ความเคลื่อนไหวที่บริเวณตลาดกลางคลองหลวง นายอัยย์ เพชรทอง ศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการตัดสัญญาณโทรศัพท์ภายในวัดแล้ว สามารถใช้ได้บางเครือข่ายเท่านั้น และทางเจ้าของตลาด ขอร้องให้พระภิกษุ ศิษยานุศิษย์ออกจากพื้นที่ เนื่องจากถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กดดันมา ขณะที่ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ทหาร ได้มีการผ่อนปรน ไม่ต้องตรวจบัตรประชาชน ส่วนอาหารที่ทางศิษยานุศิษย์นำมามอบให้พระภิกษุที่ตลาดกลางคลองหลวง ทางทีมงานจะไปมอบให้กับพระภิกษุที่อยู่ภายในวัด ที่ประตู 7 ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดีเอสไอ ร่วมตรวจสอบ
นายอัยย์ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ทหารขอความเห็นใจ ให้ศิษยานุศิษย์ถอดหน้ากากอนามัยเวลาคุยกับเจ้าหน้าที่ และในขณะนั้นเจ้าหน้าที่ไม่ได้ถ่ายภาพไว้ เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่รู้สึกอึดอัดเวลาพูดคุยกับศิษยานุศิษย์
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีตู้คอนเทรนเนอร์ของวัด ที่ใช้ในการจัดเก็บอาวุธ สิ่งผิดกฎหมายนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เป็นเพียงตู้คอนเทรนเนอร์เก็บของใช้ของพระสงฆ์ เนื่องจากทางวัดมีมีพระเป็นจำนวนมาก และเป็นเงินที่ศิษยานุศิษย์บริจาคมา จึงต้องเก็บรักษาเป็นอย่างดี
ส่วนกรณีที่มีการแถลงว่าวัดพระธรรมกายบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนในพื้นที่ต่างๆ หลายจุดในประเทศ นายอัยย์ ระบุว่า หากสังเกตวัดอื่นก็มีการสร้างเจดีย์บนยอดเขาหลายแห่ง หากจะดำเนินคดีกับวัดพระธรรมกาย ก็ควรดำเนินคดีกับวัดอื่นๆ ที่บุกรุกด้วยเช่นกัน และอยากถามว่าเป็นการบั่นทอนพระพุทธศาสนาหรือไม่ จึงขอให้กรณีนี้เป็นโมเดลการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้วย
ขณะนี้ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีการแก้พ.ร.บ. สงฆ์ ให้พระสงฆ์ห้ามรับมรดก จำกัดเงินของพระภิกษุ มีข้อจำกัดในการรับปัจจัย ซึ่งมีจ้อสงสัยว่าหากญาติโยมต้องการถวาย จะทำอย่างไร โดยอยากขอให้ทางดีเอสไอส่งรถมาขนอาหารที่ศิษยานุศิษย์นำมาทอดผ้าป่า เข้าไปให้พระภิกษุที่อยู่ภายในวัด โดยทางศิษยานุศิษย์ จะไม่เคลื่อนขบวนไป และเย็นนี้เวลา 16.30 น. จะมีการตั้งขบวนรณรงค์ให้ยกเลิกการใช้อำนาจตามมาตรา 44 โดยจะทีป้ายยาว 500 เมตร และในวันพรุ่งนี้เวลา 18.00 น. จะมีพิธีตักบาตร 500 รูป ส่วนในวันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์นี้ จะมีการทอดผ้าป่ายารักษาโรค