อภิสิทธิ์ ชี้ ควรนิรโทษกรรมให้ปชช.ที่มาร่วมชุมนุม ชี้นายกฯตัดสินใจผิด สร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน

17 กุมภาพันธ์ 2560, 14:48น.


ภายหลังการประชุมปรองดองสมานฉันท์ระหว่างอนุกรรมการของรัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์กว่า3ชั่วโมงครึ่ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า วันนี้มาตอบคำถามทั้ง10ประเด็น โดยให้แนวทางการสร้างความปรองดองที่ยั่งยืน หรือ การสร้างสังคมประชาธิปไตยอย่างยั่งยืน เพราะความขัดแย้งมาจากความบกพร่องในการใช้ระบอบประชาธิปไตยในอดีตเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไข หากยึดหลักประชาธิปไตยจริงๆคือการเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน การเปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วม ขณะเดียวกันต้องเข้าใจว่าระบอบประชาธิปไตยต้องควบคู่ไปกับนิติธรรม รวมถึงการจำกัดการใช้อำนาจที่มีขอบเขตของคนที่มาจากการเลือกตั้ง แล้วทุกอย่างจะเดินไปได้ ทั้งหมดนี้จะนำไปสู่การปฏิรูปว่าควรจะเน้นในเรื่องไหนก่อน เช่น การคอรัปชั่น, การทำงานของหน่วยงานยุติธรรม, องค์กรอิสระ



นายอภิสิทธิ์ยังเสนอด้วยว่า การทำงานทางการเมืองจะต้องนำหลักความพอเพียงมาใช้ด้วย คือ ไม่ว่าจะเป็นผู้มีอำนาจ ผู้แพ้หรือผู้ชนะทางการเมือง จะต้องไม่ใช้อำนาจแบบสุดโต่ง รู้ขอบเขตและมีเหตุมีผล อยู่บนข้อเท็จจริง รวมถึงต้องช่วยกันสร้างภูมิคุ้มกัน ต่อความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับการเมืองในอนาคตด้วย  ซึ่งความวุ่นวายที่เกิดขึ้น หากไปตีโจทย์ว่าเกิดจากการเลือกตั้งหรือเกิดจากการมีระบอบประชาธิปไตยนั้นเป็นสิ่งที่เข้าใจผิด เพราะความขัดแย้งเกิดจากการใช้อำนาจเกินขอบเขต ละเมิดกฎหมาย และสิทธิของคนอื่น จนเกิดความไม่เป็นธรรม ความเดือดร้อนและความไม่พอใจ นำไปสู่การเผชิญหน้า



นายอภิสิทธิ์ ยืนยันว่า การดำเนินคดีกับแกนนำหรือบุคคลที่สร้างความเสียหายต่อประเทศอย่างมาก ต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมในชั้นศาล  ยกเว้นคดีที่ประชาชนมาชุมนุมกัน แล้วทำความผิดเล็กน้อย เห็นว่าควรจะนิรโทษกรรม  เพราะทำได้ยากถ้าจะค้นหาความจริง หากผลออกมาไม่ถูกใจใคร คนนั้นก็ไม่ยอมรับกันอีก  ส่วนในเรื่องของข้อตกลงร่วมกันในวันนี้ ยังไม่ได้มีการระบุชัดเจนว่า ปลายทางจะเป็นอย่างไร เพียงแต่บอกว่าขั้นตอนหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร ซึ่งก็ได้เตือนไปว่าอย่าไปผูกติดกับการมีข้อตกลง หรือสัตยาบันเพราะสุดท้ายแล้วจะไม่ใช่คำตอบ ลงนามกันไปแล้ว ถ้าไม่ปฏิบัติตามก็ไม่มีประโยชน์ แต่ถ้าไม่ลงนามแล้วทุกคนเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันได้ นั่นคือความสำเร็จของการปรองดอง  ดังนั้นจะให้ความปรองดองเกิดขึ้นได้จากเฉพาะคนที่มาพูดคุยมองว่าไม่มีประโยชน์



ส่วนมติที่จะก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่จังหวัดกระบี่ นายอภิสิทธิ์ มองว่า เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด ไม่สอดคล้องกับทิศทางอนาคตของพลังงาน  สุ่มเสี่ยงต่อความเสียหายของพื้นที่การท่องเที่ยว ทรัพยากรธรรมชาติ ที่ถือว่าเป็นทุนที่มีค่า รวมถึงกังวลว่าความขัดแย้งจะไม่ยุติ ส่วนกรณีที่มีประชาชนออกมาชุมนุมต่อต้านนั้น  ทุกคนต้องเคารพกฎหมาย แต่ก็รู้สึกเสียดายที่รัฐบาลไม่ไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน เพราะยังมีทางเลือกอื่นอีก

ข่าวทั้งหมด

X