รองผบช.ภ.1 เสริมกำลังหนุนDSI พระสนิทวงศ์ ตกใจปฎิบัติการทหารช่วงเช้า รุกคืบร้องUN

ความเคลื่อนไหวที่วัดพระธรรมกาย  พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 เปิดเผยว่า วันนี้เดินทางเพื่อนำกำลังตำรวจเข้ามาเสริมเพิ่มเติมอีก 3 กองร้อย ที่ประตู 7 ซึ่งเป็นกองกำลังตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 จากจังหวัดสระแก้ว สมุทรสาคร จำนวน กว่า 400นาย ซึ่งเป็นคำร้องของเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นกระจายกำลังไว้เพื่อดูแลความเรียบร้อย ที่บริเวณประตู 6 และด้านในประตู 7  คาดว่าจะมีการพูดคุยเกี่ยวกับการวางแผนกับทางเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อรับทราบแผนปฎิบัติการเข้าค้นวัดพระธรรมกาย หลังจากเมื่อเช้าที่ผ่านมาได้มีการประชุมที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1

ขณะที่ พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกาย ระบุว่า ขอเรียกร้องและขอความเห็นใจเจ้าหน้าจากภาครัฐทั้งตำรวจและทหารให้งดใช้ความรุนแรง และไม่ให้นำยุทโธปกรณ์ทางทหาร เช่นลวดหนามเข้ามาในพื้นที่ เนื่องจากจะทำให้ พระและลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย ไม่สบายใจ โดยขอความเมตตาเจ้าหน้าที่ออกจากพื้นที่วัด และให้ไปควบคุมดูแลความปลอดภัยด้านนอกวัดแทน เนื่องจาก 3 วันมานี้ เจ้าหน้าที่ได้ยึดวัดเต็มรูปแบบและค้นทุกซอกทุกมุม รวมถึงได้เซ็นเอกสารว่าไม่พบเป้าหมายในพื้นที่ไปแล้ว จึงขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ยุติเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยสันติวิธี

ส่วนกรณีที่มีการระบุว่า พระทัตตชีโว ไม่ยอมให้เจ้าหน้าเข้าค้นวัดพระธรรมกายรอบสอง พระสนิทวงศ์ ยืนยันว่า เป็นเพียงสารจากลูกศิษย์วัดที่พระทัตตชีโว นำไปส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น พร้อมยืนยัน วัดปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่เสมอมา หลังทหารยินยอมที่จะถอยกลับไปนอกพื้นที่ พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกาย ระบุว่า ทั้งพระและญาติโยมทุกคนที่อยู่ในวัดต่างรู้สึกตกใจกับการกระทำของทหารในวันนี้ เนื่องจากไม่มีการแจ้งล่วงหน้า นอกจากนี้ พระสนิทวงศ์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาก่อนเจ้าหน้าจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ จะเข้ามาตรวจค้นวัด เจ้าหน้าที่จะโทรมาแจ้งก่อนทุกครั้งว่าจะเข้าตรวจค้นจุดไหนบ้าง และจะนำกำลังเข้าวัดประมาณกี่โมง ก่อนที่ทางวัดจะประสานผู้สื่อข่าวให้เข้าไปตรวจสอบพร้อมๆกันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ทั้งนี้ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกาย ระบุว่า ญาติโยมที่พักอาศัยอยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เตรียมนำหนังสือเข้าร้องเรียนต่อสหประชาชาติ ในการประชุมใหญ่วันที่ 27 ก.พ. นี้ ในหัวข้อเรื่องสิทธิมนุษยชน รวมถึงเตรียมนำหนังสือร้องเรียนยื่นต่อองค์กรสหประชาชาติประจำประเทศไทยด้วยเช่นกัน

ผสข.ปิยะธิดา เพชรดี