ศาล ชี้ชะตาปธน.เกาหลีใต้/สก็อตแลนด์ เตรียมลงประชามติแยกตัวจากสหราชอาณาจักร/ออสเตรเลียจะสร้างอนุสรณ์สถานรำลึกเที่ยวบินเอ็มเอช370

+++สำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้ รายงานอ้างนายลี โชล ซอง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเกาหลีใต้ว่า ตำรวจได้เพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยรอบสถานที่ราชการสำคัญๆในกรุงโซล ตำรวจใช้รถบัส 360 คัน ปิดล้อมพื้นที่โดยรอบที่ทำการศาลรัฐธรรมนูญและเตรียมกำลังตำรวจ 8,400 นายดูแลความสงบเรียบร้อย ก่อนศาลรัฐธรรมนูญจะอ่านคำตัดสินคดีไต่สวนถอดถอนประธานาธิบดีปัก กึนเฮ ว่าจะถูกปลดออกจากตำแหน่งหรือไม่ ซึ่งหากคณะตุลาการมีมติเสียงข้างมากเห็นชอบไม่ต่ำกว่า 6 เสียง จากทั้งหมด 9 เสียง ประธานาธิบดีจะพ้นจากตำแหน่งทันที ต้องเลือกตั้งใหม่ภายใน 60 วัน

+++ด้านกลุ่มที่คัดค้านผู้นำเกาหลีใต้ ได้จัดแถลงข่าวที่สหภาพแรงงานท้องถิ่นแห่งหนึ่งในกรุงโซล เรียกร้องให้ศาลลงมติถอดถอนผู้นำเกาหลีใต้ออกจากตำแหน่ง มีแผนจะเดินขบวนมุ่งหน้าไปยังที่ทำการศาลรัฐธรรมนูญด้วย

+++ขณะที่ศาลแขวงกรุงโซล เปิดการไต่สวนนัดแรกเมื่อวานนี้ คดีที่นายลี แจ-ยอง  หรือ เจย์ วายลี รองประธานบริษัทซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ตกเป็นจำเลยในคดีคอร์รัปชั่น รวมถึงให้การเท็จต่อเจ้าพนักงาน ติดสินบนและฟอกเงิน โดยนายลี แจ-ยอง วัย 48 ปี ถูกจับกุมและส่งตัวเข้าเรือนจำตั้งแต่เดือนก.พ. จำเลยไม่ได้มาปรากฏตัวต่อศาล แต่มอบหมายทนายความขึ้นให้การแก้ต่างแทนขอปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด

 +++พนักงานสืบสวนเชื่อว่านายลี แจ-ยอง สั่งจ่ายสินบน 43,300 ล้านวอน (ราว 1,340.5 ล้านบาท) ให้แก่ประธานาธิบดี และนางชเว ซุน-ซิล เพื่อเป็นสินน้ำใจที่ให้ความช่วยเหลือแก่การควบรวมกิจการระหว่างบริษัทขนาดเล็ก 2 แห่งของซัมซุง เมื่อปี 2558 แม้ผลประกอบการของบริษัททั้งสองแห่งขาดทุนมากก็ตาม แต่อัยการเชื่อว่าการควบรวม กิจการดังกล่าวเป็นความพยายามของนายลี แจ-ยอง ในการรักษาฐานอำนาจของตัวเอง ในซัมซุง

+++ฮาวายเป็นรัฐแห่งแรกของสหรัฐฯที่ยื่นคำร้องต่อศาล คัดค้านคำสั่งฉบับที่ 2 ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เรื่องการห้ามพลเมืองมุสลิมเข้าประเทศ คำสั่งใหม่มีเนื้อหาสาระคล้ายกับคำสั่งฉบับแรกคือกีดกันคนจากประเทศมุสลิมเดิม เรียกคำสั่งนี้ว่า มุสลิมแบน 2.0 ศาลนัดไต่สวนในวันที่ 15 มีนาคมนี้ หรือ 1 วันก่อนที่คำสั่งฉบับที่ 2 จะเริ่มมีผล

+++คำสั่งฉบับใหม่นี้มีผลคือ ห้ามพลเมืองมุสลิมจาก 6 ประเทศคืออิหร่าน,ลิเบีย,ซีเรีย,โซมาเลีย,ซูดานและเมเยนไม่ให้เข้าสหรัฐฯชั่วคราว 90 วันและห้ามรับผู้อพยพทั้งหมดไว้ชั่วคราวคือ 120 วัน ก่อนหน้านี้ คำสั่งฉบับแรกของนายทรัมป์ ก่อให้เกิดความโกลาหลในบริเวณสนามบินและการประท้วงใหญ่

+++รอยเตอร์ รายงานอ้างนายกรัฐมนตรีนิโคลา สเตอร์เจียน ของสก็อตแลนด์ว่า สก็อตแลนด์ อาจจะจัดให้มีการลงประชามติเรื่องการแยกเอกราชจากสหราชอาณาจักร ในช่วงปลายปี 2561 หรือไม่กี่เดือนก่อนที่สหราชอาณาจักรเริ่มถอนตัวออกจากกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)อย่างเป็นทางการ สก็อตแลนต์ จัดทำประชามติครั้งแรกเมื่อปี 2557 ให้ประชาชนลงมติในประเด็นที่ว่าเห็นด้วยกับการแยกตัวออกจากสหราชอาณาจักรหรือไม่ ครั้งนั้นเสียงส่วนใหญ่ ร้อยละ 55 ต่อ45 เห็นว่าควรจะอยู่ร่วมกับสหราชอาณาจักร

+++ บรรษัทกระจายเสียงเอ็นเอชเคของญี่ปุ่น รายงานว่า สภาผู้แทนราษฏรของญี่ปุ่นลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์ประณามการปล่อยขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ เนื่องจากเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของโลก เรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นเพิ่มความพยายามในการประสานให้ประเทศอื่นๆดำเนินตามมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจเกาหลีเหนือ ตามมติสหประชาชาติ(ยูเอ็น)อย่างจริงจัง สภาผู้แทนราษฏรญี่ปุ่น เรียกร้องให้รัฐบาลเกาหลีเหนือยกเลิกโครงการพัฒนาขีปนาวุธ และขอให้ประชาคมระหว่างประเทศร่วมใช้มาตรการทางการทูตเพื่อแก้ไขปัญหานี้อย่างสันติ ก่อนหน้านี้เกาหลีเหนือปล่อยขีปนาวุธพิสัยไกล 4 ลูกไปตกในทะเลญี่ปุ่นเมื่อวันจันทร์ ในจำนวนนี้ 3 ลูกตกในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่น

+++โครงการอาหารโลก ( ดับเบิลยูเอฟพี ) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงโรม ในอิตาลี ออกแถลงการณ์ว่าเจ้าหน้าที่ของดับเบิลยูเอฟพี ชาวมาเลเซีย 2 คนเดินทางออกจากกรุงเปียงยาง เกาหลีเหนือ ถึงกรุงปักกิ่ง ของจีน อย่างปลอดภัย พร้อมทั้งระบุด้วยว่าเจ้าหน้าที่ทั้งสองคนปฏิบัติหน้าที่ในนามของดับเบิลยูเอฟพี และถือหนังสือเดินทางการทูตของยูเอ็น ยังเหลือชาวมาเลเซีย อยู่ในเกาหลีเหนืออีก 9 คน ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังพยายามให้ความช่วยเหลือ

+++เกาหลีเหนือและมาเลเซีย ห้ามพลเมืองของกันและกันเดินทางออกนอกประเทศ ตั้งแต่เมื่อวันอังคาร หลังต่างฝ่ายต่างสั่งขับเอกอัครราชทูตของกันและกันไปแล้ว โดยความขัดแย้งดังกล่าวเป็นผลจากการเสียชีวิตของนายคิม จอง นัม พี่ชายต่างมารดาของนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ซึ่งถูกลอบสังหารด้วยสารพิษวีเอ็กซ์ ขณะอยู่ภายในสนามบินนานาชาติกังลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา

+++กัวเตมาลา ประกาศไว้อาลัย 3 วันหลังเกิดเหตุไฟไหม้สถานสงเคราะห์เด็กและเยาวชนหญิง เวอร์จิน ออฟ เดอะอัสสัมชัญ เซฟโฮม  ที่เมืองซานโฮเซ ปีนูนา ห่างจากกรุงกัวเตมาลาซิตีราว 10 กม. โดยเยาวชนหญิงอายุระหว่าง 14-17 ปี เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 31 และบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง ประธานาธิบดีจิมมี มอราเลส ให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ มีคำสั่งปลดผู้อำนวยการของสถานสงเคราะห์แห่งนี้แล้ว ก่อนไฟไหม้ทางการได้สั่งให้ย้ายเยาวชนจำนวนหนึ่งออกจากสถานสงเคราะห์เนื่องจากมีสภาพแออัดมาก

+++ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกัวเตมาลา ยืนยันว่า ก่อนที่จะเกิดไฟไหม้ เจ้าหน้าที่ ได้สั่งขังเด็กกลุ่มหนึ่งที่พยายามจะหลบหนี แยกออกมาจากกลุ่มเด็กอื่น ตำรวจกัวเตมาลาอยู่ระหว่างการสอบสวนว่า เหตุการณ์ทั้ง 2 นั้นเชื่อมโยงหรือไม่

+++สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานอ้างนายดาร์เรน เชสเตอร์ รัฐมนตรีคมนาคมของออสเตรเลียว่า รัฐบาลออสเตรเลียจะสร้างอนุสรณ์สถานในเมืองเพิร์ธในเร็วๆนี้ เพื่อรำลึกผู้โดยสารและลูกเรือ 239 คนของเที่ยวบินเอ็มเอช370 ของมาเลเซียแอร์ไลน์ หลังการหายไปเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2557 เขาพูดเรื่องนี้ระหว่างการร่วมพิธีรำลึกครบรอบ 3 ปีหลังเครื่องบินโบอิ้ง 777 ของมาเลเซียแอร์ไลน์สูญหาย ขณะบินจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ไปยังกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน หวังว่า อนุสรณ์สถานแห่งนี้ จะช่วยทำให้ครอบครัวผู้โดยสารสามารถจะดำเนินชีวิตต่อไป ก่อนหน้านี้รัฐบาลออสเตรเลียแถลงว่าการค้นหาซากเครื่องบินในมหาสมุทรอินเดียที่มีออสเตรเลียเป็นแกนนำจะยุติลงโดยไม่มีกำหนดจนกว่าจะพบเบาะแสใหม่ๆเรื่องพิกัดที่เครื่องบินตกอย่างชัดเจน

แฟ้มภาพ