เว็บไซต์ยูโรนิวส์ รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯได้ออกกฏระเบียบฉบับใหม่ที่เข้มงวดมากขึ้น เพิ่มจำนวนผู้อพยพผิดกฏหมายที่จะถูกเนรเทศและเร่งขั้นตอนการส่งตัวกลับประเทศให้เร็วยิ่งขึ้น ผู้อพยพกลุ่มนั้นรวมถึงคนที่เข้าเมืองโดยไม่มีหนังสือสำคัญซึ่งถูกจับในความผิดเล็กน้อยๆเช่นฝ่าฝืนกฏจราจรหรือขโมยของในร้านค้า จะถูกเนรเทศกลับประเทศเช่นเดียวกับกลุ่มผู้ทำความผิดคดีอาญาร้ายแรงกว่านั้น
สำหรับกฏระเบียบใหม่มีดังนี้คือ ขยายการเนรเทศกลุ่มผู้อพยพให้ครอบคลุมกลุ่มที่ไม่มีหนังสือสำคัญ ที่กระทำความผิดทางอาญา การควบคุมตัวกลุ่มผู้ลักลอบเข้าเมืองที่ถูกจับกุมได้ตามแนวชายแดนไว้ในห้องขังจนกว่าการดำเนินคดีของพวกเขาจะเสร็จ การส่งผู้อพยพชาวเม็กซิโกที่ลักลอบข้ามชายแดนติดกับภาคใต้ของสหรัฐฯกลับยังเม็กซิโก และการดำเนินคดีกับพ่อแม่ที่ช่วยให้ลูกๆของพวกเขาลักลอบเข้าสหรัฐฯอย่างผิดกฏหมาย
ด้านนายฌอง สไปเซอร์ โฆษกทำเนียบขาวของสหรัฐฯ เพิ่มเติมว่า การเปลี่ยนแปลงกฏระเบียบนี้ไม่ใช่เป็นกฎหมายใหม่ ระบุว่าเมื่อเช้านี้ นายจอห์น เคลลี รัฐมนตรีกระทรวงมาตุภูมิและความมั่นคงของสหรัฐฯได้เผยแพร่บันทึกความจำเกี่ยวกับการปฏิบัติตามคำสั่งพิเศษฉบับที่ 2 ของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งทำขึ้นเพื่อมุ่งจะปกป้องความมั่นคงของประเทศ ที่สำคัญคือนายทรัมป์มอบหมายให้กระทรวงฯไปจัดทำรายละเอียดการดำเนินการตามกฏหมายคนเข้าเมืองให้เกิดผลจริง
กระทรวงฯวางแผนจะจ้างเจ้าหน้าที่เพิ่มเจ้าหน้าที่คนเข้าเมืองและศุลกากรอีก 10,000 คนและเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนชายแดนอีก 5,000 คน เพื่อบังคับใช้กฏระเบียบใหม่ ในปัจจุบันมีผู้อพยพที่เข้าเมืองอย่างผิดหมาย 11 ล้านคนในสหรัฐฯ ซึ่งนายทรัมป์เคยให้คำมั่นระหว่างการหาเสียงเมื่อปีที่แล้วว่าจะหาทางลดลง
ทีมต่างประเทศ
แฟ้มภาพ