การติดตามคดีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร้องทุกข์ที่กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เพื่อขอให้ดำเนินคดี กับบริษัท เพย์ออล กรุ๊ป จำกัดที่มีนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือฟิล์ม ดาราชายเป็นประธานบริษัท เนื่องจากบริษัทเพย์ออลเป็นผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์ในการทำธุรกิจชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อีมันนี่ โดยไม่ได้รับอนุญาตจาก ธปท. ขณะนี้ พลตำรวจโทฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนและตัวแทนจาก ธปท.และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ซึ่งก่อนการประชุม พลตำรวจตรีชวลิต แสวงพืชน์ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า วันที่ 3 มีนาคม 2560 เวลา 13.00น. เจ้าหน้าที่จะเรียกกรรมการ5คนและนิติบุคคลของบริษัท มารับทราบข้อกล่าวหาที่ปอศ.ในข้อหาให้บริการอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาต จากการรวบรวมหลักฐาน พบว่า บริษัทดังกล่าวประกอบธุรกิจไม่ถูกต้อง ส่วนจะเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่หรือไม่ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ เพราะยังไม่มีสมาชิกของบริษัทเข้าร้องทุกข์ ขณะนี้พบเพียงความผิดเกี่ยวกับการให้บริการอย่างเดียว
ด้านนายพฤทธิพงศ์ ศรีมาจันทร์ ผู้ช่วยผู้ว่าการฝ่ายช่วยงานบริหาร ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การจัดตั้งบริษัทธุรกิจอีมันนี่ จะมีระเบียบขั้นตอน โดยต้องมีทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท และกำหนดวันเวลาคืนผลตอบแทนให้สมาชิกอย่างชัดเจน และเมื่อรับเงินจากสมาชิกแล้วจะต้องมีการจัดเก็บและทำบัญชีอย่างชัดเจนเช่นกัน แต่ในส่วนของบริษัทเพย์ออล มีการฝ่าฝืนทั้งหมด จึงเข้าร้องทุกข์ให้ดำเนินคดี ขณะเดียวกัน จากการตรวจสอบบริษัทที่กระทำความผิดในลักษณะนี้พบว่ามีเพียงบริษัทเพย์ออล ที่เข้าข่ายความผิดเพียงบริษัทเดียว หากประชาชนมีเบาะแสหรือพบบริษัทที่เข้าข่าย สามารถแจ้งได้ที่หมายเลข1213
นายณัชภัทร ขาวแก้ว นิติกรชำนาญการ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2555 บริษัทเพย์ออลได้เคยจดทะเบียนในนามบริษัทนาน่า คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งขออนุญาตเป็นบริษัทขายตรงจำหน่ายผลิตภัณท์ประเภท อาหารเสริมและเครื่องสำอางค์ รวม 6 รายการ จากนั้นเมื่อปี2558ได้มาขออนุญาตกับ สคบ.และกรมการค้าภายใน เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็นเพย์ออล กรุ๊ป จำกัด พร้อมกับปรับแผนการทำงานเป็นบริการแบบอีมันนี่ ซึ่งยังไม่ได้รับอนุญาต แต่กลับให้บริการกับผู้บริโภคก่อน จึงเข้าข่ายการกระทำผิด ทั้งนี้ได้มีการเชิญ กรรมการ และนิติบุคคล มาเปรียบเทียบเสียค่าปรับรายละ 300,000บาท รวมเป็นเงิน 1,800,000 บาท
ทั้งนี้ สำหรับประชาชนที่ต้องการยกเลิกการเป็นสมาชิก สามารถดำเนินการได้ตามระเบียบ โดยบริษัทจะต้องจ่ายค่าสมาชิกคืนภายใน 15 วัน สำหรับผู้บริโภคสามารถคืนสินค้าได้ภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่รับสินค้า และหลังจากนี้หากพบว่าบริษัทยังโฆษณาทั้งทางเว็บไซต์หรืออินเตอร์เน็ตจะเข้าข่ายมีความผิดซ้ำ และจะดำเนินคดีอีกข้อหา อย่างไรก็ตามถือว่าขณะนี้บริษัทเพย์ออล ได้หยุดบริการเกี่ยวกับธุรกิจอีมันนี่ แล้ว
ผู้สื่อข่าว:ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ