อธิบดีDSIย้ำปิดล้อมวัดพระธรรมกายต่อ ตามคำสั่งม.44 แจ้งจับพระทำร้ายจนท.บาดเจ็บ

หลังการประชุมร่วมกันระหว่างกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทหาร สำนักพระพุทธศาสนา  และฝ่ายปกครอง พ.ต.อ. ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยว่า วันนี้ได้ประเมินสถานการณ์ การปฏิบัติงานวันที่ 5 ซึ่งเมื่อเช้าเจ้าหน้าที่ถูกพระทำร้ายร่างกาย 3 คน ขณะนี้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ข้อหาทำร้ายร่างกายแล้ว ส่วนที่ศิษยานุศิษย์และพระที่ล้มเมื่อช่วงเช้าเพราะเข้ามาผลักดันเจ้าหน้าที่ ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย อยากให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ทำตามกฎหมาย แต่ทางวัดกลับมาทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า เจ้าหน้าที่เข้าไปจับพระสึกนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เมื่อวานนี้ดีเอสไอ และสำนักพระพุทธศาสนา และเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เข้าไปตรวจสอบพระที่อยู่ในวัดพระธรรมกายเพื่อตรวจสอบใบสุทธิเท่านั้น ส่วนพระที่จะออกไปสอบพระปริยัติธรรม ยินดีอำนวยความสะดวกในการเข้าออกวัด เช่นเดียวกับกระแสข่าวที่เจ้าหน้าที่จะไปยึดวัด ยึดอาคาร พ.ต.อ. ไพสิฐ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง   สำหรับในวันนี้เจ้าหน้าที่ยังต้องปิดล้อมพื้นที่ เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ควบคุมตามมาตรา44 ซึ่งผู้ใดฝ่าฝืนก็จะมีความผิด ตามกฎหมาย ถึงแม้วันนี้จะไม่ได้ดำเนินการจับกุม แต่ก็ได้เก็บหลักฐานไว้แล้ว

ส่วนการที่ศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายนำรถมาจอดขวางการจราจร ส่งผลให้การจราจรติดขัดมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจมีความจำเป็นต้องยกรถเพื่อเคลียร์เส้นทาง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนส่วนประตูต่างๆ เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องปิดเป็นพื้นที่ควบคุม

สำหรับกระแสข่าวการตัดน้ำตัดไฟ ยืนยันยังไม่มีการตัดน้ำตัดไฟ การดำเนินการการยังยึดการปฏิบัติจากเบาไปหาหนัก แต่ถ้าหากทางวัดยังทำความรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ ก็อาจมีการอพิจารณาต่อไป ส่วนหากมีการปลุกระดมคนขึ้นมาอีก ก็จะมีการดำเนินการตามกฎหมาย

พ.ต.อ. ไพสิฐ ระบุถึงกรณีที่มีการออกหมายเรียกพระพระ 14รูป ขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อมารายงานตัว โดยจะทำหนังสือส่งไปอีกครั้งและรอให้มารายงานตัว ซึ่งบ่ายวันนี้สำนักพระพุทธศาสนา และเจ้าคณะตังหวัดปทุมธานี จะเดินทางเข้าไปตรวจสอบในสุทธิของพระภายในวัดพระธรรมกาย เพื่อคัดกรองพระที่ไม่ใช้วัดของวัดพระธรรมกายออกจากพื้นที่ ทั้งนี้ช่วงเย็นวันนี้จะมีการแถลงผลการดำเนินงานอีกครั้งหนึ่ง