ปธน.สหรัฐกล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมร่วมสภาคองเกรส ยืนยันนโยบายอเมริกาต้องมาก่อน

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมสภาคองเกรส ด้วยการกล่าวถึงเหตุรุนแรงต่อชุมชนชาวยิวและเหตุกราดยิงที่แคนซัส ที่แสดงให้เห็นว่า แม้อเมริกาจะเป็นประเทศที่มีความแตกต่างของขั้วการเมือง แต่ทุกคนจะร่วมกันเป็นหนึ่งเดียวเพื่อกล่าวประณามผู้ก่ออาชญากรรมจากความเกลียดชัง ทุกคนในที่นี้จะร่วมกันเป็นพยานของการรื้อฟื้นจิตวิญญาณอเมริกัน เรียนรู้ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในอดีต เพื่อนำไปสู่เป้าหมายที่จะทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งตามที่ได้ให้คำมั่นไว้เมื่อครั้งที่หาเสียงเลือกตั้ง เขากล่าวด้วยว่า อเมริกามีความเข้มแข็ง มีความภาคภูมิใจ และมีเสรีภาพ ให้คำมั่นว่าจะยกระดับมาตรการกวาดล้างผู้อพยพเข้าเมือง โดยในการบังคับใช้กฎหมายตรวจคนเข้าเมืองจะทำให้ชาวอเมริกันมีค่าแรงเพิ่มขึ้น เพิ่มการจ้างงาน สามารถประหยัดงบประมาณหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ และทำให้ชุมชนปลอดภัยสำหรับทุกคน เขาอ้างว่านับตั้งแต่ชนะการเลือกตั้งเขาเดินหน้านโยบายหลายด้านเพื่อส่งเสริมการลงทุนและการจ้างงาน ซึ่งพบว่ามีผู้ประกอบการรายใหญ่แจ้งให้ทราบว่าได้เพิ่มตำแหน่งงานในอเมริกาอีกหลายพันตำแหน่ง ตลาดหุ้นมีมูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้น

เขายังต้องการให้สภาคองเกรสยกเลิกกฎหมายประกันสุขภาพฉบับเดิม หรือโอบามาแคร์ ซึ่งเขาเสนอแผนการปฏิรูประบบสาธารณสุขฉบับใหม่ที่จะทำให้มีผู้ที่เข้าถึงระบบได้มากกว่า และได้รับการรักษาที่ดีกว่า 

นอกจากนี้ยังให้คำมั่นว่าจะผ่อนปรนภาษีสำหรับชนชั้นกลาง ลดภาษีผู้ประกอบการทางธุรกิจที่จะทำให้สามารถนำเงินไปส่วนนี้ไปขยายกิจการและเพิ่มการจ้างงานได้มากขึ้น

โดยในประเด็นความยากจนและการว่างงาน เขากล่าวว่า ชาวอเมริกัน 94 ล้านคนอยู่ในวัยแรงงาน มากกว่า 43 ล้านคนคือคนยากจน มากกว่า 43 ล้านคนดำรงชีวิตด้วยแสตมป์อาหาร คนหนุ่มสาวมากกว่า 1ใน5 ไม่ได้ทำงาน และเรามีปัญหาเศรษฐกิจรุนแรงที่สุดในรอบ 65 ปี ในช่วง 8 ปีของรัฐบาลชุดก่อนมีหนี้สินมากกว่าทุกรัฐบาลรวมกัน

ด้านความมั่นคง เขายืนยันเรื่องการสนับสนุนการทำงานของนาโต้ และการเพิ่มงบการทหารเพื่อปราบปรามกลุ่มก่อการร้าย ด้วยการตัดลดงบประมาณด้านการต่างประเทศ และการศึกษา โดยจะทำงานร่วมกับมิตรประเทศ ที่รวมถึงโลกมุสลิมเพื่อกำจัดกลุ่มก่อการร้าย ทั้งนี้ในตอนหนึ่งเขายังคงกล่าวยืนยันการสร้างกำแพงตลอดแนวชายแดนทางใต้ที่ติดต่อกับเม็กซิโก เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และยาเสพติด และยืนยันว่า เขาเป็นตัวแทนของชาวอเมริกัน ไม่ใช่ประชาคมโลก

ปัจจุบันคะแนนนิยมของประธานาธิบดีทรัมป์อยู่ในระดับร้อยละ 44 ที่ลดลงจากเมื่อครั้งที่ชนะการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ซึ่งนักวิเคราะห์ต่างมีความเห็นว่า เขาใช้การกล่าวปราศรัยนี้เพื่อเรียกคะแนนนิยม แต่บรรยากาศการประชุมในครั้งนี้ พบว่า นักการเมืองประมาณครึ่งหนึ่งที่อยู่ในห้องประชุมไม่ได้ลุกขึ้นยืนในขณะที่เขากล่าวสุนทรพจน์  ส่วนที่ด้านหน้าของทำเนียบขาว และแคปปิตอล ฮิลล์ ที่ตั้งของสภาคองเกรสยังมีกลุ่มผู้ที่คัดค้านประธานาธิบดีร่วมการชุมนุม

...

F163