นายวิชา มหาคุณ กรรมการและโฆษก คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงร่วมกับนายประสาท พงศ์ศิวาภัย กรรมการและรองโฆษก ป.ป.ช. และ นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการป.ป.ช.ภายหลังการประชุมโครงการทุจริตรับจำนำข้าว ว่า คณะกรรมการป.ป.ช. มีมติเอกฉันท์ 7 ต่อ 0เสียง กรรมการขอถอนตัว 2 คน ชี้มูลว่าอดีตนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีความผิดตามมาตรา 157 ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ(กขช.) เนื่องจาก ทราบว่า การดำเนินนโยบายนี้มีปัญหาเรื่องทุจริต แต่ไม่ยับยั้ง ยังเดินหน้าดำเนินการต่อ นอกจากนี้ ยังละเว้นการปฎิบัติตามกฎหมายป.ป.ช. และจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา178 ชึ่งภายในสัปดาห์หน้า ป.ป.ช. จะส่งสำนวนให้อัยการสูงสุด เพื่อส่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เนื่องจากการการตรวจสอบพบว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นมากกว่า 5แสนล้านบาท นายวิชา ชี้แจงว่าการที่ป.ป.ช.มีมติดังกล่าวเนื่องจากพบว่า การดำเนินนโยบายนี้ มีลักษณะบิดเบือนกลไกตลาด ทุจริตในทุกขั้นตอน เช่นการขึ้นทะเบียนเกษตรกร การสวมสิทธิ์ การโกงความชื้น การโกงตาชั่ง ลักลอบนำข้าวออกจากคลัง และใช้การเมืองช่วยพวกพ้อง ทำให้เกิดระบบนายหน้า ไม่มีการเปิดประมูลอย่างเปิดเผย อย่างไรก็ตาม การพิจารณาสำนวนนี้พิจารณาเฉพาะน.ส.ยิ่งลักษณ์ ส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตรวจสอบต่อ ส่วนการเดินทางไปต่างประเทศ ก็ไม่มีปัญหา ทั้งนี้ นายวิชา เปิดเผยว่า ตอนนี้ยังไม่ต้องไปสอบถามเรื่องจากอัยการสูงสุด เนื่องจาก สำนวนยังไม่ได้ส่งไป ซึ่งเบื้องต้นหากไม่เห็นตรงกับป.ป.ช. ก็จะตั้งคณะกรรมการร่วมขึ้นมาพิจารณา
บุศรินทร์