เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช หารือนอกรอบเลขาฯพศ.เป็นห่วงสถานการณ์ธรรมกาย/ตั้งเป้าส่งออก 5%/ไข้หวัดนกกลานพันธุ์ในจีน

20 กุมภาพันธ์ 2560, 19:05น.


สรุปข่าว 19.35 น.



++++หลังการประชุมมหาเถระสมาคม นายพนม ศรศิลป์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) ว่า มส.ไม่ได้มีการหารือกรณีวัดพระธรรมกาย  แต่พระพรหมมุนี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม กรรมการ มส. ในฐานะเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ได้มีการหารือกับตนนอกรอบและมีบัญชา ให้ทาง พศ.ประสานกับทางสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม ในฐานะเจ้าคณะใหญ่หนกลาง พระราชวิสุทธิเวที เจ้าคณะภาค 1 และพระเทพรัตนสุธี เจ้าคณะ จ.ปทุมธานี นัดหารือกันเพื่อหาทางแก้ปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นอยู่กับทางวัดพระธรรมกายในขณะนี้ ส่วนสถานที่ และเวลาในการนัดหารือนั้น ยังไม่ขอเปิดเผยโดยตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ขึ้นมา ทางพศ. ได้ส่งทีมงานนำโดย น.ส.ประนอม คงพิกุล รอง ผอ.พศ. นายสมเกียรติ ธงศรี ผู้ตรวจราชการ พศ. และนายบุญเชิด กิตติธรางกูล ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม คอยทำหน้าที่ประสานงานกับดีเอสไอมาโดยตลอด



++++ด้าน ว่าที่ร้อยตรีจุลสัน ทันอินทร์อาจ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดปทุมธานี (พศจ.ปทุมธานี) กล่าวว่า ในวันที่ 21-23 ก.พ. 60 ทางคณะสงฆ์จังหวัดปทุมธานี ได้มีการจัดสอบบาลีสนามหลวงประจำปี 2560 ซึ่งคณะสงฆ์วัดพระธรรมกายมีพระภิกษุสามเณรเข้าสอบ 564 รูป ทางพระเทพรัตนสุธี เจ้าอาวาสวัดเขียนเขต เจ้าคณะจ.ปทุมธานี พร้อม พศ.ได้ทำหนังสือพร้อมรายชื่อพระภิกษุสามเณรที่จะต้องสอบบาลีสนามหลวงต่อดีเอสไอแล้ว และทางดีเอสไอพร้อมที่จะให้ความร่วมมืออำนวยความสะดวก



+++ส่วนกรณี ดีเอสไอ ได้มีหนังสือเรียกพระสงฆ์ของวัดพระธรรมกายจำนวน 14 รูปมารายงานตัวนั้น ดีเอสไอ ได้หารือกับเจ้าคณะ จ.ปทุมธานีแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องของทางเจ้าคณะ จ.ปทุมธานีว่า จะมีการประสานงานกับพระทั้ง 14 รูปอย่างไร โดย พศ.ไม่มีอำนาจเข้าไปดำเนินการในเรื่องดังกล่าว  จากการตรวจสอบข้อมูลล่าสุดพบว่า วัดพระธรรมกายมีพระภิกษุสามเณร จำนวน 1,200 รูป มีพระต่างชาติ จากสหภาพเมียนมา จำนวน 3 รูป ซึ่งมาแปลพระไตรปิฎกอยู่ในวัดพระธรรมกาย โดยทางดีเอสไอก็ได้มีการตรวจสอบไปแล้ว



+++ปรองดอง นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในวันที่ 21 ก.พ.นี้ ทางแกนนำพรรคเพื่อไทยจะได้นัดประชุม เพื่อหารือถึงแนวทางตัวบุคคล รวมทั้งกำหนดวันที่จะเดินทางไปร่วมหารือกับคณะอนุกรรมการรับฟังความเห็นเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดองต่อไป ซึ่งการประชุมครั้งนี้จะมีความชัดเจนในทุกเรื่อง และจะแถลงให้ทราบอย่างเป็นทางการอีกครั้ง  ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยจะไปร่วมพูดคุยกับทางคณะอนุกรรมการฯ อย่างแน่นอน เพราะเราไม่ต้องการเป็นอุปสรรคของการสร้างความสามัคคีปรองดอง ซึ่งกรอบการหารือที่ทางคณะอนุกรรมการฯ ส่งมารวม 10 หัวข้อนั้น ทางพรรคเพื่อไทยจะเสนอหลักการ และแนวทางสร้างความปรองดองเพิ่มเติม จากที่คณะอนุกรรมการฯ ส่งมาด้วย เพื่อให้เกิดความครอบคลุมและชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยเบื้องต้นจะมี พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคและตน เข้าร่วมหารืออย่างแน่นอน



++++การตรวจสอบจริยธรรมของ7 สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสนช. คนที่ 2 เปิดเผยว่า นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช.ได้มอบหมายให้ทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการจริยธรรม เพื่อตรวจสอบกรณีที่มีผู้ร้องขอให้ตรวจสอบการขาดประชุมสนช.ของสมาชิกสนช.จำนวน 7 คน ซึ่งคณะกรรมการจะเริ่มตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการทำหนังสือลาการประชุมของสมาชิกสนช.ทั้ง 7 คนรวมไปถึงความถูกต้องของคำร้องนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย คาดว่า ขั้นตอนนี้น่าจะเสร็จสิ้นภายในวันที่ 24 ก.พ. เพราะข้อมูลทุกอย่างมีหลักฐานอยู่แล้ว  สำหรับขั้นตอนการทำงานของคณะกรรมการจะมี 2 ขั้นตอน ได้แก่ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา จะตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นมีระยะเวลา 30 วัน และ การตรวจสอบจริยธรรมมีระยะเวลา 60 วัน โดยจะต้องเชิญทุกฝ่ายทั้งผู้ร้องและผู้ถูกร้อง มาให้ข้อมูลและชี้แจงต่อคณะกรรมการ ส่วนตัวคิดว่าประเด็นนี้เป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจและต้องการข้อเท็จจริง จึงคิดว่าควรต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นเร็วที่สุด ทั้งนี้ หากสุดท้ายผลการตรวจสอบระบุว่าสมาชิกสนช.ทั้ง 7 คนขาดการประชุมสนช.เกินกว่าที่รัฐธรรมนูญกำหนดจะมีผลให้ขาดสมาชิกภาพการเป็นสนช.ทันที และถ้ามีความผิดทางจริยธรรม จะต้องส่งเรื่องให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน ดำเนินการตรวจสอบต่อไป



++++นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ตั้งเป้าหมายการส่งออกปีนี้ให้ได้ร้อยละ 5 จากเดิมที่กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าไว้เพียงร้อยละ 2.5-3.5 เท่านั้น โดยให้ถือว่าเป็นความท้าทายของไทย เพราะนอกจาก มั่นใจว่า เศรษฐกิจจะขยายตัวได้ดีกว่าปีที่แล้ว ยังมองว่ากลุ่มตลาดเกิดใหม่ต้องการสินค้าจำนวนมาก ขณะที่ตลาดเดิมก็ต้องรักษาไว้ โดยต้องการให้กระทรวงพาณิชย์เน้นการทำข้อตกลงทางการค้า (เอฟทีเอ) และเจรจาหาหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเพิ่มเติม กับประเทศที่มีศักยภาพทั้งอาเซียน โดยเฉพาะซีแอลเอ็มวี และสหภาพยุโรป (อียู) โดยเฉพาะ ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี อังกฤษและหนุนให้นักธุรกิจไทยออกไปลงทุนต่างประเทศให้มากขึ้น รวมทั้งเน้นการค้าชายแดนที่จะต้องเปิดด่านต่าง ๆ ให้มากขึ้น เพื่อหนุนให้เกิดการค้าร่วมกันมากขึ้นการส่งออกไทยมีสัดส่วนถึงร้อยละ 60-70 ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี)  มีผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจ หากผลักดันได้ดี ก็จะทำให้เศรษฐกิจยิ่งฟื้นตัวเร็ว ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของคนในประเทศดีขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน และจากนี้ไปจะไม่ดูเฉพาะตัวเลขการส่งออกเพียงอย่างเดียว แต่จะดูการลงทุนและสินค้าบริการควบคู่ไปด้วย เหมือนประเทศที่พัฒนาแล้ว



++++นายพฤทธิพงศ์ ศรีมาจันทร์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายช่วยงานบริหาร ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ให้ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อดำเนินคดีกับ บริษัท เพย์ออล กรุ๊ป จำกัด และบุคคลที่เกี่ยวข้อง ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากบริษัทดังกล่าวให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์(อีมันนี่) ในการใช้ชำระค่าสินค้าและบริการโดยไม่ได้รับอนุญาตจากทาง โดยผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาตมีโทษสูงสุด คือจำคุก 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ สำหรับ บริษัท เพย์ออล ตามรายละเอียดที่แจ้งบนเว็บไซต์ มีสำนักงานอยู่ที่อาคาร ซีเอส ทาวน์เวอร์ รัชดาภิเษก มีนายสมคิด ลวางกูร เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ ฟิล์ม รัฐภูมิ เป็นกรรมการผู้จัดการ ให้บริการแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือภายใต้ชื่อ “PayAll” โดยให้ผู้ใช้บริการสมัครเป็นสมาชิกในแอพพลิเคชั่น และเติมเงินล่วงหน้าเข้ากระเป๋าอีมันนี่ ซึ่งสามารนำไปใช้ในการชำระค่าสินค้าหรือบริการจากร้านค้าต่าง ๆ ได้ ซึ่งก่อนหน้านี้เพย์ออล ตั้งเป้าหมายว่าจะมีผู้ใช้บริการแอพพลิเคชั่นมากถึง 1 ล้านคน



+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดช่วงบ่ายที่ระดับ 1,578.47 จุด เพิ่มขึ้น 0.63 จุด มูลค่าการซื้อขาย 38,810.40 ล้านบาท



+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวกในวันนี้ เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินเยนช่วยหนุนตลาดดีดตัวขึ้น หลังจากที่ร่วงลงในช่วงเช้าปิดบวก 16.46 จุด ที่ 19,251.08 จุด



+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดบวกเมื่อวันศุกร์ โดยดาวโจนส์ทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดติดต่อกันเป็นวันที่ 7 ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งเพิ่มขึ้น 112.34 จุด หรือ 0.47% ปิดวันนี้ที่ 24,146.08 จุด



++++เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียเผยว่า ชายเกาหลีเหนือ 3 ใน 4 คนที่ต้องสงสัยลอบสังหารนายคิม จองนัม พี่ชายต่างมารดาของผู้นำเกาหลีเหนือเดินทางจากอินโดนีเซียไปดูไบแล้วตั้งแต่ค่ำวันเกิดเหตุ  โฆษกสำนักงานตรวจคนเมืองอินโดนีเซียแจ้งสำนักข่าวรอยเตอร์ผ่านข้อความสั้นทางโทรศัพท์เคลื่อนที่โดยระบุชื่อผู้ต้องสงสัย 3 คนว่า ขึ้นเครื่องบินสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบิน EK0359 จากกรุงจาการ์ตาไปดูไบแล้วตั้งแต่เวลา 22.20 น.วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ เป็นวันที่นายคิม จองนัมถูกสังหารที่ท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย ส่วนรายละเอียดของผู้ต้องสงสัยรายที่ 4 ยังไม่ชัดเจนหนังสือพิมพ์เดอะสตาร์ของมาเลเซียรายงานว่า ชายทั้งสี่คนเดินทางกลับกรุงเปียงยางด้วยการเดินทางผ่านกรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซีย นครดูไบของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเมืองวลาดิวอสต็อกของรัสเซีย



+++ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคมณฑลกวางตุ้งประกาศว่า พบการกลายพันธุ์ของไข้หวัดนกสายพันธุ์ H7N9 ในคนไข้ 2 ราย เมื่อเดือนมกราคมซึ่งผู้ติดเชื้อทั้งสองมีประวัติสัมผัสกับสัตว์ปีก หนึ่งในนั้นได้รับการรักษาหายแล้ว ขณะที่อีกรายยังคงพักรักษาตัวอยู่ ขณะที่ผู้คน 105 คนที่อยู่ใกล้กับพวกเขา ไม่มีสัญญาณของการติดเชื้อแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ทางจีนได้รายงานให้องค์การอนามัยโลกทราบเรื่องนี้แล้ว

ข่าวทั้งหมด

X