สรุปข่าวรอบเย็น:ศรีวราห์ ปัดถูกถอดจากคดีจับธัมมชโย/รองนายกประวิตร ไม่เลิกBRT/กพช.ประชุมพรุ่งนี้โรงไฟฟ้ากระบี่

สรุปข่าว 19.35 น.

+++การเดินทางมาตรวจสอบสำนวนคดีที่เกี่ยวข้องกับวัดธรรมกาย ที่สภ. คลองหลวง หลังจากที่ตำรวจร่วมกับหน่วยงานทหารและเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เข้าทำการตรวจค้นภายในพื้นที่วัดพระธรรมกาย ตลอดทั้งวัน พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า การเดินทางมาตรวจสอบสำนวนในคดีในครั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  ให้เน้นตรวจสอบถึงการกระทำผิด ตามมาตรา 44 คำสั่งที่ 5 / 60 ในข้อ 9 คือการขัดคืนฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน โดยหากพบว่ามีผู้กระทำผิดตามข้อนี้ ให้ดำเนินการทางกฎหมายเพิ่มเติม แต่เบื้องต้นจากการสอบถามทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ยังไม่พบว่ามีการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าว  แต่ทราบว่ามีการพบการกระทำความผิดเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าจะมีการแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนอีกครั้ง ส่วนกระแสข่าวที่มีการถอดตัวเองออกจากหัวหน้าชุดจับกุม พระธัมมชโย ในประเด็นนี้ยังคงยืนยันว่าตัวเอง เป็นหัวหน้าชุดพนักงานสอบสวนในคดี อยู่ตามเดิม ส่วนหัวหน้าชุดสืบสวนจับกุมยังคงเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเหมือนเดิม ซึ่งไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งสิ้นสำหรับการปฏิบัติการตรวจค้นในครั้งนี้ พล.ต.อ. ศรีวราห์ ปฏิเสธที่จะให้ความเห็น ส่วนจะมีการเดินทางมาตรวจสอบสำนวนในคดีนี้อีกครั้งหรือไม่ จะพิจารณาอีกครั้ง

+++ปรองดอง นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบปฏิรูปยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) กล่าวถึงความคืบหน้า การตั้งคณะผู้ทรงคุณวุฒิใน ป.ย.ป.ว่า ทั้งหมดมี 39 คน กำลังอยู่ระหว่างร่างคำสั่งเพื่อเสนอนายกฯ ลงนามแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะเสนอนายกฯ แต่งตั้งได้ ภายใน 1-2 วันนี้ ทั้งนี้ ใน 4 คณะกรรมการย่อย ป.ย.ป.จะมีผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการเตรียมการปฏิรูป ที่รับผิดชอบโดยรองนายกฯพล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร และ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ซึ่งมีกว่า 10 คน รองลงมาเป็นคณะกรรมการเตรียมการยุทธศาสตร์ชาติ และคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินเชิงยุทธศาสตร์  สำหรับตัวอย่างรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิ เช่น คณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินเชิงยุทธศาสตร์ มีนายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) คณะกรรมการเตรียมการปฏิรูปประเทศ มีนายเทียนฉาย กีระนันทน์ อดีตประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธาน กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ส่วนคณะกรรมการเตรียมการยุทธศาสตร์ชาติ มีนายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตเลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา  นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มอาจารย์และอธิการบดีมหาวิทยาลัย ขณะที่คณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง นอกจากนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ อดีตประธานคณะกรรมการศึกษาแนวทางสร้างความปรองดอง สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ยังมี นายปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี นายสุจิต บุญบงการ รองประธาน กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ  ส่วนการทำงานของ ป.ย.ป. ในวันที่ 20 ก.พ.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินเชิงยุทธศาสตร์ หรือมินิคาบิเนต ครั้งที่ 3

+++ส่วนในวันพรุ่งนี้  นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยภายหลังการหารือกับแกนนำพรรค เพื่อเตรียมไปให้ข้อเสนอแนะกับคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) ในวันพรุ่งนี้ (17 ก.พ.) ว่า พรรคได้เตรียมตอบทั้ง 10 ข้อตามที่ ป.ย.ป.ถาม แต่มองว่ายังขาดภาพรวมเรื่องการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น และสิ่งที่มองตรงกันคือข้อกังวลเรื่องความขัดแย้งอยู่ที่ฝ่ายการเมือง ดังนั้นต้องแก้ที่การเมือง ทั้งนี้เห็นว่าเรื่องความปรองดองไม่มีใครบังคับให้ใครเห็นตรงกันหรือเชื่อได้ แต่หากได้ข้อสรุปที่ทำให้ทุกฝ่ายเห็นว่าจะทำให้ความขัดแย้งลดน้อยลง เชื่อว่าทุกคนคงเห็นด้วยและพร้อมให้ความร่วมมือ ส่วนข้อเสนอเรื่องปลดล็อคการทำกิจกรรมทางการเมืองนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่อยากให้พูดว่าปลดล็อคหรือไม่ เพราะถึงอย่างไรพรรคการเมืองควรที่จะเตรียมตัวสำหรับหลายเรื่อง ยอมรับว่า มีบางกิจกรรม บางประเภทที่ไม่เหมาะสม และอาจกระทบต่อบรรยากาศบ้านเมือง ซึ่งหากไม่เปิดให้ทำ ก็คิดว่าทุกคนรับได้ ดังนั้นเรื่องนี้จึงควรแยกแยะและมีการพูดคุยกันว่ากิจกรรมใดบ้างที่พรรคการเมืองควรมีส่วนในการเตรียมประเทศเข้าสู่ระยะที่สาม และอะไรบ้างที่พรรคการเมืองต้องรอไปก่อน เพื่อให้มีบรรยากาศที่ดี

+++นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง พร้อมมารดา เข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ประเด็นเกี่ยวกับการครอบครองรถหรูยี่ห้อลัมโบร์กีนี และที่มาของทรัพย์สินอื่นๆ โดยเจ้าตัวกล่าวเพียงสั้นๆว่า ได้นำเอกสารมาประกอบการชี้แจงเพิ่มเติม ก่อนเข้าพบพนักงานสอบสวนทันที ด้านนายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยผ่านทางโทรศัพท์ว่าเจ้าหน้าที่ได้เตรียมที่จะเข้าไปสอบปากคำ นายณัฐพล นาคคำ หรือ บอย เพิ่มเติม ภายในเรือนจำฯ สัปดาห์นี้ และจะเชิญนายอัครกิตติ์ หรือเบนซ์ เรซซิ่ง เข้าชี้แจงข้อมูลต่างๆ ในสัปดาห์หน้า แต่ยังไม่ได้กำหนดว่าเป็นวันใด ซึ่งหากพบความเกี่ยวข้องด้านการเงินเกี่ยวกับเครือข่ายนายไซซะนะ ก็อาจจะพิจารณาแจ้งข้อหาเพื่อดำเนินการเอาผิดตามขั้นตอนต่อไป

++ความเคลื่อนไหวก่อนที่จะมีการประชุมคณะกรรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ( กพช.) วันพรุ่งนี้ (17 ก.พ.) เพื่อตัดสินใจว่าจะยุติหรือเดินหน้าแผนก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่  โดยวันนี้นายอารีพงศ์  ภู่ชอุ่ม  ปลัดกระทรวงพลังงาน  ได้หารือร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย  ต่างเห็นพ้องภาคใต้จำเป็นต้องเกิดโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงถ่านหินสะอาด ขณะที่นักวิชาการด้านพลังงานจากหลายมหาวิทยาลัยยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาลขอให้กล้าตัดสินใจอนุมัติการก่อสร้างโรงไฟฟ้ากระบี่

+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  ปิดที่ระดับ 1,576.05 จุด เพิ่มขึ้น 2.68 จุด มูลค่าการซื้อขาย 49,592.48 ล้านบาท  ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบ ๆ  ขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวทั้งแดนบวก-ลบ โดยปัจจัยในประเทศที่ยังต้องติดตาม คือ การทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน  ส่วนปัจจัยนอกประเทศให้รอดูมุมมองจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประเด็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ภายหลังจากตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐเดือน มกราคมพุ่งขึ้นร้อยละ 2.5

+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลงในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากนิกเกอิพุ่งขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ การแข็งค่าของเงินเยนยังได้ฉุดหุ้นกลุ่มส่งออกร่วงลงด้วยปิดลบ 90.45 จุด ที่ 19,347.53 จุด

+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 112.83 จุด ที่ 24,107.70 จุด

+++ ศ.นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ยืนยันว่า กรณีที่มีกระแสข่าวรัฐบาลพยายามยกเลิกโครงการบัตรทองนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะกระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ร่วมมือกันดูแลปรับปรุงสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับการบริการที่ดีขึ้นโดยรัฐบาลพิจารณากรอบการจัดสรรเบื้องต้นในปี 2561 เพิ่มจากเดิมคิดเป็นประมาณร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ดังนั้นประชาชนยังคงได้รับสิทธิเหมือนเดิมและเพิ่มขึ้น เช่น การฉีดวัคซีนในการป้องกันมะเร็งปากมดลูกในผู้หญิง การคัดกรองโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ การดูแลเมื่อเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต สามารถใช้สิทธิได้ทุกที่โดยไม่ต้องสำรองจ่าย เป็นต้นสิ่งที่ดีที่สุดคือ คนไทย นักวิชาการ หรือผู้บริหารต้องร่วมมือกันเพื่อให้เกิดความยั่งยืน อย่าโทษกัน ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี

+++ไม่เลิก บีอาร์ที  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เผยยังไม่ยกเลิกรถโดยสารด่วนพิเศษ (BRT) และอยู่ระหว่างศึกษาการใช้งาน ยอมรับที่ผ่านมาประสบปัญหาขาดทุน ขณะที่ผู้ใช้บริการพอใจและให้ปรับขึ้นอัตราค่าบริการได้ เพราะยังต้องการให้มีรถบีอาร์ทีต่อไป ส่วนตัวพร้อมสนับสนุนเพื่อประโยชน์ของประชาชน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร  กล่าวว่าในวันพรุ่งนี้ (17 ก.พ.) จะให้มหาวิทยาลัยจากหลายสถาบันทำการสำรวจทุกกลุ่ม 10 สาขาอาชีพๆ กว่า 200 คน ทั้งผู้ใช้บริการ นักเรียน นักศึกษา ผู้ใช้รถใช้ถนน แท็กซี่ คนชรา และผู้พิการ ตลอดจนผู้ที่อาศัยบริเวณโดยรอบ ว่าเห็นด้วยกับการยกเลิก บีอาร์ทีหรือไม่ รวมทั้งสิ้น 2,000 ตัวอย่าง ใช้เวลา 15 วันจากนี้ จึงจะตอบได้ว่าจะยังคงอยู่หรือต้องยกเลิก โดยขอให้รอผลสำรวจนี้ก่อน ยังไม่ถึง 30 เม.ย.อะไรก็เกิดขึ้นได้ เหมือนกับการแข่งฟุตบอล เมื่อยังไม่หมดเวลาก็ไรก็เกิดได้เช่นกัน