออีก 15 คน รวม 295 คน ออกเดินทางจากกรุงอัมสเตอร์ดัม เมืองหลวงเนเธอร์แลนด์ เมื่อเวลา 12.15 น. วันที่ 17 ก.ค. ตามเวลาท้องถิ่น มุ่งหน้าสู่กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงมาเลเซีย กำหนดถึงจุดหมายในเวลา06.10 น.วันที่ 18 ก.ค. ตามเวลาท้องถิ่น แต่ขาดการติดต่อกับหอควบคุมการบินเมื่อเวลา 14.15 น.ตามเวลามาตรฐานสากล หรือตรงกับเวลา 21. 15 น.ตามเวลาในประเทศไทย ก่อนตกแถบชานเมืองชาห์ตาร์สก์ เขตโดเนตส์ ทางภาคตะวันออกของยูเครน ใกล้กับเขตแดนรัสเซีย ผู้โดยสารนักบินและลูกเรือเสียชีวิตทั้งหมด
+++สหรัฐและฝรั่งเศส ต่างระบุว่ามีคนของชาติตัวเองอยู่บนเครื่องด้วย มีรายงานว่า เป็นชาวเนเธอร์แลนด์มากที่สุดถึง 154 คน ออสเตรเลีย 27 คน อเมริกันและมาเลเซีย ชาติละ 23 คน อินโดนีเซีย 11 คน อังกฤษ 6 คน และจากอีกหลายชาติ
โดยผู้เสียชีวิตที่ยังไม่ยืนยันสัญชาติมีอยู่ 39 คน
+++ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า เห็นซากเครื่องบินลำดังกล่าวบนพื้นดิน ไฟกำลังลุกไหม้ เศษซากชิ้นส่วนเครื่องบินกระจายตกในรัศมีประมาณ 15 กิโลเมตร และเห็นผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 100 ศพ ในเขตหมู่บ้านกราโบโว ห่างจากเขตแดนรัสเซียประมาณ 40 กิโลเมตร และพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในการยึดครองของกลุ่มกบฎฝักใฝ่รัสเซีย
+++รายงาน ระบุว่า เที่ยวบินดังกล่าวถูกยิงโดยจรวดต่อต้านอากาศยานแบบพื้นสู่อากาศ บียูเค ขณะบินอยู่ในระดับความสูง 1หมื่นเมตร (33,000 ฟุต) จากพื้นดิน ซึ่งเป็นพิสัยการบินปกติของเครื่องบินโดยสารระหว่างประเทศ และจุดที่ตกเหลือระยะทางอีกประมาณ 50 กิโลเมตร เครื่องบินลำดังกล่าวก็จะบินเข้าสู่เขตน่านฟ้าของรัสเซีย และอยู่ในพื้นที่ที่เกิดกรณีพิพาท และมีการยิงปะทะกันต่อเนื่องตลอด 4 เดือน ระหว่างทหารกองทัพยูเครน กับกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนที่ฝักใฝ่รัสเซีย
+++นายแอนตัน เกราชเชนโก เจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยยูเครน เปิดเผยที่กรุงเคียฟ ว่า เครื่องบินลำดังกล่าวถูกยิงตกโดยกลุ่มก่อการร้าย ซึ่งเป็นคำที่ทางการยูเครนใช้เรียกกลุ่มกบฎแบ่งแยกดินแดนทางภาคตะวันออกซึ่งฝักใฝ่รัสเซีย โดยยิงด้วยจรวดต่อต้านอากาศยาน บียูเค และผู้ที่อยู่บนเครื่องเสียชีวิตทั้งหมด
+++ขณะที่ประธานาธิบดีเปโดร โปโรเชนโก ผู้นำยูเครน กล่าวยืนยันหลังรับทราบรายงานว่า ทหารยูเครนไม่ได้ยิงเป้าหมายใดๆ บนท้องฟ้าขณะเกิดเหตุ
+++ด้าน นายอเล็กซานเดอร์ โบราได หัวหน้ากลุ่มกบฎแบ่งแยกดินแดนภาคตะวันออกยูเครน ยอมรับต่อผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ รอสซิยา 24 ของทางการรัสเซีย ว่า กองทัพอากาศยูเครนเป็นผู้ยิงเครื่องบินโดยสารของมาเลเซียตก
+++ นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศได้สั่งการไปยังสถานเอกอัครราชทูตไทย 3 แห่ง คือ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นประเทศต้นทาง สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงมอสโคว ประเทศรัสเซียซึ่งเป็นประเทศที่เครื่องบินสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลนส์ ตก และสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นประเทศเจ้าของสายการบิน ให้ทำการติดต่อกับทางสายการบินดังกล่าวเพื่อหาทางตรวจสอบรายชื่อผู้โดยสารว่ามีคนไทยอยู่ด้วยหรือไม่โดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ ประเทศไทยขอแสดงความเสียใจกับมาเลเซียที่เกิดเหตุดังกล่าวขึ้นด้วย.
+++นายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัคของมาเลเซีย ทวิตข้อความว่า ช็อคกับข่าวที่เกิดขึ้นและกำลังส่งเจ้าหน้าที่เดินทางไปยังจุดที่เครื่องบินยิงตก และยืนยันผ่านทางสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ว่าหากเครื่องบินลำนี้ถูกยิง ใครที่ดำเนินการเช่นนี้จะต้องถูกลงโทษ และยืนยันว่า เครื่องไม่ได้ขัดข้องและเปิดทางให้ผู้เชี่ยวชาญต่างชาติเดินทางไปยังจุดที่เกิดเหตุได้ทันที
+++สายการบินอื่น ๆประกาศยกลิกบินผ่านฟ้า เหนือยูเครน ๆ ประกาศเขตห้ามบิน
+++นายบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ โทรศัพท์สายตรงถึงประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ระบุว่าทั้งสองประเทศจะต้องร่วมตรวจสอบเหตุการร์ที่เกิดขึ้นร่วมกัน
+++ดัชนีหุ้นสหรัฐฯร่วงอย่างหนัก จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ความตึงเครียดในภูมิภาคนี้เพิ่มสูงขึ้น ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 161.39 จุด ปิดที่ 16976.81 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 23.45 จุด ปิดที่ 1958.12 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็กลดลง 62.52 จุด ปิดที่ 4363.45 จุด
+++ขณะที่ ราคาทองคำ ปิดบวกแรง โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 17.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,316.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์
+++ขณะที่สถานการณ์การยิงปะทะและการสู้รบระหว่างยูเครนกับรัสเซียและกลุ่มที่ฝักใฝ่รัสเซียยังมีต่อเนื่อง ประธานาธิบดี ปูตินของรัสเซีย ประณามสหรัฐกรณีคว่ำบาตรรอบใหม่ต่อรัสเซีย เขากล่าวว่ามาตรการดังกล่าวจะกระทบต่อความสัมพันธ์และภาคธุรกิจของประเทศทั้งสอง ระบุว่ายิ่งจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสองมาถึงทางตัน ที่ผ่านมา สหรัฐและสหภาพยุโรปได้คว่้ำบาตรรัสเซียมาหลายครั้งแล้ว กล่าวหารัสเซียว่าให้การสนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนของยูเครน ผู้นำรัสเซีย เตือนมาตรการลงโทษจะคืนสนองและจะตอบโต้สหรัฐอย่างสาสม
+++สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า เมื่อทันทีที่ช่วงการหยุดยิงยุติลง ทั้งอิสราเอลและกลุ่มฮามาส สองฝ่ายต่างยิงตอบโต้กันทันที ธนาคารในเขตฉนวนกาซา เปิดทำการเป็นครั้งแรกในรอบ 10 วัน ชาวบ้านต่างเข้าแถวเบิกเงินสดจากธนาคารและจากตู้เอทีเอ็ม พร้อมทั้งจับจ่ายซื้อสินค้ากักตุนไว้ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่กาชาดได้เข้าตรวจสภาพโรงพยาบาลและอาคารต่างๆที่ได้รับความเสียหาย นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ออกคำสั่งให้กองทัพเริ่มต้นปฏิบัติการจู่โจมทางภาคพื้นดินในฉนวนกาซา หลังจากไล่ถล่มทางอากาศมานานกว่า 1 สัปดาห์ อ้างเพื่อปกป้องชีวิตพลเรือนอิสราเอล
+++เจ้าหน้าที่รัฐบาลปากีสถาน เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจปากีสถานยิงต่อสู้กับกลุ่มหัวรุนแรงอยู่นานกว่า10 ชั่วโมงซึ่งพวกเขากล่าวว่ากลุ่มหัวรุนแรงกำลังวางแผนโจมตีบ้านพักของนายกรัฐมนตรีนาวัซ ชารีฟ ผู้นำปากีสถาน เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรอง1 คน และกลุ่มหัวรุนแรง2 คน เสียชีวิตเมื่อการต่อสู้ปะทุขึ้นระหว่างปฏิบัติการในช่วงกลางคืนในเมืองลาฮอร์ทางตะวันออกของประเทศ นายกรัฐมนตรีชารีฟเดินทางออกจากบ้านพักไปแล้วเพื่อไปรับฟังรายงานสรุปที่กองบัญชาการใหญ่กองทัพปากีสถานเกี่ยวกับการปฏิบัติการกวาดล้างกลุ่มหัวรุนแรงครั้งใหญ่ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือดินแดน
+++ประธานาธิบดีกู๊ดลัค โจนาธานผู้นำไนจีเรีย ต้องการให้รัฐบาลกู้ยืมเงินจำนวน1 ,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อเสริมความแข็งแกร่งของกองทัพในการต่อสู้กับกลุ่มหัวรุนแรง นายโจนาธาน ได้ส่งหนังสือถึงรัฐสภาเรียกร้องให้อนุมัติงบประมาณดังกล่าวทั้งนี้ ไนจีเรียมีงบประมาณด้านการทหารอยู่ประมาณ6,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีแต่เงินจำนวนมากรั่วไหลไปกับการคอร์รัปชั่น นายโจนาธานถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงกรณีความล้มเหลวของรัฐบาลในการหยุดยั้งการโจมตีของกลุ่มหัวรุนแรงโบโกฮาราม อย่างไรก็ตาม กองทัพไนจีเรียกำลังได้รับความช่วยเหลือจากสหรัฐ,อังกฤษ,จีน,ฝรั่งเศส และอิสราเอลในการช่วยเหลือเด็กนักเรียนที่ถูกลักพาตัวไป
+++พายุไต้ฝุ่นรามสูร ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 38 ศพในฟิลิปปินส์ คาดว่าจะขึ้นฝั่งที่มณฑลไหหนาน ทางภาคใต้ของจีน ในวันนี้ ด้วยความแรงลม 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
+++ยางฮี ลี ชาวเกาหลีใต้ เจ้าหน้าที่ทูตพิเศษคนใหม่ของสหประชาชาติ(ยูเอ็น) ฝ่ายกิจการสิทธิมนุษยชนในพม่า เดินทางถึงพม่า เพื่อปฏิบัติภารกิจครั้งแรก ในช่วงเวลาที่เกิดความตึงเครียดทางการเมืองและความขัดแย้งทางเชื้อชาติครั้งใหม่ในพม่า โดยจะเดินทางเยือนหลายพื้นที่ในภาคตะวันตกและภาคเหนือ รวม 10 วัน และจะเดินทางเยือนเรือนจำอินเส่งในกรุงย่างกุ้ง และเยือนกรุงเนปิดอว์เพื่อพบหารือกับคณะรัฐมนตรีและสมาชิกรัฐสภาคนสำคัญซึ่งรวมทั้งนางออง ซาน ซูจี ผู้นำฝ่ายค้านด้วย
+++บริษัทไมโครซอฟท์บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของสหรัฐประกาศปลดพนักงานจำนวน1 หมื่น8,000 คน ประมาณร้อยละ14 ของพนักงานทั้งหมดในปีหน้า ซึ่งมากที่สุดในประวัติศาสตร์39 ปีของบริษัท ในจำนวนนี้ ประมาณ 12,500คน จะอยู่ในแผนกโทรศัพท์โนเกีย ซึ่งไมโครซอฟท์ซื้อมาในเดือนเม.ย.นับเป็นการเคลื่อนไหวที่กล้าหาญที่สุดของ แซต ยานาเดลลา ซีอีโอของบริษัทตั้งแต่เขาเข้ารับตำแหน่งต่อจากสตีฟ บัลเมอร์ เมื่อเดือนก.พ.
+++ เจ้าหน้าที่ตำรวจอินเดีย เปิดเผยว่า เด็กนักเรียนหญิงวัย 6 ขวบถูกเจ้าหน้าที่ 2คน ข่มขืนที่โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในเมืองบังกาลอร์ทางตอนใต้ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 2ก.ค.แต่พ่อแม่ของเด็ก เพิ่งรับรู้เมื่อ2-3 วันก่อนหลังจากเด็กหญิง บ่นว่าปวดท้อง และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ขณะเดียวกัน พ่อแม่ของเด็กหลายร้อยคนก็ได้ไปรวมตัวกันประท้วงที่ด้านนอกโรงเรียนทำลายประตูและตะโกนต่อต้านโรงเรียน รายงานข่าวระบุว่าเด็กหญิงเคราะห์ร้ายคนดังกล่าวถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและครูพละข่มขืนแต่เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและครูพละหลายคนเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องพยายามสอบสวนหาผู้กระทำความผิด ซึ่งขณะนี้ ตำรวจลงบันทึกประจำวันไว้แล้วแต่ยังไม่มีการจับกุมใคร เป็นเหตุการณ์ล่วงละเมิดทางเพศครั้งล่าสุดที่กลายเป็นข่าวพาดหัวในอินเดีย ด้านนายกรัฐมนตรีเนเรนทราโมดี ผู้นำคนใหม่ของอินเดียให้คำมั่นหมดความอดทนกับการก่ออาชญากรรมต่อผู้หญิงแต่ความรุนแรงและการเลือกปฏิบัติต่อผู้หญิงฝังรากลึกอยู่ในสังคมอินเดีย