ชุุลมุนอีกรอบ! รวบแกนนำต้านโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ไป มทบ.11

การชุมนุมของกลุ่มเครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน และผู้ชุมนุมคัดค้านโครงการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ จ.กระบี่ ที่ปักหลักค้างคืนอยู่ที่บริเวณทำเนียบรัฐบาล ล่าสุด ก่อน 10.00 น. ได้เกิดเหตุชุลมุนเกิดขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปควบคุมตัวแกนนำของกลุ่มขึ้นรถตู้ ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมไม่พอใจตะโกนต่อว่า จนทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเข้าไประงับเหตุการณ์ให้อยู่ในความสงบ เจ้าหน้าที่ระบุว่าอย่าล๊อคคอผู้ชุมนุมให้ควบคุมตัวดี ๆ มีรายงานระบุว่า ควบคุมตัวไปที่มทบ.11

ขณะนี้ สถานการณ์อยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่ได้แล้ว บรรยากาศการชุมนุม บางส่วนปักหลักอยู่กลางสะพานชมัยมรุเชษฐ์ และบางส่วนอยู่ภายในสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(กพ.)  เนื่องจากไม่พอใจผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ  (กพช.) ที่มีมติเดินหน้าก่อสร้างโรงไฟฟ้า และยืนยันจะปักหลักจนกว่าจะยุติโครงการ

เย็นเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ขอให้ศาลแพ่งมีคำสั่งให้กลุ่มเครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน และผู้ชุมนุมคัดค้านโครงการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ จ.กระบี่ ให้เลิกการชุมนุม ทั้งนี้ศาลแพ่งได้รับคำร้องไว้พิจารณาและนัดไต่สวนพยานทั้งสองฝ่าย ในวันที่ 20 ก.พ. เวลา 09.00 น. และให้แจ้งหมายพร้อมสำเนาคำร้องให้กับผู้จัดการชุมนุมทราบ โดยการปิดหมายให้มีผลทันที

จากนั้นเมื่อเวลา  18.10 น. เจ้าหน้าที่ศาลแพ่ง นำหมายศาลมาติดบริเวณประตู 3 ทำเนียบรัฐบาล มีข้อความระบุว่า ศาลแพ่งวันที่ 17 ก.พ. 2560 ความแพ่งระหว่างพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลดุสิต คือ ร.ต.อ.ภาคิน นันบุญ และน.ส.จิดารัตน์ เพิ่มลาภวิรุฬห์ ผู้จัดการชุมนุม ศาลจึงได้นัดไต่สวนคำร้องในวันและเวลาดังกล่าว  ไต่สวนคำร้องขอยกเลิกการชุมนุมตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะฯ เพื่อให้เกิดความชัดเจนเกี่ยวกับพฤติการณ์การชุมนุมจึงนัดมาเพื่อสอบถาม เพราะฉะนั้นให้ไปตามที่ศาลกำหนด และการชุมนุมเป็นการขัดคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)

ส่วนสภาพการจราจร เจ้าหน้าที่ปิดการจราจร ถ.พิษณุโลก หน้าทำเนียบรัฐบาล ถ้าเดินทางมาจากสนามม้านางเลิ้ง เจ้าหน้าที่จะบังคับให้เลี้ยวขวา เข้า ถ.พระราม5 ออกไปทาง ถ.ศรีอยุธยา แทน

10.15 พ.ต.ท.วิโรจน์ สาขากร สว.จร.สน.นางเลิ้ง เพิ่มเติมว่า ยังปิดการจราจร ถ.พิษณุโลก หน้าทำเนียบรัฐบาล อยู่ แนะนำใช้ ถ.หลานหลวง ถ้าจะข้ามสะพานไปฝั่งธนให้เลี้ยวขวา สะพานพระราม 8 หรือว่าใช้ สะพานพระปิ่นเกล้า 

ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี