การฝึกซ้อมป้องกันและระงับอัคคีภัยของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) ได้จัดขึ้นบริเวณใต้ทางพิเศษฉลองรัช ซอยสุขุมวิท 48/1 ใต้สะพานพระโขนงร่วมกับประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนใกล้เคียง โดยมีนายณรงค์ เขียดเดช ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย เป็นประธานการฝึกซ้อม นายณรงค์ กล่าวว่า ได้จัดกิจกรรมดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ปีละ1ครั้ง โดยมองว่า ภารกิจของกทพ.ที่นอกจากการให้บริการและการเดินทางขนส่งแล้ว สิ่งจำเป็นอีกสิ่งหนึ่ง คือการดูแลพื้นที่หรือชุมชนใกล้เคียงของการทางพิเศษด้วย เพราะหากเกิดเหตุอัคคีภัย และมีเปลวไฟขึ้นมา ก็จะกระทบต่อการจราจรบนทางด่วนและโครงสร้างของทางด่วนได้
กิจกรรมวันนี้เป็นการสานความร่วมมือและให้ความรู้กับชุมชนที่อยู่รอบข้างช่วยกันป้องกันไม่ให้เกิดเหตุ เพราะการเกิดอัคคีภัยถือเป็นเรื่องใกล้ตัวที่ทุกคนสามารถดูแลป้องกันได้ รวมถึงกทพ.มีความประสงค์ที่จะดูแลสิ่งแวดล้อมโดยรอบทางด่วน จึงจะต้องสร้างเครือข่ายพันธมิตรกับชุมชนและคิดว่าจะยกระดับการดูแลไปอีกหนึ่งขั้น นอกจากนี้ สิ่งใดที่กทพ.สามารถสนับสนุนได้ก็ยินดีอย่างเต็มที่ หากชาวชุมชนมีเรื่องทุกข์ใจสามารถปรึกษาได้ ยินดีช่วยเหลือ ซึ่งที่ผ่านมากทพ.เข้ามาดูแลชุมชนรอบข้างแล้ว เช่น การสนับสนุนถังดับเพลิง และอนาคตมีการวางแผนโครงสร้างที่มั่นคงขึ้น โดยจะระบุว่า ใครจะเป็นผู้นำชุมชน เพื่อสามารถรู้รายละเอียดของชุมชน หากอนาคตเกิดเหตุขึ้นก็จะสามารถรู้ได้ว่าจะประสานหรือติดต่อใคร โดยปีนี้ได้ดำเนินการไปแล้ว4-5ชุมชน ที่เป็นชุมชนนำร่อง ก่อนที่จะขยายไปยังชุมชนอื่นต่อไป
สำหรับกิจกรรมวันนี้ เป็นที่น่าพอใจ เห็นได้ว่า ชาวชุมชนต่างให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และหวังว่าจะได้รับความร่วมมือจากชาวชุมชนจุดอื่นๆที่จะมีการจัดกิจกรรมลักษณะนี้ด้วย
ส่วนการให้ข้อมูลดูแลถังดับเพลิงเพื่อเตรียมความพร้อมหากมีเหตุขึ้น นายสุทธิพงศ์ บำรุงศรี พนักงานบริหารทั่วไปของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย แนะนำว่า จะต้องตรวจสอบถังดับเพลิงทุกๆ 6 เดือน และสังเกตเข็มที่อยู่บริเวณ หน้าถัง รวมถึงทุก6เดือน ควรคว่ำหงายถังดับเพลิง เพื่อเตรียมความพร้อมของเครื่องมือไว้ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพเมื่อเกิดเหตุ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้สอนวิธีการใช้ถังดับเพลิงอย่างถูกต้อง หากเกิดเหตุขึ้น เพราะหลายครั้งประชาชนมักตกใจและใช้ถังดับเพลิงผิดวิธี
สำหรับขั้นตอนการฝึกซ้อม จะมีทีมสร้างสถานการณ์จำลองเหตุการณ์ การเกิดเพลิงไหม้อาคารไม้ โดยเริ่มจากให้ประชาชนที่ประสบเหตุแจ้งกับอาสาป้องกันอัคคีภัยประจำชุมชน เข้าดับเพลิงในเบื้องต้นก่อน และแจ้งเหตุไปหน่วยกู้ภัยในพื้นที่ พร้อมแจ้งมาที่ call center ของกทพ. หมายเลข 1543 ด้วย ซึ่งเมื่อพนักงานได้รับแจ้งเหตุแล้วจะประสานไปยังพนักงานกู้ภัยของกทพ.ให้ทำการตรวจสอบ พร้อมกับนำรถดับเพลิง รถยก รถบรรทุกน้ำ ของกทพ. เข้ามาในพื้นที่ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุแล้วก็จะทำการประเมินสถานการณ์ และพนักงานกู้ภัยกทพ.จะนำถังดับเพลิงชนิดโฟมฉีดและต่อสายฉีดน้ำเข้าดับไฟที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นจะรายงานสถานการณ์เบื้องต้นให้กับศูนย์ควบคุมทราบ หากเหตุการณ์ยังไม่สงบนิ่งก็จะขอการสนับสนุนจากพนักงานกู้ภัยประจำในพื้นที่เข้าควบคุม จนกว่าไฟจะดับหมด เจ้าหน้าที่จึงจะเข้าตรวจสอบความเสียหายของโครงสร้างทางพิเศษต่อไป
ผู้สื่อข่าว:ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ