การแถลงข่าวการปฏิบัติงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ภาค 1 พ.ต.อ. ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยว่า พรุ่งนี้จะมีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เจ้าคณะจังหวัดเจรจาพูดคุยกับทางวัดพระธรรมกายอีกครั้งในเวลา 09.00 น. และจะต้องได้ข้อยุติในเวลา 10.00 น. ซึ่งเรียกได้ว่า ดีเอสไอ จะขีดเส้นตายให้วัดพระธรรมกายในเวลา 10.00 น. หากไม่ได้ข้อยุติจะปรับเปลี่ยนแผนและยกระดับการปฏิบัติงานต่อไป
พ.ต.อ. ทรงศักดิ์ ระบุว่า จากการประเมินของเจ้าหน้าที่ทหาร พบว่ามีศิษยานุศิษย์เดินทางออกจากวัดพระธรรมกายแล้วกว่า 900 คน ส่วนศิษยานุศิษย์ที่อยู่ภายในวัดมีประมาณ 2,000 คน ซึ่งมีการเข้า-ออก วัดหลายช่องทาง ทั้งทุบและปีนกำแพง และต้องยอมรับว่าวัดพระธรรมกายมีพื้นที่กว้างขวาง ไม่สามารถเฝ้าระวังไปทั้งหมด ทำให้มีการลักลอบเข้าไปได้ ทั้งนี้ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่จะไม่มีการดำเนินคดีกับศิษยานุศิษย์ที่เดินทางออกวัดพระธรรมกาย เพราะไม่มีความจำเป็น สำหรับการเข้าตรวจค้นพื้นที่โซนเอและโซนบี อีกรอบนั้น เป็นการตรวจค้นให้หายเคลือบแคลงสงสัย
พ.ต.อ. ทรงศักดิ์ ยืนยันว่า จะยังคงใช้อำนาจตามมาตรา 44 ในการตรวจค้นหาตัวพระธัมมชโย เนื่องจากกระบวนการยังคงต้องอาศัยอำนาจนี้อยู่ แต่ว่าการใช้อำนาจจะต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ไม่สามารถละเมิดสิทธิใครได้ โดยทางคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.) ได้ติดตามการทำงานของภาครัฐอยู่
ส่วนกรณีที่พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการ ฝ่ายสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย ออกมาเปิดเผยกับสื่อมวลชนช่วงบ่ายว่า มีศิษยานุศิษย์ถูกเจ้าหน้าที่รัฐทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัส พ.ต.อ. ทรงศักดิ์ ระบุว่า ยังไม่ได้รับรายงานในเรื่องนี้ และหากมีการกระทำผิดจริง สามารถดำเนินคดีตามกฎหมายกับเจ้าหน้าที่รัฐได้ และสามารถแจ้งกับกสม. ได้ตลอดเวลา ซึ่งก็ยืนยันแล้วว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่จะไม่ใช่ความรุนแรง ส่วนหมายเรียกพระภิกษุวัดพระธรรมกาย จำนวน 14 รูป และบุคคลที่ให้การสนับสนุน เกี่ยวข้อง จะพูดคุยถึงการดำเนินการทางกฎหมายอีกครั้งในวันพรุ่งนี้
ด้าน พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษกดีเอสไอ ระบุว่า ขณะนี้ทางตำรวจดำเนินคดีกับวัดพระธรรมกายจำนวน 313 คดี เป็นคดีเก่าก่อนการประกาศใช้อำนาจตามมาตรา 44 จำนวน 308 คดี และมีคดีที่เพิ่มขึ้นมาใหม่ 5 คดี ได้แก่ ความผิดตามพ.ร.บ. น้ำบาดาล, พ.ร.บ. รวบคุมนเำมันเชื้อเพลิง ที่มีการตรวจพบน้ำมันกว่าแสนลิตรภายในวัด, ความผิดฐานทำร้ายร่างกายเจ้าพรักงานหญิงของดีเอสไอ, การตรวจพบอาวุธปืน และสุดท้ายคือทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนของ สภ. สมุทรปราการ 3 คน
ด้านพระเทพรัตนสุธี เจ้าอาวาสวัดเขียนเขต ในฐานะเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่าเจ้าหน้าที่ไม่ให้พระไปสอบพระปริยัติธรรมวันนี้ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง อธิบดีได้อนุญาตให้พระสงฆ์เดินทางไปสอบได้โดยไม่มีเงื่อนไขใด ซึ่งวัดพระธรรมกายมีพระเณรที่ต้องสอบจำนวนทั้งสิ้น 542 รูปในวันนี้มีพระเณรที่ไปสอบจำนวน 210 รูปยืนยันไม่ได้มีการปิดกั้นการไปสอบแต่ประการใด
ส่วนการตรวจสอบใบสุทธิของวัดพระธรรมกาย อยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบ ซึ่งจากบัญชีกลางของคณะจังหวัดปทุมธานีพบมีพระของวัดพระธรรมกายจำนวนกว่า 1,000 รูป ส่วนกระแสข่าวว่าสามารถถอดสมศักดิ์ของพระธัมมชโยได้ หากพระธัมมชโยไม่มามอบตัว เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ระว่าเป็นเพียงแค่ข่าว
ด้านนายสมเกียรติ ธงศรี ผู้ตรวจราชการ พศ. เปิดเผยว่า เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ก็ได้โทรมาสอบถามและแสดงความห่วงใย ไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้ พยายามช่วยเหลือแก้ปัญหามาตลอด
ผสข.: สมจิตร์ พูลสุข