รมว.ยธ.แจงการค้นวัดธรรมกาย/ คณะกก.สอบเหตุนักบินที่2ดีดตัว/นายกฯสั่งสอบนโยบายสร้างโรงไฟฟ้า

+++พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม กล่าวถึง การใช้มาตรา 44 กำหนดจำกัดพื้นที่ควบคุมวัดพระธรรมกายว่า เจ้าหน้าที่ต้องเข้า เพราะมีหมายค้นหมายจับ ถ้าศาลอนุญาตให้เข้าก็ไม่มีปัญหา เหตุที่ประกาศใช้มาตรา 44 ควบคุมพื้นที่ เพื่อให้คนออกมา เราไม่รู้พระธัมมชโยอยู่หรือไม่ ขอให้วางใจ เจ้าหน้าที่ไม่ทำอะไรเสียหาย กฎหมายต้องทำให้เป็นกฎหมาย ไม่อย่างนั้นก็โดนโจมตีทุกวัน ทหารไม่เข้าไปเกี่ยว อยู่ข้างนอก ไม่ให้เกิดเหตุ นโยบายนายกฯ ไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสีย แต่ต้องการให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้

+++นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรรธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยกรณีเจ้าหน้าที่บุกวัดพระธรรมกาย ว่าการตัดสินใจ ใช้มาตรา 44 เพราะเวลาเนิ่นนานมาแล้ว ดีเอสไอ เสนอความคิดมา ทั้งการบังคับใช้การเจรจา  หาทางออกที่ไม่ต้องใช้อะไรที่พิเศษ แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ ดีเอสไอ เห็นว่า ไม่สามารถปล่อยให้คนใดคนหนึ่งหรือที่ใดที่หนึ่งไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ทุกคนต้องเสมอภาค  มันจำเป็นที่จะต้องทำงานร่วมกัน จึงต้องใช้อำนาจตาม มาตรา 44 ทั้งนี้ไม่ใช่เป็นการใช้ยาแรงโดยไม่สมเหตุสมผล     แต่เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่   หลีกเลี่ยงความรุนแรง การกระทบกระทั่ง ทั้งนี้ไม่จำเป็นต้องจบภายในวันเดียว เพราะศาลให้ระยะเวลาค้นไว้หลายวัน นายสุวพันธ์ กล่าวว่า ได้หารือร่วมกันแล้วมาตรการการรับสถานการณ์กลางคืน ไม่ใช่บริเวณวัดอย่างเดียว แต่รวมถึงการวางกำลังโดยรอบเพื่อให้ทหารเป็นผู้ดูแลความปลอดภัย  

+++กรณีมีการเผยแพร่ภาพหนังสือราชการ อ้างข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี จากการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2559 เกี่ยวกับนโยบายก่อสร้างโรงไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนพลังงานไฟฟ้า โดยหนังสือดังกล่าวลงนาม นายเศวตฉัตร สุวรรณรัตน์ ปลัดอำเภอ รักษาราชการแทนนายอำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ที่สั่งการถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้านให้จัดมวลชนหมู่บ้านละ 20 คน ไปสนับสนุนการก่อสร้างโรงไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เปิดเผยว่า เป็นเรื่องเข้าใจผิด และสั่งการให้สอบสวนพิจารณาลงโทษแล้ว ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะสั่งให้ระดมมวลชนไปทำแบบนั้นไม่ได้

+++นายพินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ได้ทำหนังสือด่วนที่สุด ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีที่อำเภอคลองท่อมสั่งการให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นำมวลชนหมู่บ้านละ 20 คนมาสนับสนุนการก่อสร้างโรงไฟฟ้ากระบี่ว่า จังหวัดได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วปรากฏว่าอำเภอคลองท่อมได้รับหนังสือแจ้งให้อำเภอดำเนินการให้เกิดกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชนเกี่ยวกับการก่อสร้างโรงไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนพลังงานไฟฟ้าที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน หากพื้นที่ใดประชาชนส่วนใหญ่มีความเข้าใจและยอมรับให้มีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแล้ว ให้กระทรวงพลังงานเริ่มดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

+++ทั้งนี้ ปลัดอำเภอคลองท่อม ได้รับหนังสือดังกล่าวเกิดการเข้าใจผิดในข้อเท็จจริงว่าหากให้ประชาชนสนับสนุนการสร้างโรงไฟฟ้าดังกล่าวจะเกิดผลดีต่อประชาชนและประเทศชาติโดยรวม จึงได้แจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เชิญชวนประชาชนที่เห็นด้วยไปสนับสนุนดังกล่าว จังหวัดกระบี่ ขออภัยในความผิดพลาดครั้งนี้และได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก ทั้งนี้จังหวัดกระบี่ได้แจ้งอำเภอคลองท่อมว่ากล่าวตักเตือนปลัดอำเภอคลองท่อม และได้มีคำสั่งให้มาช่วยราชการที่ทำการปกครองจังหวัดกระบี่แล้ว

+++การตรวจสอบหาสาเหตุกรณีที่นาวาอากาศตรีสุโขทัย สมศรีใส ผู้บังคับหมวดบิน 2 ฝ่ายยุทธการ ฝูงบิน 231 กองบิน 23 จ.อุดรธานี ซึ่งทำหน้าที่เป็นนักบินที่ 2 ดีดตัวออกจากเครื่องบินโจมตีแบบที่ 7 หรือ อัลฟ่าเจ็ต ในระหว่างฝึกบินทางยุทธวิธีโดยไม่ทราบสาเหตุ พล.อ.ต.พงษ์ศักดิ์ เสมาชัย โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวว่า ในวันนี้  คณะกรรมการสอบสวนอากาศยานอุบัติเหตุของกองทัพอากาศได้เดินทางถึงกองบิน 23 จ.อุดรธานี เพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งคณะกรรมการฯ ดังกล่าว ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ฝ่ายช่าง เจ้าหน้าที่สื่อสาร เจ้าหน้าที่สรรพาวุธ และเจ้าหน้าที่นิรภัยการบิน นอกจากนี้สถาบันเวชศาสตร์การบินกองทัพอากาศ ยังส่งทีมแพทย์ไปตรวจสอบอาการบาดเจ็บของน.ต.สุโขทัย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจังหวัดเลย เพื่อประเมินอาการทั้งหมด หากสามารถเคลื่อนย้ายได้ก็จะนำตัวกลับมารักษาต่อที่โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดชต่อไป อย่างไรก็ตามพล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.)ได้สั่งการให้คณะกรรมการฯ ตรวจสอบหาสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้อย่างละเอียด พร้อมกำชับให้ดูแลนักบินอย่างดีที่สุด

+++ด้านน.อ.นิทัศน์ ยูประพัฒน์ ผู้บังคับการกองบิน 23 อุดรธานี กล่าวว่า  น.ต.สุโขทัย ซึ่งเป็นนักบินที่ 2 นั้นเป็นครูการบิน มีอาการกระดูกสะบักหัก กระดูกเบ้าตาแตก ต้องเข้ารับการผ่าตัดจากแพทย์ โดยล่าสุดอาการปลอดภัยและพ้นขีดอันตรายแล้ว อยู่ในระหว่างการพักฟื้น ซึ่งกองบิน 23 และกองทัพอากาศ ขอขอบคุณอีกครั้งสำหรับการช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ตำรวจและชาวบ้านในพื้นที่จนทำให้นักบินที่ 2 มีอาการปลอดภัย

+++ส่วนเรืออากาศโทภูริ จุลพัลลภ ศิษย์การบิน ซึ่งเป็นนักบินที่ 1 ต้องขอชื่นชม เพราะถือว่ามีสติดีและมีความสามารถนำเครื่องบินกลับมาลงที่กองบิน 23 ได้ อีกทั้งตอนนี้มีขวัญกำลังใจดี เช่นเดียวกับนักบินทุกคนของกองบิน 23 ที่พร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ ส่วนการสอบสวนหาสาเหตุถึงการดีดตัวของเก้าอี้นักบินที่ 2 โดยไม่ทราบสาเหตุนั้นคงต้องรอคณะกรรมการสอบสวนฯของกองทัพอากาศทำการตรวจสอบทั้งหมดอย่างละเอียด

+++แผ่นดินไหว 2 ครั้ง ที่อินโดนีเซีย เกิดขึ้นในจังหวัดอาเจะห์ ซึ่งเคยเผชิญแผ่นดินไหวเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ทำให้บ้านเรือนเสียหายหลายหลังและมีผู้บาดเจ็บหลายคน สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ รายงานว่า แผ่นดินไหวขนาด 5.1 และขนาด 5.6 เกิดขึ้นต่อเนื่องกัน ภายหลังเวลา 03.00 น. ในเช้าวันนี้ กาชาดอินโดนีเซีย รายงานว่า บ้านเรือน 2 หลัง พังทลายในเขตปีดีจายา ใกล้กับศูนย์กลางแผ่นดินไหว และมีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 9 คน ในเขตเตรียงกาเดง ไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่

+++สำนักงานอุตุนิยมวิทยาและธรณีฟิสิกส์อินโดนีเซีย รายงานว่า แผ่นดินไหววันนี้ไม่ทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ ก่อนหน้านี้ แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 100 คน อาคารบ้านเรือนกว่า 11,000 หลัง พังทลายและเสียหาย

แฟ้มภาพ