นายกฯย้ำโรงไฟฟ้ากระบี่ ต้องทำตามขั้นตอนสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ เตือนอย่ายุยงจนขัดแย้ง

หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึง การเดินหน้าสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ว่า ได้ดำเนินไปตามขั้นตอนโดยให้ไปศึกษาและทำการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และศึกษาผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ (EHIA)ใหม่ รวมทั้งเสนอในพระราชบัญญัติให้มีคณะกรรมการระดับสูง ด้านนโยบายยุทธศาสตร์ขึ้นมา พร้อมมีคณะกรรมการไตรภาคี 3 ฝ่าย โดยรัฐบาลมีหน้าที่จัดหาพลังงาน หากในอนาคตไม่มีไฟฟ้าใช้ สุดท้ายก็ต้องเป็นรัฐบาลต้องเป็นผู้รับผิดชอบ เนื่องจากมีโครงการมาตั้งแต่ปีพ.ศ.2550  ก่อนจะชะลอไป โดยรัฐบาลทำอย่างเต็มที่ที่จะรักษากฎหมาย และใช้มาตรา 44 ตามความจำเป็น ส่วนที่มีการชุมนุมเพื่อต่อต้านการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่นั้น ยังไม่อยากจะดำเนินคดีใดๆ ทั้งสิ้น เพียงแต่มีการส่งกลับและพูดจากันให้เข้าใจ พร้อมขอไม่ให้มีการยุยง จนเกิดความขัดแย้งขึ้น ส่วนที่ชาวบ้านเขื่อนท่าแซะ จ.ชุมพร จะยื่นหนังสือต่อรัฐบาล กรณีได้รับผลกระทบโครงการก่อสร้างเขื่อนท่าแซะ ได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย ติดตามเรื่องและทำการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ใหม่ให้ชัดเจน หากทำไม่ได้ก็ต้องหาแนวทางแก้ปัญน้ำท่วมกันต่อไป

ส่วนที่มีรถบรรทุกเข้าไปขนทองคำ ในเหมืองแร่ทองคำ จ.เลย ทั้งมีคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ยุติการทำเหมืองแล้ว ได้สั่งให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องดำเนินการ พร้อมตรวจสอบความถูกต้อง

ส่วนคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ ประเมินว่าจีดีพีปี 2560 จะขยายตัว ร้อยละ 3.0-4.0 ถือเป็นเรื่องที่ดีขณะนี้กำลังเดินหน้าแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในทุกระดับ ขอให้สร้างความมั่นใจ หากไม่มั่นใจก็ทำงานไม่ได้  โดยนายกรัฐมนตรีได้ยกตัวอย่างว่า เหมือนตนเองที่ทำงานทุกวันนี้ถ้าไม่มั่นใจก็ทำไม่ได้ ต้องมั่นใจว่าจะทำให้ได้ ทำให้สำเร็จ ต้องเตือนตัวเองเสมอว่ามีหน้าที่อันยิ่งใหญ่ เพื่อประชาชนและประเทศ  หากไม่คิดแบบนั้น การจัดก้าวไปสู่ thailand 4.0  คงก้าวไปไม่ได้และต้องเริ่มต้นใหม่

สำหรับการตรวจพบข้อมูลว่ามีบริษัทต่างชาติหลายบริษัทติดสินบนเจ้าหน้าที่รัฐ นายกรัฐมนตรีได้ถามกลับว่า ติดที่ไหน ติดที่ใคร อย่าพูดสร้างความเสียหายให้ประเทศ ซึ่งในวันนี้ ได้มีการตั้งกรรมการทางเทคนิคขึ้นมาเพื่อควบคุมการใช้จ่าย ลงทุนภาครัฐทั้งหมดแล้ว ส่วนการดำเนินการของรัฐบาล หลังมิร์เรอร์ สื่ออังกฤษ รายงานข่าวและยกเมืองพัทยา เป็นเมืองแห่งบาป เมืองหลวงแห่งเซ็กซ์โลก มีผู้หญิงขายบริการมากถึง27,000 คน นายกฯ ถามกลับสื่อมวลชนว่า เป็นสื่อเชื่อหรือไม่ ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้มีการจับกุมอยู่ตลอด ซึ่งจะให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ เพราะตนเองก็ไม่ส่งเสริมการค้าประเวณี และต้องปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมาย