คลัง สั่งสอบการเสียภาษีเจ้าหนี้นอกระบบรายใหญ่/รมว.กลาโหม สั่งลงพท.ทำความเข้าใจสร้างโรงไฟฟ้า

+++รัฐบาล ประกาศนโยบายแก้ปัญหาหนี้นอกระบบครั้งใหญ่ โดยการจัดงานแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างบูรณาการและยั่งยืน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ประกาศนโยบายการแก้ปัญหาอย่างครบวงจร ตั้งแต่เจ้าหนี้และมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ โดยตั้งเป้าหมายจะแก้ปัญหาภายใน 2 ปี ขอให้เจ้าหนี้ที่ปล่อยกู้นอกระบบ เข้ามาดำเนินการจัดตั้งเป็นธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัด ภายใต้การกำกับ (สินเชื่อฟิโกไฟแนนซ์) ให้ถูกต้อง ซึ่งในขณะนี้มีเอกชนที่มาจัดตั้งธุรกิจนำร่องแล้ว6รายโดยสินเชื่อนี้เป็นสินเชื่ออเนกประสงค์และเก็บดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมไม่เกินปีละร้อยละ36 อยากให้ขยายให้ครบทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้บริการสินเชื่อในระบบที่มีการคิดดอกเบี้ยเป็นธรรม

+++การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบให้เป็นศูนย์ คือไม่ให้มีหนี้นอกระบบที่เก็บดอกเบี้ยไม่เป็นธรรม ต้องกวาดล้างให้หมด ส่วนเจ้าหนี้ ทั้งทหาร ตำรวจ หากไปเป็นเจ้าหนี้นอกระบบหรือรับจ้างทวงหนี้นอกระบบเสียเองก็ให้แจ้งมา จะดำเนินการจับและปลดออกจากราชการทันที ซึ่งรัฐบาลจะเปิดรับเรื่องราวร้องเรียนเรื่องหนี้นอกระบบใครมีข้อมูลก็ให้แจ้งมาที่ศูนย์ทำเนียบรัฐบาลจะจัดการขั้นเด็ดขาด

+++นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง สั่งการให้กรมสรรพากร ตรวจสอบข้อมูลการชำระภาษีของเจ้าหนี้นอกระบบรายใหญ่ที่มีอยู่กว่า 100 รายทั่วประเทศ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ เพราะจะสามารถทราบถึงที่มาของรายได้ในการปล่อยกู้ โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยที่ปล่อย หากคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด เจ้าหนี้เหล่านี้จะต้องได้รับโทษตามกฎหมาย ขณะเดียวกัน รัฐบาล แต่งตั้งคณะกรรมการ 2 ชุด เพื่อดูแลเรื่องหนี้นอกระบบ โดยชุดแรกเป็นชุดที่ทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยหนี้ระหว่างลูกหนี้กับเจ้าหนี้ ส่วนชุดที่สอง ทำหน้าที่ในการพัฒนาศักยภาพรายได้ของลูกหนี้ เพื่อให้ลูกหนี้มีรายได้กลับไปชำระหนี้ หนี้นอกระบบที่มีมากสุดจะอยู่ในภาคอีสานกว่า ร้อยละ 50 รองลงมา คือ ภาคเหนือ และ ภาคใต้

+++น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป(เงินเฟ้อ) เดือนก.พ.ว่า ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.04 จากเดือนมกราคม ทำให้เงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ย 2 เดือนแรกปีนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.49 เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากราคาน้ำมันดิบ ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการปรับขึ้นของราคาก๊าซหุงต้ม และอาหารสด เช่น ไก่สดและผลไม้ ประกอบกับการส่งออกของไทยในกลุ่มอาหารดังกล่าวมีทิศทางดีขึ้น

+++อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยอยู่ในช่วงขาขึ้น กระทรวงพาณิชย์จะติดตามภาวะราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด ให้เป็นไปอย่างเหมาะสมและสมเหตุสมผล ราคาสินค้าที่สำรวจทั้งหมด 422 รายการเมื่อเดือนก.พ. พบว่ามีการปรับราคาเพิ่มขึ้น 129 รายการ เช่น เนื้อไก่ กุ้งขาว ก๊าซหุงต้ม และน้ำมันเชื้อเพลิง ปรับราคาลดลง 114 รายการ เช่น ข้าวสาร หมู ผัก สบู่ อาหารโทรสั่ง และไข่ไก่ เป็นต้น และราคาทรงตัว 179 รายการ

+++เรื่องพลังงาน หลังจากที่นายกฯ มอบหมายให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หาวิธีสร้างความเข้าใจแก่ทุกภาคส่วนต่อปัญหาความมั่นคงทางด้านพลังงาน หลังจากรัฐบาลสั่งให้จัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) และรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (อีเอชไอเอ) โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ ใหม่ โดยให้ทุกส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น พล.อ.ประวิตร สั่งการให้กระทรวงพลังงาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย รวมถึง พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 ลงพื้นที่ชี้แจงทำความเข้าใจ พร้อมเปิดเวทีรับฟังความเห็นจากประชาชนภายใน 1 เดือนนับจากนี้

+++ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 303.31 จุด ปิดที่ 21,115.55 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 32.32 จุด ปิดที่ 2,395.96 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 78.59 จุด ปิดที่ 5,904.03 จุด ระหว่างการแถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภาครั้งแรกนับจากเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีนายโดนัลด์ ทรัมป์ ให้คำมั่นว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ด้วยการผ่อนปรนทางภาษีครั้งใหญ่และลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้วอลล์สตรีท ทุบสถิติตลอดกาลรอบใหม่ อีกแรงสนับสนุนที่สำคัญของตลาดหุ้นสหรัฐฯ คือการที่นายทรัมป์ งดใช้คำพูดยั่วโมโห

+++สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 18 เซนต์ ปิดที่ 53.83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 15 เซนต์ ปิดที่ 56.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

+++ราคาทองคำ ปรับลด 2 วันติด จากการแข็งค่าของดอลลาร์ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 3.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์

+++คดีฆาตกรรมสองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2557 ศาลชั้นต้น พิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสอง ศาลอุทธรณ์ภาค 8 เห็นพ้องด้วยอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองฟังไม่ขึ้น ผู้พิพากษาศาลจังหวัดเกาะสมุย จึงได้อ่านคำตัดสินศาลอุทธรณ์ที่พิจารณาตามศาลชั้นต้นคือให้ประหารชีวิต นายซอลิน จำเลยที่ 1 และนายเวพิว จำเลยที่ 2 ผู้ต้องหาทั้งสองขณะนี้อยู่ในการควบคุมของเรือนจำบางขวาง ศาลเชื่อพยานหลักฐานของโจทก์ที่นำสืบมาทั้งหมดว่า มีเหตุผลเชื่อมโยงมั่นคงหนักแน่นจนแน่ใจว่ามีการกระทำผิดจริง และจำเลยทั้งสองเป็นผู้กระทำความผิดนั้นโดยปราศจากความสงสัยใด ๆ

+++จับแล้วลูกเทพทุบรถ ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ รวบตัวนายกิตติศักดิ์ วงศ์เลิศ อายุ 20 ปี ฉายา หนุ่มลูกเทพ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดศรีสะเกษ ในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ หลังละเมิดคำสั่งศาล ก่อเหตุทุบรถยนต์ผู้อื่นภายในลานจอดรถ สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 จนพังเสียหายถึง 13 คัน ส่วนสาเหตุก็ยังเดิมๆคือ ไม่พอใจที่ผู้เป็นมารดาไม่ยอมให้เงินไปซื้อรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ สร้างความเอือมระอาให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างมาก เนื่องจากต้องจับกุมหลายต่อหลายครั้งแล้ว

CR:คลังภาพ รัฐบาลไทย