ผู้ว่าฯปทุม ฯ เรียกผู้บริหารท้องถิ่น ท่าโขลง,คลองสาม รายงานตัววันนี้

การเข้าควบคุมพื้นที่ วัดพระธรรมกายตามคำสั่งคสช.เข้าสู่วันที่ 7 แล้ว แต่ยังเกิดปัญหาการขัดขวางการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ เพื่อให้เป็นไปตามคำสั่งของคสช. ที่กำหนดโทษผู้ขัดขวางการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ คือจำคุก 1 ปี ปรับ 2 หมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ

 ล่าสุด นายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี มีคำสั่งให้ผู้บริหารการปกครองส่วนท้องถิ่น เข้ารายงานตัว ในวันนี้ เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจ.ปทุมธานี  ได้แก่ นายไท ทองปราง นายกเทศมนตรีเมืองท่าโขลง นายปกรณ์ทองปราง รองนายกเทศมนตรีเมืองท่าโขลง นายวีระศักดิ์ ฮาดดา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองสาม นางทุเรียน ปุนพิทักษ์ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลคลองสาม รวมทั้งยังมีคำสั่ง ให้ นายสถาพร มาทรัพย์ กำนันตำบลคลองสาม และนายวีระ วงษ์มั่งมี ผู้ใหญ่บ้านม. 7 ตำบลคลองสามให้มารายงาน ในวันนี้ เวลา 10.00 น.ที่ ทำการปกครองจังหวัดปทุมธานี ณ ศาลากลางจังหวัดปทุมธานี

ความเคลื่อนไหว ตั้งแต่ 18.00 น. เมื่อวานนี้  ตำรวจตระเวณชายแดน จังหวัดปราจีนบุรี ประมาณ 70 นาย มาตั้งแถวบริเวณด้านหน้าตลาดกลางคลองหลวง ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามวัดพระธรรมกาย เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน และเพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชน ข้ามไปยังฝั่งวัดพระธรรมกาย เนื่องจากเกรงจะเกิดอันตรายจากอุบัติเหตุ เพราะล่าสุด บริเวณเกาะกลางถนนเจ้าหน้าที่ได้มีการนำแผ่นเหล็กมากั้นไว้ตลอดแนว ทำให้ศิษยานุศิษย์ที่ ปักหลักอยู่บริเวณตลาดกลางคลองหลวงแสดงความไม่พอใจและต้องการจะให้เจ้าหน้าที่ ถอนกำลังออกจากพื้นที่

ส่วนในบริเวณตลาดกลางคลองหลวงได้มีพระภิกษุ และศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย ที่ไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่วัดได้ มาตั้งเต็นท์ปักหลัก ตั้งแต่เมื่อวานนี้ และทำกิจกรรมสวดมนต์และฟังเทศนาเพื่อปลุกใจตลอดทั้งวัน ซึ่งสถานที่ดังกล่าวไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปบันทึกภาพข้างในโดยอ้างว่า  สื่อมวลชนทำการบิดเบือนในการนำเสนอข่าว  ขณะที่บริเวณถนนเลียบคลองแอล ฝั่งสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนมงคลเศรษฐี  พระและลูกศิษย์ มีการนำเชือกฟางมามัดแผงเหล็กที่มีอยู่เดิมแล้วให้แน่นหนามากยิ่งขึ้นขณะเดียวกันได้นำสแลนสีเขียวมาปิดบังบริเวณเต็นท์ที่ตั้งอยู่จนไม่สามารถมองเห็นข้างในได้ พร้อมกับนำแผ่นป้ายที่มีข้อความเรียกร้องให้ยกเลิกมาตรา 44 เพราะเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นข้อความทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ  ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังคงตรึงกำลังเฝ้าระวังรักษาความเรียบร้อยในพื้นที่ตามปกติ