ค้นวัดธรรมกาย/นายกฯเรียกประชุม6 มี.ค.ที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิป.ยป./ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น

+++ภายหลังทางเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ได้นำตู้คอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่จำนวน 2 ตู้มาปิดทางเข้า-ออก บริเวณประตู 15 ถนนธรรมวิถี เลียบคลองสาม ของวัดพระธรรมกาย โดยไม่สามารถใช้สัญจรผ่านเข้าออกได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งด่านตรวจค้นอย่างเข้มงวดสำหรับผู้ที่จะผ่านเส้นทางดังกล่าว และคาดว่าทางเจ้าหน้าที่จะทยอยนำคอนเทนเนอร์ไปปิดประตูอื่นๆ ต่อไป

+++ขณะที่บริเวณตลาดกลางคลองหลวง พระสงฆ์และลูกศิษย์วัดธรรมกาย ได้จัดทอดผ้าป่าอาหารแห้งและผักผลไม้ เพื่อนำไปมอบให้พระและศิษย์ที่อยู่ภายในวัดธรรมกาย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้มีการตั้งจุดตรวจประชาชนเข้าออกบริเวณตลาด เพื่อป้องกันมือที่สามแฝงก่อเหตุป่วน

+++พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ที่ 10/2560 เรื่องการปรับปรุงการบริหารงานของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)  ว่า เนื่องจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช.ได้รับข้อร้องเรียนจำนวนมากถึงปัญหาความไม่โปร่งใสในการประมูลงานและจัดซื้อจัดจ้างของการรถไฟ จึงไม่สามารถเพิกเฉยต่อข้อร้องเรียนดังกล่าวได้ ทั้งนี้การใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งย้ายผู้ว่ารฟท.และระงับการปฏิบัติงานของคณะกรรมการรฟท. เพื่อตรวจสอบข้อมูลที่มีการร้องเรียนเข้ามา ซึ่งขณะนี้ถือว่าทุกคนยังเป็นผู้บริสุทธิ์  แต่ถ้าพบการทุจริตตามที่ถูกกล่าวอ้าง ก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป รัฐบาลและคสช. ต้องการสร้างความโปร่งใสในการดำเนินงานของภาครัฐ เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจในการจัดซื้อจัดจ้างของเจ้าหน้าที่ทุกระดับที่จะต้องมีธรรมาภิบาล โดยมีการตั้งคณะกรรมการชุดใหม่และให้นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รองอธิบดีกรมทางหลวง รักษาการในตําแหน่งผู้ว่ารฟท. อีกตำแหน่งหนึ่งไปพลางก่อน เพื่อให้โครงการต่าง ๆ ของรัฐบาลเดินหน้าต่อไปได้ จนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

+++นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการบริหาราชการแผ่นดิน ตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) กล่าวว่า หลังจากที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิของคณะกรรมการป.ย.ป. จำนวน 39 คน ไปแล้วเมื่อวานนี้ ในวันที่ 6 มี.ค. นายกรัฐมนตรีจะเรียกประชุมคณะที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิดังกล่าว เพื่อมอบนโยบายและขอบคุณที่มาช่วยรัฐบาลขับเคลื่อนการปฏิรูป

+++นายสุวิทย์ กล่าวว่า สำหรับรูปแบบการทำงานของที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิ จะมีการลงพื้นที่รับฟังความเห็นของประชาชนด้วย เนื่องจากนายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำในเรื่องของการสร้างความรับรู้และสร้างความเข้าใจ เพื่อประชาชนมีส่วนร่วม โดยจะให้กลุ่มเอ็นจีโอ คนรุ่นใหม่ มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนประเทศและร่วมพูดคุยกับทุกกลุ่มในภูมิภาคอีกด้วย

+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ( คสช.)และคณะ ได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ จากท่าอากาศยานทหาร กองบิน 21 จ.อุบลราชธานี มาลงจอดที่สนาม ฮ. ชั่วคราวโรงเรียนราษีไศล เพื่อมาตรวจราชการ และติดตามขับเคลื่อนนโยบายสำคัญเร่งด่วนของรัฐบาลในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ

+++นายกรัฐมนตรี พบประชาชน ข้าราชการ  ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจากนั้นจะเดินทางไปยังสวนสมุนไพร โรงเรียนราษีไศลเพื่อปลูกต้นพะยูง ซึ่งเป็นไม้ประจำถิ่นของ จ.ศรีสะเกษ เสร็จแล้วจะเดินเยี่ยมชมการเรียนการสอนของนักเรียนโรงเรียนราษีไศลสังกัด อบจ.ศรีสะเกษ และเดินทางโดยรถยนต์ต่อไปยังกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านอุ่มแสง ต.ดู่ อ.ราษีไศลจ.ศรีสะเกษ เพื่อเยี่ยมชมโรงสีข้าวของกลุ่มแปลงใหญ่ประชารัฐเกษตรสมัยใหม่อุ่มแสงพร้อมทั้งรับฟังบรรยายสรุป  และจะร่วมเปิดKick off โครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อพัฒนาการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ปี 2560   และร่วมกิจกรรมจัดทำปุ๋ยอินทรีย์กองใหญ่ พร้อมชมการแปรรูปและการเพิ่มมูลค่าเพิ่มข้าวหอมมะลิอินทรีย์ รวมทั้งติดตามการบริหารจัดการน้ำและการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของประชาชนด้านแหล่งน้ำในพื้นที่จ.ศรีสะเกษ พร้อมทั้งมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว และเวลา 15.15 น.จะเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ เพื่อกลับไปยังท่าอากาศยานกองบิน21 จ.อุบลราชธานี

+++ค่าเงินบาท ท้ายสัปดาห์เปิดตลาดที่ 34.95 บาท ต่อดอลลาร์สหรัฐฯ  จากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ 34.96 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ซื้อขายล่าสุดอยู่ที่ 34.95 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ นักวิเคราะห์ค่าเงินบาทกสิกรไทย กล่าวว่า ค่าเงินมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นในวันนี้ หลังมีแนวโน้มว่าการปฏิรูปด้านภาษีและแผนการลงทุนของนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่อาจจะล่าช้าออกไป และยังไม่มีความชัดเจน ทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น ส่งผลให้นักลงทุนเทขายดอลลาร์สหรัฐฯ จนอยู่ในระดับอ่อนค่า หากเทียบกับค่าเงินบาทและค่าเงินหลายสกุล

+++ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์หน้า คือการแถลงของนายทรัมป์ ต่อสภาคองเกรสเป็นครั้งแรกตั้งแต่รับตำแหน่ง ดังนั้นนักลงทุนจึงคาดหวังว่านายทรัมป์ น่าจะมีอะไรใหม่ๆที่เรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนได้