นายกฯเตือนให้ระวังการปะทะกันกรณีธรรมกาย โฆษกรัฐบาลย้ำต้องบังคับใช้กฎหมายได้ทุกพื้นที่ ก่อนกลายเป็นลัทธิตัวอย่าง

การตรึงกำลังและเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกายของเจ้าหน้าที่ พลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีติดตามการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานได้อย่างชัดเจนและระมัดระวัง ทั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และตำรวจ ส่วนทหารได้เข้าไปสนับสนุน เฉพาะพื้นที่รอบนอกแล้ว เกี่ยวกับการระบายคนออก การจัดการจราจรโดยรอบที่ติดขัด  สิ่งสำคัญขณะนี้ คือ การบังคับใช้กฎหมายได้ในทุกพื้นที่ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นจุดที่เรียกว่าลัทธิตัวอย่าง ที่กฎหมายไม่สามารถเข้าไปดำเนินการได้ จะยอมให้เป็นอย่างนั้นไม่ได้

โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินเชิงยุทธศาสตร์ ถึงสถานการณ์ที่วัดพระธรรมกายว่าเกิดจากประเด็นอะไร  หลายคนก็เข้าใจ และ อยากให้บังคับใช้กฎหมายให้เสร็จโดยเร็ว พร้อมขอให้ประชาชนอย่าเป็นห่วงเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีกำชับเจ้าหน้าที่ ให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความยืดหยุ่นหรือระมัดระวังไม่ให้เกิดการปะทะ รวมถึงประชาชนจะต้องเข้าใจด้วยว่าเกิดอะไรขึ้นที่วัดพระธรรมกาย  เจ้าหน้าที่เข้าไปกลั่นแกล้งหรือเจ้าหน้าที่พยายามทำตามกฎหมายกันแน่  พร้อมขอความร่วมมือสื่อมวลชนที่ถือเป็นต้นทางของข่าวสาร ช่วยทำให้สังคมเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น และอย่าตกเป็นแนวร่วมมุมกลับของผู้ที่ทำผิดกฎหมายจนเข้าทางคนกลุ่มนี้ 

พลโทสรรเสริญกล่าวว่า ไม่ได้ตัดสินว่าพระธัมมชโยถูกหรือผิด แต่ขอแค่เข้าร่วมกระบวนการยุติธรรมเท่านั้น ส่วนกรณีที่ทางวัดพระธรรมกายเรียกพระและลูกศิษย์วัดทั่วประเทศกว่า500,000คน ให้เดินทางมาที่วัดพระธรรมกายนั้น  พลโทสรรเสริญ กล่าวว่า ขณะนี้สังคมเข้าใจหรือไม่ว่าที่เชิญชวนมาเพื่ออะไร เห็นได้ชัดเจนว่ามันไม่เกี่ยวกับพุทธศาสนา แต่ใครจะมาสวดมนต์หรือทำอะไรก็ได้ เจ้าหน้าที่ก็ทำหน้าที่ ขอให้พิจารณาดูเองว่าควรเข้ามาหรือไม่ ซึ่ง ทั้งหมดนี้ไม่ต้องการให้เกิดการเผชิญหน้าด้วยการใช้กำลัง   โดยไม่ขอตอบว่าพระธัมมชโยยังอยู่ในพื้นที่หรือไม่ เพราะตนไม่ได้ลงพื้นที่ แต่เชื่อว่าตำรวจและดีเอสไอมีข้อมูลอยู่แล้ว เชื่อว่าไม่เกินขีดความสามารถของเจ้าหน้าที่