องค์การนิรโทษกรรมสากล เตือนวาทกรรมการเมืองที่สร้างความแตกแยกเป็นอันตรายต่อสังคมโลก

บีบีซี รายงานอ้างนายซาลิล เชตตี เลขาธิการองค์การนิรโทษกรรม องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนชั้นนำของโลกว่า นักการเมืองที่ใช้วาทกรรมการเมืองที่สร้างความแตกแยกขึ้นในสังคมและดูหมิ่นเหยียดหยามคนอื่นๆโดยมีเป้าประสงค์ทางการเมืองของตัวเองแอบแฝงอยู่กำลังทำให้โลกเกิดความแตกความสามัคคีและอันตรายต่อสังคมโลกมากขึ้นเรื่อยๆ ในรายงานประจำปี องค์การนิรโทษกรรมสากล ยกตัวอย่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯที่ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อเดือนที่แล้ว ห้ามพลเมืองจาก 7 ประเทศมุสลิมเข้าสหรัฐฯชั่วคราวว่า เป็นตัวอย่างนักการเมืองที่แสดงอารมณ์เกรี้ยวกราดและใช้วาทกรรมการเมืองที่สร้างความแตกแยกในสังคมอเมริกัน

องค์การนิรโทษกรรมสากล วิจารณ์ผู้นำประเทศอื่นๆรวมถึงประธานาธิบดีเรเซป เทย์ยิป เออร์โดกันของตุรกี,นายกรัฐมนตรี วิกเตอร์ ออร์บานของฮังการีและประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตของฟิลิปปินส์ ว่าเป็นผู้นำประเทศที่นิยมใช้ถ้อยคำในลักษณะสร้างกระแสความหวาดกลัว การใส่ร้ายป้ายสีและความแตกแยกขึ้นในสังคม นอกจากนั้น รัฐบาลของบางประเทศใช้กระแสเรื่องผู้อพยพเพื่อให้เกิดประโยชน์กับเป้าหมายทางการเมืองของพวกเขาเช่นกัน ที่สำคัญคือหลายประเทศที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นแกนนำรณรงค์ให้ประเทศอื่นๆส่งเสริมสิทธิมนุษยชนกลับถอยหลังเข้าคลองคือ เริ่มหันมาปราบปรามสิทธิมนุษยชนในประเทศเสียเอง รายงานนี้ซึ่งจัดทำครอบคลุม 159 ประเทศทั่วโลก ตั้งข้อสังเกตถึงการใช้ถ้อยคำในเชิงปลุกปั่นให้คนเกลียดกันว่าเริ่มแพร่หลายมากขึ้นเรื่อยๆในสหรัฐฯและยุโรป โดยเฉพาะนักการเมืองที่มีนโยบายต่อต้านผู้อพยพ ระบุว่าผลสะท้อนกลับที่จะเกิดขึ้นคือจะเกิดเหตุทำร้ายกันมากยิ่งขึ้น โดยมีสาเหตุสำคัญคือความต่างกันทางด้านเชื้อชาติ เพศ สัญชาติและศาสนา

ทีมข่าวต่างประเทศ

CR:REUTERS