ค้นวันที่ 3 ดีเอสไอ ค้นอาคารดาวดึงส์ ด้านพระธรรมกาย ปัดข่าวตุนน้ำมันแสนลิตร

การเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกายวันที่ 3 ในวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะมีการตรวจค้นบริเวณรอบนอกวัดพระธรรมกาย ซึ่งในช่วงเช้ามีการส่งเสบียงอาหารเข้าไปในวัดพระธรรมกาย เพื่อมอบให้พระและศิษยานุศิษย์ที่อยู่ภายในวัด ซึ่งกลุ่มคนจำนวนนี้จะไม่ออกมาจากวัดพระธรรมกาย หากออกมาแล้วจะกลับเข้าไปใหม่ไม่ได้ พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ใช้อำนาจมาตรา 44 กั้นพื้นที่ ทำให้พระและญาติโยมที่อยู่ในวัดออกมาไม่ได้ จึงจำเป็นต้องส่งอาหารเข้าไป เนื่องจากในวัดมีพระและญาติโยมหลายพันคน อาจจะเป็นภาพที่ไม่เรียบร้อยเท่าไหร่นัก จึงอยากขอให้เจ้าหน้าที่อนุญาตให้มีการลำเลียงข้าวสาร ภัตตาหารต่างๆ ขอให้ คสช. ยกเลิกการใช้มาตรา 44 เพราะวัดจะได้อำนวยความสะดวกให้กับญาติโยมในการประกอบศาสนกิจต่อไป ซึ่งในวันนี้ก็มีเณรจำนวนมาก ต้องเดินทางไปสอบโอเน็ต

ส่วนข่าวที่มีการระบุว่าพบถังน้ำมันขนาดใหญ่หลายถัง ที่บรรจุน้ำมันรวมกว่าแสนลิตร พระสนิทวงศ์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว ขอกลับไปตรวจสอบข้อมูล ส่วนตัวคิดว่าน่าจะเป็นน้ำมันที่ใช้เติมรถของวัดและญาติโยม และยืนยันว่าไม่พบพระธัมมชโยมาประมาณ 8-9 เดือนแล้ว

หลังจากที่ดีเอสไอได้เข้าพื้นที่ตรวจสอบเมื่อวานนี้ ในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ประสานมาว่าจะตรวจสอบพื้นที่รอบนอกวัดเป็นหลัก และจะมีบางส่วนเข้าไปตรวจภายในอาคารดาวดึงส์อีกครั้ง ในเวลาประมาณ 10.30 น. โดยจะนำผู้เชี่ยวชาญไปตรวจสอบเครื่องออกซิเจนสำหรับผู้ป่วยที่ระบบไหลเวียนเลือดไม่ปกติ มีไว้สำหรับรักษาพระและขอยืนยันว่าเครื่องดังกล่าว ไม่ใช่เครื่องเบบี้เฟซ ทำให้หน้าใสอย่างที่หลายคนเข้าใจ ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายสงสัยว่าภายในวัดมีอุโมงค์ลับ ก็ขอยืนยันอีกครั้งว่าเป็นแค่ที่เก็บปั๊มน้ำ

สำหรับบรรยากาศการเข้าตรวจค้นในวันนี้ก็ผ่อนคลายกว่าทุกวัน เป็นไปด้วยความปรองดอง ต้องขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ที่ปฏิบัติกับพระและญาติโยมด้วยความอ่อนโยน สุภาพ นุ่มนวล แต่ยังคงไว้ในความเข้มงวด มีการตรวจสอบภายในวัดอย่างละเอียดมาก ตัวเองอยู่วัดนี้มา 20 ปี ยังเดินไม่ทั่วเท่ากับ 2 วันมานี้เลย และขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ในเรื่องของความสะอาดด้วย

พระสนิทวงศ์ ระบุว่า ทางวัดได้นำหลักสันติมาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ และการพูดคุยก็เป็นไปอย่างชัดเจน ปฏิบัติเป็นขั้นเป็นตอน และต้องขอขอบคุณคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนที่ระบุว่ามีการมอนิเตอร์ เฝ้าระวังเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากทางคณะกรรมการสิทธิฯ กังวลในเรื่องการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของเจ้าหน้าที่ ซึ่งทางวัดได้ยืนยันกับทางคณะกรรมการสิทธิฯ ไปแล้วว่า เจ้าหน้าที่ทำงานด้วยความสุภาพ

ผู้สื่อข่าว:สมจิตร์ พูลสุข