รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ชี้แจง6ขั้นตอนปฎิบัติกับพระธัมมชโย

ความเคลื่อนไหวที่วัดพระธรรมกาย ล่าสุด พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เดินทางมาดูแล ตรวจสอบความเรียบร้อยที่บริเวณประตู 5 และประตู 6 และได้ขอรถพยาบาล และรถสุขา มายังจุดนี้ และขอให้รวมกำลังเพื่อรอรับคำสั่งจากพ.ต.ต. สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เบื้องต้น กำลังเจ้าหน้าจุดนี้มีความพร้อมแล้ว และหลังจากตรวจจุดนี้เสร็จ จะเดินทางไปดูจุดอื่นๆ ต่อ โดยก่อนหน้านี้พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย และพระมหานพพร ปุญฺญชโย ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย เดินทางมาที่ประตู 6 เข้าไปรับเอกสารกับพ.ต.ต. สุริยา ที่ประตู 7 ซึ่งหลังจากรับเอกสาร แล้วก็เดินออกมายังประตู 6 และเดินเข้าวัดพระธรรมกายผ่านประตู 5 และบอกกับสื่อมวลชนเพียงสั้นๆ ว่า ขณะนี้กำลังประสานงานกันอยู่ ส่วนความเคลื่อนไหวที่ประตู 8 มีรายงานมาว่า เจ้าหน้าที่อาจจะมีการใช้เครื่องตัดถ่างประตู เพื่อเข้าไปในวัด

ขณะที่บรรยากาศล่าสุด ที่ประตู 5 และ 6 ศิษยานุศิษย์ ยังคงนั่งสวดมนต์ทั้งในวัดและนอกวัด ศิษยานุศิษย์ที่อยู่นอกวัด จะเป็นส่วนที่ถูกเจ้าหน้าที่กันไม่ให้เข้าพื้นที่ และปูเสื่อ นั่งสวดมนต์ ท่ามกลางแดดที่ร้อนจ้า โดยศิษยานุศิษย์บางส่วนได้มีการพูดคุยกันว่า จากเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ปิดล้อมเพื่อตรวจในครั้งนี้ ทำให้ศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย รัก และสามัคคีมากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ควรจะภาคภูมิใจ

ทั้งนี้หลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศให้พื้นที่วัดพระธรรมกายเป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษตามมาตรา 44 ดีเอสไอได้เปิดเผยเอกสารข้อมูลที่ระบุถึงความผิดโดยการต่อสู้หรือขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ด้วยการนั่งขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงานหรือมีการนำสิ่งของมากีดขวางถนน เพื่อมิให้เจ้าพนักงานดำเนินการได้สะดวก มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับส่วนการต่อสู้หรือขัดขวางโดยใช้กำลังทำร้ายหรือขู่ว่าจะทำร้าย โดยการกอด ดึง รั้ง ไม่ให้เจ้าพนักงานปฏิบัติงาน หรือมีการใช้เลเซอร์ยิงใส่อากาศยานไร้คนขับหรือโดรนของเจ้าพนักงาน มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

สำหรับการดำเนินการตรวจค้นวัดพระธรรมกายเจ้าหน้าที่จะดำเนินการโดยปราศจากอาวุธ และความรุนแรงมีการอธิบายเหตุผล ขั้นตอนกับศิษยานุศิษย์ พร้อมทั้งแสดงหมายค้นเข้าตรวจค้นซึ่งหากเจ้าหน้าที่พบพระธัมมชโย จะปฏิบัติ 6 ขั้นตอน คือ แสดงหมายศาลแจ้งสิทธิตามกฎหมาย แจ้งข้อเท็จจริง แจ้งข้อกล่าวหา ถามคำให้การ และเชิญตัวออกมาอย่างสุภาพเพื่อดำเนินการตามกฎหมายทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัย ดีเอสไอจะช่วยดูแลศิษย์ยานุศิษย์ของวัดพระธรรมกายด้วยเพราะวัดพระธรรมกายมีความกังวลว่าจะมีบุคคลซึ่งเป็นมือที่ 3 ปะปนอยู่ในวัดเพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่าย เจ้าหน้าที่จะร่วมมือเป็นผู้ตรวจสอบและคัดแยกให้ โดยจะมีการตรวจสอบบัตรประชาชนของศิษย์ยานุศิษย์ ซึ่งเป็นเพียงเครื่องมือเบื้องต้นในการพิสูจน์ตัวตนและคัดกรองคนที่บริสุทธิ์และผู้ไม่หวังดีออกจากกันเท่านั้น

ผู้สื่อข่าว:สมจิตร์ พุลสุข