อธิบดีกรมทางหลวง ลงพื้นที่ดูความคืบหน้าก่อสร้างทางพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข6 บางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา แก้ปัญหาจราจร พหลฯ-มิตรภาพ

การติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หมายเลข 6 สายบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา ระยะทาง 196 กม. นายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง ได้เดินทางลงตรวจพื้นที่การก่อสร้าง บริเวณกิโลเมตรที่ 99 อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี  ซึ่งความคืบหน้าล่าสุดของการก่อสร้างในช่วงกิโลเมตรที่ 99 ของโครงการ บริเวณอำเภอหนองแค ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ 40 ตอนทั้งระยะทางของโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษบางปะอิน- นครราชสีมา โดยจุดนี้มีความคืบหน้าร้อยละ 18 คาดว่าไม่เกิน 500 วัน จะดำเนินการเสร็จสิ้น นายธานินทร์ กล่าวว่า ภาพรวมของการก่อสร้างทั้งหมด ตามแผนงานร้อยละ 3 ขณะนี้ดำเนินการไปร้อยละ 1.3 ซึ่งถือว่าไม่ได้ล่าช้ากว่าแผนที่ได้วางไว้ เนื่องจากผู้รับจ้างได้มีการเตรียมความพร้อมอุปกรณ์ต่างๆไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนงานระบบด่านเก็บค่าผ่านทาง งานซ่อมบำรุง จะมีการเชิญบริษัทชั้นนำข้ามชาติเข้ามาช่วยดูแล ตามคุณภาพ และระบบของบริษัทนั้นๆ ควบคู่กับบริษัทในประเทศไทยโดยดำเนินการร่วมกัน เพื่อรับระบบจากต่างประเทศที่มีคุณภาพมาใช้ ภายใต้เงื่อนไขและงบประมาณที่มีอยู่ ขณะที่การบริหารจัดการที่พักริมทางอยู่ระหว่างศึกษา เพื่อให้เอกชนร่วมลงทุนกิจการของรัฐและจัดทำร่างกฎกระทรวง เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ในการอนุญาต อย่างไรก็ตามแม้อนุสัญญาการก่อสร้าง จะอยู่ที่ 30 - 36 เดือน แต่ทุกอย่างจะต้องเสร็จสิ้นในปี 2562 ตามเป้าหมายเดิม

หลังโครงการเสร็จสิ้น คาดว่า จะมีประชาชนเลือกใช้เส้นทางนี้ เพื่อลดปัญหาการจราจรบริเวณถนนพหลโยธินและถนนมิตรภาพ ส่วนความคุ้มค่านั้น อธิบดีกรมทางหลวงกล่าวว่า การลงทุน สาธารณูปโภคไม่สามารถที่จะคิดเรื่องของการขาดทุนหรือกำไรได้ เพราะเป็นสิ่งที่ภาครัฐจะต้องสนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน เบื้องต้นคาดว่าจะคิดราคากิโลเมตรละ 2.50 บาท นอกจากนี้ยังให้ทางสำนักแผนงาน ศึกษาช่วงต่อขยายนครราชสีมา -ขอนแก่น - หนองคาย เบื้องต้นจะศึกษาในช่วงนครราชสีมา - ขอนแก่น ถึงรูปแบบและผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมทั้งศึกษาแหล่งเงินที่จะในการขยายเส้นทางด้วย

ส่วนความคืบหน้าการลงนามสัญญา นายกมล หมั่นทำ รองอธิบดีฝ่ายดำเนินงาน กล่าวว่า โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หมายเลข 6 ระยะทาง 196 กม. ในวงเงินงบลงทุนประมาณ 76,600 ล้านบาท ปัจจุบันได้ลงนามสัญญาไปแล้ว 25 สัญญา จากสัญญาทั้งหมด 40 สัญญา โดยอีก 15 สัญญาอยู่ระหว่างดำเนินการ มีเป้าหมายจะลงนามทั้งหมดให้ได้ภายในเดือนมีนาคมนี้ ทั้งนี้ 12 สัญญา คาดว่าจะเข้าคณะรัฐมนตรีภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ ส่วนอีก 2 สัญญา อยู่ระหว่างทำความเข้าใจกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งกรมทางหลวงได้ทำความเข้าใจแล้วในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตามการดำเนินงานทุกอย่างจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้  และแล้วเสร็จในปี 2562 พร้อมเปิดให้ใช้บริการได้ในปี 2563