นายกฯตำหนิสื่อพาดหัวขัดแย้ง/รมว.กลาโหม แจงดีเอสไอทำตามขั้นตอนค้นธรรมกาย/เกาหลีใต้รับมือกลุ่มหนุน-ต้านปธน.

10 มีนาคม 2560, 12:25น.


+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวตอนหนึ่งระหว่างเป็นประธานในพิธีเปิดงาน "SMEs Revolution : เส้นทางสายโอกาสเอสเอ็มอี 4.0" ว่า วันนี้ทุกคนต้องเข้าใจตรงกันว่าประเทศกำลังเดินหน้าด้วยยุทธศาสตร์ตั้งแต่ ปี 2557 ทั้ง 6 ด้าน แต่วันนี้โลกเปลี่ยนแปลงโดยมีหลายปัจจัยทั้งภายในและภายนอก เราจึงต้องเลือกว่าจะเป็นเต่าที่เดินไปข้างหน้าแต่งับหางของตัวเองหรือเป็นกระต่ายที่หลับตลอดทาง แต่สิ่งที่ทำให้ขับเคลื่อนได้เร็วขึ้นคือการปรับตัวเอง



+++พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลเข้ามาทำทุกอย่างโดยใช้หลักเหตุผล ส่วนเรื่องที่มีปัญหาก็ให้แต่ละหน่วยงานรับผิดชอบดำเนินการ แต่ประเทศต้องเดินหน้า โดยอาศัยความร่วมมือและความเข้าใจ จึงขออย่าบิดเบือน เห็นหน้าหนังสือพิมพ์กล่าวหาว่ารัฐบาลไม่ดูแลธุรกิจเอสเอ็มอีอย่างจริงจัง พูดแล้วก็มีอารมณ์ ทั้งที่ตั้งใจว่าจะใจเย็น แต่ต้องดุเดือด เพราะหลายอย่างต้องขับเคลื่อน ทั้งที่เป็นคนเรียบร้อย นุ่มนวล ไม่มีใครชมก็ชมตัวเองก็ได้ ขณะเดียวกันวันนี้ยังมีหลายคนดูถูกประเทศของตัวเอง ไม่เข้าใจว่าจะพูดทำไมทำลายศักยภาพตัวเองทั้งสิ้น ขออย่าเอาวิกฤตมาทำให้ยิ่งวิกฤต แต่ต้องใช้วิกฤตเป็นโอกาส



+++นายกฯ กล่าวว่า ได้อธิบายเรื่องภาษี เพราะประชาชนเรียกร้อง อยากได้อะไรก็อยากให้ แต่สื่อกลับบอกว่าต้องการขึ้นภาษี ไม่เข้าใจกันหรืออย่างไร อะไรที่มีปัญหาความขัดแย้ง พาดหัวข่าวหน้าหนึ่งแต่ข้างในก็เขียนอย่างที่ตัวเองพูด เขียนให้คนซื้อหนังสือพิมพ์ ทำแบบนี้มันน่ารังเกียจ แต่ไม่ใช่สื่อทุกคน พวกดีๆ ก็มี และรู้ว่าทุกคนรักและอยากช่วย



+++ตำรวจเกาหลีใต้ เตรียมพร้อมรับมือระดับสูงสุด ด้วยการวางกำลัง 20,000 นาย เพื่อรับมือความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นใกล้กับศาล , จตุรัสกวางฮวามุน และเชือง วาแด หลังจากผู้ประท้วงและสนับสนุนนางปาร์ก กึน เฮ วัย 65 ปี ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญ ถอดถอนออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี ได้ฝ่าความหนาวไปรวมตัวตามถนนในกรุงโซล ของเกาหลีใต้ พร้อมประกาศปักหลักถึงวันเสาร์นี้ นางปาร์ก  เป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของประเทศ และเป็นประธานาธิบดีคนแรกที่ต้องออกจากตำแหน่งเพราะกระบวนการถอดถอน จากกรณีอื้อฉาวของนางชอย ซุน ซิว เพื่อนสนิท ที่ใช้อำนาจกดดันบริษัทชั้นนำของเกาหลีใต้ ให้บริจาคเงินเข้ากองทุน และยังปล่อยให้นางชอยเข้ามามีอิทธิพลในเรื่องการบริหารประเทศ รวมถึงล้มเหลวในการปฏิบัติหน้าที่กรณีโศกนาฏกรรมเรือเซวอล และเนื่องจากเป็นระบบศาลชั้นเดียว จึงไม่มีการอุทธรณ์หรือไต่สวนใหม่ ทำให้เธอต้องพ้นจากตำแหน่งทันที และต้องจัดเลือกตั้งใหม่ภายใน 60 วัน



+++จากกรณีพระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผอ.สำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย เดินทางเข้ามอบตัวรับทราบกล่าวหา ในความผิดฐาน ยุยงปลุกปั่น ตามมาตรา 116 พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และหมิ่นประมาท ที่กองบังคับการปราบปราม วานนี้ (9 มี.ค.) ก่อนมีการนำตัวไปขออำนาจฝากขังที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก โดยศาลพิจารณามีคำสั่งอนุญาตให้ พระสนิทวงศ์ ประกันตัวไป ตีราคาประกันไว้ที่ 4 แสนบาทพร้อมกำหนดเงื่อนไข ห้ามผู้ต้องหาขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน ห้ามยุยงปลุกปั่นประชาชน และห้ามมิให้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล ทั้งนี้ ภายหลังได้รับการประกันในชั้นศาล พระสนิทวงศ์ ยังได้ถูกคุมตัวมาส่งต่อให้กับพนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ทันที เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในคดีฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. แต่ไม่สามารถนำตัวไปฝากขังที่ศาลธัญบุรีได้ทัน จึงอนุญาตให้ พระสนิทวงศ์ เดินทางกลับไปที่วัดพระธรรมกาย และนัดให้เข้ามารายงานตัวกับทางเจ้าหน้าที่ที่ศาลธัญบุรีอีกครั้งในวันนี้ ความคืบหน้า เมื่อเวลา 09.00 น.า พระสนิทวงศ์  พร้อมด้วย นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย ทนายความ และพระลูกวัดอีก 1 รูป ได้เดินทางมาที่สภ.คลองห้า เพื่อพบพนักงานสอบสวนตามที่นัดหมายไว้ โดย มีพ.ต.อ.อำนวยพันธ์ นิลน้อย ผกก.สภ.คลองห้า พร้อมพนักงานสอบสวนดำเนินการรับตัวไว้ ก่อนจะมีการนำตัว พระสนิทวงศ์ ไปฝากขังศาลจังหวัดธัญบุรีในวันนี้ต่อไป



+++พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย และมีกระแสข่าวว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ขีดเส้นตายตรวจค้นวัดพระธรรมกายให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 13 มี.ค. พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นขั้นตอนของดีเอสไอ ซึ่งวันนี้เจ้าหน้าที่จะพยายามเข้าไปตรวจค้นภายในวัดอีกครั้ง ขอทุกฝ่ายไม่ต้องเป็นห่วง



+++พล.อ.ประวิตร กล่าวแสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของนางยุวดี ธัญญสิริ หรือ เจ๊ยุ อดีตผู้สื่อข่าวอาวุโส ประจำทำเนียบรัฐบาล ว่า รู้สึกเสียใจ และเสียดาย เพราะนางยุวดีทำงานเพื่อประเทศชาติมานาน นางยุวดี อดีตผู้สื่อข่าวอาวุโสประจำทำเนียบรัฐบาล ถึงแก่กรรมอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 10 เมษายน  25560 ณ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หลังเข้ารับการรักษาตัวเป็นเวลา 7 วัน



กำหนดพิธีศพนางยุวดี ธัญญสิริ  ที่วัดโสมนัสวิหาร วันเสาร์ที่ 11 มีนาคม เวลา 16.00 น. รดน้ำศพ เวลา 17.00 น. พิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ เวลา 18.00 น. สวดพระอภิธรรมศพ วันที่อาทิตย์ที่ 12-วันศุกร์ที่ 17 มีนาคม สวดพระอภิธรรมศพ เวลา 18.30 น.  กำหนดพระราชทานเพลิงศพ ณ เมรุวัดโสมนัสวิหาร วันอาทิตย์ที่ 19 มีนาคม เวลา 14.00 น.



+++พนักงานสอบสวนจากตำรวจภูธรภาค 3 และตำรวจภูธร จ.นครราชสีมา ลงพื้นที่สอบปากคำพยานแวดล้อมและผู้เกี่ยวข้องคดีบุกรุกป่าเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน เขต ต.วังน้ำเขียว และ ต.ไทยสามัคคี เนื้อที่กว่า 10,000 ไร่ ที่มีคดีค้างเก่ายังไม่ส่งฟ้องศาล 245 คดี ตั้งแต่ปี 2554-2555 เนื่องจากกระบวนการสอบสวนล่าช้า นายผาด บัวบาน หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษอุทยานแห่งชาติทับลาน เขต อ.วังน้ำเขียว กล่าวว่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้สั่งการให้อุทยานแห่งชาติทับลาน เร่งรัดการทำสำนวนคดีบุกรุกป่า 245 คดีให้แล้วเสร็จเพื่อส่งฟ้องศาล ภายในกรอบระยะเวลา 2 เดือนนับจากนี้ หลังคดีล่าช้ามานาน ทั้งนี้ได้ประสานกับผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ระดมพนักงานสอบสวน 45 นาย เร่งทำสำนวนค้างเก่า โดยหลังจากนี้จะทยอยลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่จริงที่มีการบุกรุก เพื่อจับพิกัดภาพถ่ายทางอากาศ บันทึกหลักฐานประกอบสำนวนดำเนินคดีฐานความผิดแผ้วถางบุกรุกป่าเขตอุทยาน ทั้งนี้  ในจำนวนคดีบุกรุกป่าทับลาน อ.วังน้ำเขียว 245 คดี เป็นรีสอร์ทขนาดใหญ่และบ้านพักตากอากาศของกลุ่มนายทุนนักธุรกิจ นักการเมืองระดับชาติชื่อดัง ข้าราชการระดับสูง  เป็นผู้ครอบครอง โดยซื้อต่อมาจากชาวบ้าน



+++ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา คดีที่นายศรายุทธ ภู่พลับ อดีตหัวหน้าเทศกิจเทศบาลนครเชียงใหม่ จำเลยที่1, พันตรีเฉลิมชัย มัจฉากล่ำ หรือ ผู้พันตึ๋ง อดีตที่ปรึกษานายกเทศบาลนครเชียงใหม่,  พลตรีอินทรัตน์ ยอดบางเตย หรือ เสธ.ยอด อดีตที่ปรึกษานายกเทศบาลนครเชียงใหม่ กับพวกรวม 8 คน ฐานความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ /ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ ผู้ค้า 128 ราย ในตลาดวโรรสและตลาดไนท์บาซ่าร์ จังหวัดเชียงใหม่  ปี 2539 โดยจำเลยกับพวกที่เป็นเจ้าหน้าที่เทศกิจ แต่งกายคล้ายทหาร คอยเดินตรวจตลาด พูดจาข่มขู่ผู้ค้าและเรียกเก็บค่าคุ้มครองในตลาด



+++ศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนจำคุก นายศรายุทธ จำเลยที่ 1 ฐานเป็นตัวการเป็นเวลา 9 ปี ส่วนจำเลยที่ 2 – 5 รวมผู้พันตึ๋ง เป็นผู้สนับสนุนให้จำคุกคนละ 6 ปี และให้จำเลยที่ 1-4 ร่วมกันชดใช้เงินคืนแก่ผู้เสียหายด้วย พร้อมยกฟ้อง เสธ.ยอด เมื่อถึงเวลา ผู้พันตึ๋ง จำเลยที่ 5 ถูกเบิกตัวมาจากเรือนจำจังหวัดนนทบุรี แต่จำเลยที่ 1 และ 4 แจ้งต่อศาลว่า มีเหตุจำเป็นเจ็บป่วยเข้าโรงพยาบาลไม่สามารถเดินทางมาฟังคำสั่งได้ โดยจำเลยที่1 เข้าโรงพยาบาลเตรียมผ่าหมอนรองกระดูก ส่วนจำเลยที่ 4 ผ่าตัดต้อกระจกตา ศาลจึงนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาอีกครั้งวันที่ 3 พฤษภาคม 2560  พร้อมกำชับให้จำเลยที่1,4 ให้มาฟังคำพิพากษาหากไม่มาถือว่ามีเจตนาหลบหนี



+++สำหรับคดีนี้ ผู้พันตึ๋ง ได้รับโทษจำคุกถึง 6 ปีแล้ว  นอกจากคดีนี้ ยังเป็นนักโทษประหารชีวิต คดีร่วมกันฆ่านายปรีณะ ลีพัฒนะพันธ์ อดีตผู้ว่าฯ ยโสธร ปี 2544 โดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อนด้วย และได้รับพระราชทานอภัยโทษหลายครั้ง เนื่องจากเป็นนักโทษชั้นดี เหลือจำคุก 17 ปี 24 วัน 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X