ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.
+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวหลังเป็นประธานการประชุมคสช.และการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ถึงการทูลเกล้าฯร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชามติที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม ว่า ได้นำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมไปแล้วตามกำหนดเวลา ซึ่งประเด็นการแก้ไขเป็นไปตามพระราชปรารภที่เคยชี้แจงไปแล้ว
+++ส่วนประเด็นการปรองดอง พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.)ให้สัมภาษณ์ถึงความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองในช่วงสร้างความปรองดองว่า มีการเชิญพรรคการเมือง หรือกลุ่มการเมืองเรียงตามหมวดตัวอักษร ยืนยันว่าได้เชิญทุกพรรคทุกกลุ่ม ส่วนการตั้งเวทีหากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ทำเรื่องการปรองดองไม่สำเร็จนั้น ตนยังไม่ได้ยินข่าว ทราบแต่เพียงว่ามีการขีดเส้น หากไม่สำเร็จ ก็จะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง สำหรับการเปิดกว้างให้กลุ่มที่ยังมีข้อสงสัยเข้ามาหารือกันอีกหนในขั้นตอนที่3 คือขั้นจัดทำข้อเสนอกระบวนการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดองนั้น กำลังการคิดกันอยู่ แต่ยังไม่ได้ตกผลึกว่า จะเป็นอย่างไร ตอนนี้ขอดูข้อเสนอของทุกกลุ่มทุกฝ่ายก่อน เชื่อว่าในใจทุกคนรักชาติบ้านเมืองต้องยอมกันบ้าง เพื่อให้เราเดินไปข้างหน้า ดีกว่ามานั่งพูดสิ่งย้อนหลังก็ไม่มีวันจบ ประเทศอื่นก้าวหน้าอย่างมั่นคง ขณะที่เราก็ยังโซเซ ขอให้ช่วยกันคนละไม้ละมือ
+++นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย แถลงข้อหารือเบื้องต้นในการส่งคนเข้าร่วมเวทีปรองดอง โดย นายภูมิธรรม กล่าวว่า เบื้องต้นพรรคได้ประสานสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมเพื่อเข้าร่วมพูดคุยและเสนอแนะแนวทางปรองดองในวันที่ 8มีนาคมนี้ เวลา 09.00-12.00น.ส่วนบุคคลที่จะเข้าร่วม อาทิ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรค นายปลอดประสพ สุรัสวดี รักษาการรองหัวหน้าพรรค นายโภคิน พลกุล นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา อดีตประธานรัฐสภา นายชัยเกษม นิติสิริ อดีต รมว.ยุติธรรม นายนพดล ปัทมะ อดีตรมว.ต่างประเทศ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรมว.ศึกษา รวมทั้งตนและนายชูศักดิ์ ส่วนของวันและตัวบุคคลอาจมีการเปลี่ยนแปลง เพราะบางส่วนอาจติดภารกิจอยู่ต่างประเทศ หากชัดเจนแล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
+++แก้กฎหมายคุมสื่อ พล.อ.อ.คณิต สุวรรณเนตร ประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการสื่อสารมวลชน สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ยืนยันว่าจำเป็นต้องมีตัวแทนภาครัฐอยู่ในโครงสร้างกรรมการวิชาชีพสื่อฯเพราะภาครัฐกับภาคเอกชนต้องเดินไปด้วยกัน ทั้งนี้ ตัวแทนภาครัฐที่เหลืออยู่ 2คน ไม่สามารถแทรกแซงสภาวิชาชีพสื่อในทางบริหารได้ เพราะการลงมติต้องใช้การโหวต คนที่เหลืออีก 11คน คงไม่คล้อยตามเสียงข้างน้อยจากภาครัฐ พล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ รองประธาน กมธ.ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการสื่อสารมวลชน กล่าวว่า วันที่ 27กุภาพันธ์ กมธ.จะประชุมนัดสุดท้าย เพื่อแก้ไขถ้อยคำเล็กน้อยๆและสรุปเนื้อหาร่างพรบ.การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพสื่อฯอย่างเป็นทางการ ก่อนจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมวิปสปท.ในต้นเดือนมีนาคมและเข้าสู่ที่ประชุม สปท.ต่อไป
+++พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า ได้สั่งกำชับให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเร่งปราบปรามแหล่งลักลอบค้าประเวณีให้หมดจากเมืองพัทยาเพื่อสนองนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งได้สั่งกำชับให้กวาดล้างแหล่งค้าประเวณีทั้งหมดหลังจากสื่ออังกฤษรายงานยกให้พัทยาเป็นเมืองหลวงแห่งเซ็กซ์ของโลกสร้างภาพลบต่อประเทศไทย ล่าสุด ได้เรียกผู้ประกอบการสถานบันเทิงทั่วเมืองพัทยาให้มารับทราบถึงนโยบายของนายกรัฐมนตรีพร้อมแจ้งเตือนผู้ประกอบการหากตรวจพบว่าลักลอบค้าประเวณีจะสั่งปิดทันทีและลงโทษขั้นรุนแรง ขณะที่การแก้ปัญหาอาชญากรรมซึ่งติดอันดับต้นของประเทศนั้นได้สนธิกำลังทุกฝ่ายคุมเข้มความปลอดภัยไม่ให้เกิดเหตุกับนักท่องเที่ยวทุกรูปแบบซึ่งไม่ใช่เกิดเหตุแล้วจึงไล่จับคนร้าย
+++การลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยรอบ 2 นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับแก้ไขแบบฟอร์มให้ผู้มีรายได้น้อยมาลงทะเบียน เนื่องจาก นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ได้แนะว่าควรจะกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มเท่าที่จำเป็น แต่ได้ข้อมูลครบถ้วน ก่อนจะเปิดให้ลงทะเบียนในช่วงต้นเดือน เม.ย. ถึงกลางเดือน พ.ค.นี้ ซึ่งคาดว่าจะมีผู้มาลงทะเบียนเพิ่มขึ้นมากกว่าครั้งแรกที่มีกว่า 8 ล้านคน และผู้ที่เคยลงทะเบียนเดิมจะต้องมาลงทะเบียนใหม่เพื่ออัพเดทข้อมูลฐานรายได้ด้วย เมื่อได้รายชื่อผู้ลงทะเบียนแล้ว กระทรวงการคลังจะคัดกรองคุณสมบัติผู้มีสิทธิ และออกบัตรประจำตัวผู้มีรายได้น้อยให้ โดยบัตรดังกล่าวจะมีการแยกประเภทแต่ละบุคคลที่จะแยกตามฐานรายได้ เพื่อให้รัฐส่งเงินเข้าบัตรไปยังผู้มีรายได้น้อยโดยตรง และแยกการให้สวัสดิการระหว่างผู้มีรายได้น้อยใน กทม.และต่างจังหวัด เพราะความต้องการของแต่ละพื้นที่ไม่เท่ากันสำหรับนี้ผู้มีรายได้น้อยที่มาขึ้นทะเบียนรอบแรกมีจำนวน 8.2 ล้านราย มีผู้มีสิทธิได้รับสวัสดิการ 7.7 ล้านราย ซึ่งรัฐบาลได้จ่ายเงินให้แล้ว 7.5 ล้านราย ส่วนที่เหลือกว่า 1 ล้านราย มีปัญหาต่างๆ เช่น ไม่มาเปิดบัญชี ซึ่งจะหาแนวทางการแก้ไขก่อนการลงทะเบียนครั้งใหม่
+++การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (21 ก.พ.) อนุมัติโครงการ สินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉินตามที่กระทรวงการคลังเสนอ วงเงิน สินเชื่อรวม 10,000 ล้านบาท ดำเนินการ โดยธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ปล่อยสินเชื่อแห่งละ 5,000 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาหนี้นอกระบบเกณฑ์ในการปล่อยสินเชื่อ ประชาชนผู้มีรายได้น้อยและเกษตรรายย่อยไม่เกินรายละ 50,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 0.85% ต่อเดือน หรือ 10% ต่อปี ระยะเวลาให้กู้ยืมไม่เกิน 5 ปี โดยสามารถยื่นกู้ได้ ตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ.2560 เป็นระยะเวลา 1 ปี และการค้ำประกันต้องมีบุคคลค้ำประกันอย่างน้อย 1 คนหรือมีหลักทรัพย์ค้ำประกันจากข้อมูลการลงทะเบียนลูกหนี้นอกในช่วงปี 2552-53 พบว่า มีลูกหนี้นอกระบบในโครงการทั้งสิ้น 1.185 ล้านคน คิดเป็นมีมูลหนี้ประมาณ 123,240 ล้านบาทโดยจะมการเปิดตัวโครงการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบของรัฐบาลวันที่ 27 ก.พ.นี้
+++รายงานผลการจัดอันดับประจำปีของ INRIX บริษัทที่ให้บริการข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตและแอพพลิเคชั่นเกี่ยวกับการจราจรและการขับรถ ซึ่งทำการสำรวจสภาพการจราจรในชั่วโมงเร่งด่วนใน 1,064 เมือง จาก 38 ประเทศทั่วโลก ผลปรากฎว่า ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับให้เป็น ประเทศที่รถติดมากที่สุดในช่วงที่มีการจราจรคับคั่ง โดยผู้ขับขี่ใช้เวลาบนถนนเฉลี่ย 64.1 ชั่วโมงต่อปี ตามมาด้วยโคลอมเบีย และอินโดนีเซีย ที่ใช้เวลาบนถนนที่สภาพการจราจรติดขัดเท่ากันที่ 47 ชั่วโมงต่อปี หากนับเฉพาะเมือง เมืองที่รถติดมากที่สุดในโลกในชั่วโมงเร่งด่วน คือ นครลอสแองเจลิสของสหรัฐฯ ซึ่งใช้โดยผู้ขับขี่ใช้เวลาเฉลี่ยบนถนน 104.1 ชั่วโมงต่อปี ตามมาด้วยกรุงมอสโก ของรัสเซีย แชมป์เก่า ที่ 91.4 ชั่วโมงต่อปี และอันดับ 3 คือ นครนิวยอร์ก ของสหรัฐฯ ที่ 89.4 ชั่วโมงต่อปี ส่วนกรุงเทพมหานครอยู่ในอันดับที่ 12 ที่ 64.1 ชั่วโมงต่อปี ขยับขึ้นมาจากอันดับที่ 30 เมื่อปีที่แล้ว แซงหน้ากรุงการากัส เมืองหลวงของเวเนซุเอลา และกรุงเม็กซิโกซิตี้ เมืองหลวงของเม็กซิโก ที่เคยอยู่ในท็อปเทน
+++พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ดูแลงานจราจร กล่าวว่าสำหรับผลการปฏิบัติในการกวดขันจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายจราจรด้วยกล้องบันทึกภาพซึ่งทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้กำชับให้ตำรวจราจรทั้ง 88 สน. ดำเนินการกวดขันวินัยจราจรมาตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 60 จนถึงปัจจุบันดำเนินการมาแล้วกว่า 20 วัน ซึ่งขณะนี้มีผลการตรวจจับผู้กระทำความผิดด้วยกล้องตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. -20 ก.พ. 60 พบว่ามีการออกใบสั่งไปทั้งหมดจำนวนกว่า 31,264 ราย อันดับ 1.ข้อหาฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจรหรือเครื่องหมายบนพื้นทาง 24,619 ราย อันดับ 2.ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด จากการตรวจสอบพบว่าประชาชนเริ่มตื่นตัวและเดินทางเข้ามาชำระค่าปรับกับทาง สน. พื้นที่ที่ออกใบสั่งและจ่ายค่าปรับผ่านทางธนาคารอย่างต่อเนื่อง มาตรการดังกล่าวไม่ได้ต้องการทำยอดใบสั่งให้ได้จำนวนมาก แต่เน้นการลดการกระทำความผิดของประชาชนลงแม้ว่าจะไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนควบคุม
+++ส่วนกรณีที่มูลนิธิเมาไม่ขับมีข้อเสนอให้รถยนต์ทุกคันติดกล้องหน้ารถ บช.น. เห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าวเพราะหากเกิดเหตุก็จะเป็นหลักฐานช่วยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสอบสวนได้ง่ายขึ้น ทั้งเรื่องอาชญากรรมและเรื่องการทำผิดกฎหมายจราจรได้ด้วย ที่ผ่านมามีหลายคดี และหลายเหตุการณ์ที่สามารถคลี่คลายลงได้เพราะกล้องหน้ารถดังนั้นในอนาคตต่อไปหากรถยนต์ทุกคันมีกล้องก็จะถือว่าช่วยเป็นหูเป็นตาในการทำงานของเจ้าหน้าที่