ตร.ค้นธรรมกายวันที่ 2 เริ่ม 8.00น. หลังวันแรกไร้เงา ธัมมชโย /คุยปรองดองถึงเวลา ประชาธิปัตย์/ทำโพลชี้ เลิกไม่เลิกBRT

ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30น.

+++ลุยกันอีกรอบ 8.00 น.เช้าวันนี้  พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 จะนำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกาย ต.คลองหลวง จ.ปทุมธานี อีกครั้งตั้งแต่เวลา 08.00 น. หลังจากการตรวจค้นเมื่อวันที่ 16 ก.พ. ไม่พบพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย

+++เจ้าหน้าที่ได้เปิดปฏิบัติการบุกจับกุม พระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา คดีพิเศษเลขที่ 27/2559 ในข้อหาสบคบและร่วมกันฟอกเงินและร่วมกันรับของโจร ตั้งแต่ช่วงกลางคืนวันที่ 15 กุมภาพันธ์ โดยเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ตำรวจ และทหาร ได้สนธิกำลังกันตั้งจุดตรวจรอบๆ วัดพระธรรมกาย ตั้งแต่เวลา 21.30 น. ต่อมา เวลา 22.00 น. ลูกศิษย์วัดพระธรรมกายทยอยเดินทางมายังวัดพระธรรมกาย กระทั่งเวลา 23.00 น. ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนจากทั้ง บช.น. บช.ภ.1 บช.ภ.7 และอื่นๆ ได้ระดมกำลังทยอยเดินทางออกจากที่ตั้งไปยังจุดนัดหมายรวมกำลัง และได้ตั้งจุดตรวจ จุดสกัดตามเส้นทางไปยังวัดพระธรรมกาย

++++ ต่อมา เวลา 01.00 น. วันที่ 16 กุมภาพันธ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้อาศัยอำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 ออกคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 5/2560 เรื่อง มาตรการให้อำนาจกำหนดพื้นที่ควบคุมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย โดยกำหนดให้วัดพระธรรมกาย ตลอดจนพื้นที่โดยรอบวัดพระธรรมกายใน อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี รวมถึงพื้นที่หมู่ 7,8,9,10,11,12 และหมู่ 13 ใน ต.คลองสอง และพื้นที่หมู่ 7,8,9,10 และหมู่ 11 ใน ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เป็นพื้นที่ควบคุม หากผู้ใดขัดขวางหรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามคำสั่งนี้ ให้ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

++++ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการใช้มาตรา 44 ประกาศควบคุมพื้นที่ ว่า เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นในพื้นที่ได้ ซึ่งไม่ต้องการทำให้เกิดการบาดเจ็บล้มตาย ขอให้เชื่อมั่น เพราะเจ้าหน้าที่จะต้องเข้าได้ในทุกพื้นที่ที่ศาลอนุญาต เมื่อมีหมายค้นก็ต้องดำเนินการ ทั้งนี้ นโยบายของ นายกรัฐมนตรี คือไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสีย แต่ต้องทำกฎหมายให้เป็นกฎหมาย ดังนั้นต้องค่อยๆ ทำ และต้องไม่เกิดความสูญเสีย

+++นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรณธนะ รมว.กระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า การใช้คำสั่งดังกล่าวไม่ได้กำหนดระยะเวลาปฏิบัติไว้ เปิดกว้างไว้ให้พิจารณาตามความเหมาะสม และหัวหน้า คสช.มีอำนาจยกเลิกคำสั่งดังกล่าวได้ วัตถุประสงค์ใหญ่ของการดำเนินการครั้งนี้เป็นการดำเนินการตามหมายค้น ที่ศาลอาญาอนุมัติให้สำเร็จ ยังยึดไว้ว่าพระธัมมชโยยังอยู่ในวัด ส่วนการขอหมายค้นมีเวลาเป็นสัปดาห์ ขั้นตอนหลังจากนี้ ไม่ว่าจะเป็นการตัดน้ำ ตัดไฟ ทุกอย่างเป็นดุลยพินิจของอธิบดีดีเอสไอ   ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังยุติปฎิบัติการตรวจค้นวัดพระธรรมกายแล้ว เจ้าหน้าที่ยังวางกำลังประจำจุดเข้าออกรอบวัดพระธรรมกายอย่างต่อเนื่อง เพื่อสกัดบุคคลเข้าไปในพื้นที่ควบคุมพิเศษดังกล่าว รวมถึงดูแลความปลอดภัยตลอดช่วงกลางคืน ก่อนจะเริ่มปฎิบัติการตรวจค้นอีกครั้ง

+++การเจรจาปรองดอง ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นำลูกพรรคเข้าพูดคุยแนวทางสร้างความปรองดองที่กระทรวงกลาโหม นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังร่างคำสั่งแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิของคณะกรรมการ ป.ย.ป. คาดว่าจะส่งให้นายกรัฐมนตรีลงนามได้ใน 1-2 วันนี้ สำหรับรายชื่อประมาณ 39 คน แบ่งออกเป็น 4 คณะ       คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ อาทิ นายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานบริหารธนาคารกสิกรไทย คณะกรรมการปฏิรูป อาทิ นายเทียนฉาย กีระนันทน์ อดีตประธาน สปช. นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ      ด้านคณะกรรมการสร้างความสามัคคีปรองดอง อาทิ พล.อ.เอกชัย ศรีวิลาศ ผู้อำนวยการและบุคลากรของสำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า และคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดิน อาทิ นาย ชาติสิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะได้พบปะกับผู้ทรงคุณวุฒิและประชุม ป.ย.ป.ชุดใหญ่ช่วงต้นเดือน มี.ค.  ส่วน นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา กล่าวว่า พรรคได้เสนอแนวคิดเพื่อความปรองดอง อาทิ ต้องสร้างความปรองดองก่อนการ เลือกตั้ง ภายใต้หลักการของความยุติธรรมระยะเปลี่ยนผ่าน

+++พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) เตรียมยกเลิกโครงการรถโดยสารประจำทางด่วนพิเศษ หรือ บีอาร์ที ว่ายังไม่ยกเลิก แต่ที่ปรากฏเป็นข่าวว่าจะยกเลิก เพราะรายได้เขาไม่เพียงพอ และขาดทุน

+++พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่ายังไม่เห็นคำสัมภาษณ์ พล.อ.ประวิตร แต่ กทม.ต้องช่วยแก้ปัญหาการจราจรโดยรวม ซึ่งผู้โดยสารรถบีอาร์ทีอยู่ที่ ประมาณ 2 หมื่นคนต่อวัน แต่การจราจรบนเส้นทางเดินรถบีอาร์ที ติดขัดอย่างมาก และมีปริมาณของผู้ใช้รถใช้ถนนมีจำนวนมากกว่าผู้โดยสารบีอาร์ที ทำให้กทม.ต้องดู ปัญหาจราจรของคนในภาพรวม  ก็ได้สรุปความเห็นในเรื่องนี้ไปแล้ว จึงอยู่ที่ อำนาจของผู้ว่าฯ กทม.ในการพิจารณา

+++ขณะที่ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่าในวันนี้(17ก.พ.) จะมีการสำรวจ ความคิดเห็นประชาชน จำนวน 2,000 ชุด จาก 10 สาขาอาชีพ อาทิ ผู้โดยสาร นักเรียน  นักศึกษา ผู้สูงอายุ ผู้ที่ขับขี่รถยนต์ พนักงาน ขับรถประจำทาง และบ้านเรือนประชาชน ในเส้นทาง เพราะกทม. ตัดสินใจเองไม่ได้ แต่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบเท่านั้น ที่จะเป็นผู้ตัดสินใจ   ดังนั้นจึงขอเวลาทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน 15 วัน ว่าต้องการอะไร เป็นเรื่องสำคัญที่สุดอย่างไรก็ตามโครงการนี้ยังไม่ต้องทบทวนหรือเดินหน้าอะไร เพราะยังไม่หมดสัญญา ซึ่งสัญญาจะหมดวันที่ 30 เม.ย.นี้ ขณะนี้เป็นเรื่องของการหาข้อมูลและความต้องการของประชาชนว่าจะให้มีโครงการบีอาร์ทีหรือไม่ หรือจะให้ยกเลิก    

++++ สำหรับโครงการบีอาร์ที สายสาทรราชพฤกษ์ หรือสายช่องนนทรี-ราชพฤกษ์ โครงการนี้เริ่มขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2548 ในสมัยของนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ด้วยงบประมาณ 1,400 ล้านบาท หลังจากได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2550 เริ่มก่อสร้างจริงเมื่อปี พ.ศ. 2550 และมีกำหนดเปิดให้บริการในช่วงปี พ.ศ. 2551-2552 แต่ได้เกิดความล่าช้ามาอย่างต่อเนื่อง แม้การก่อสร้างสถานีเสร็จสมบูรณ์ไปก่อนหน้านั้นแล้ว เนื่องจากการจัดหาตัวรถหยุดชะงักไปถึง 9 เดือนภายใต้กระบวนการตรวจสอบความโปร่งใสของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รวมไปถึงความล่าช้าในกระบวนการจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบขนส่งอัจฉริยะ, การก่อสร้างทางเดินเชื่อมสถานีสาทรกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ช่องนนทรีที่แยกสาทร-นราธิวาส และการก่อสร้างช่องทางเดินรถเฉพาะสำหรับบีอาร์ที แต่ในภายหลังสามารถเปิดให้บริการได้เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2553