รองอธิบดีดีเอสไอเจรจาพระชั้นผู้ใหญ่ ด้านอธิบดีเตรียมแถลงบุกธรรมกาย/เดินหน้าสร้างความปรองดอง

+++หลังพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 5/2560 เรื่อง มาตรการให้อํานาจกําหนดพื้นที่ควบคุมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย โดยกำหนดให้วัดพระธรรมกาย ตลอดจนพื้นที่โดยรอบวัดพระธรรมกายใน อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี รวมถึงพื้นที่หมู่ 7 หมู่ 8 หมู่ 9 หมู่ 10 หมู่ 11 หมู่ 12 และหมู่ 13 ในตําบลคลองสอง และพื้นที่หมู่ 7 หมู่ 8 หมู่ 9 หมู่ 10 และหมู่ 11 ใน ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เป็นพื้นที่ควบคุม ผู้ใดฝ่าฝืนระวางโทษจําคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

+++ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ จะเจรจากับพระชั้นผู้ใหญ่ของวัดพระธรรมกาย บริเวณประตู 7 ก่อนนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าบุกค้น ขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดแรก ประมาณ 4-5 กองร้อย ได้เดินทางมาถึงบริเวณทางเข้าประตู 5 แล้ว ส่วนด้านในวัดบริเวณประตู 6 ได้มีพระสงฆ์จำนวนมาก มานั่งประจำจุด       ศิษยานุศิษย์ นำสแลน มาติดตั้งบริเวณประตู 5 ทางเข้าวัดประตู 7 ทางวัดปิดประตูทั้ง 2 ฝั่ง มีช่างภาพคอยบันทึกความเคลื่อนไหวด้านนอก ล่าสุด ดีเอสไอ ได้ออกประกาศให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางถนนคลองหลวง จนกว่าภารกิจจะเสร็จสิ้น เนื่องจากอยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน และมีการปิดถนนบริเวณถนนเลียบคลองสาม พื้นที่โดยรอบวัดพระธรรมกาย

+++พ.ต.อ.ไพสิฐ  วงศ์เมือง  อธิบดีดีเอสไอ เตรียมแถลงในเวลา 08.00 น. ถึงการสนธิกำลังเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกาย ส่วนการติดตามจับกุม พระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี  ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และรับของโจร กรณีรับเช็คบริจาคจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ว่า ดีเอสไอกับตำรวจร่วมประชุมกันเป็นระยะ ๆ กรณีที่ระบุถึงการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าชุดในส่วนของตำรวจ ไม่ทราบเพราะการประสานขอกำลังจะเป็นการประสานไปยัง พล.ต.อ.จักรทิพย์  ชัยจินดา  ผบ.ตร. ว่า จะมอบหมายบุคคลใด ซึ่งการจับกุมสามารถทำได้ทั้งในส่วนของตำรวจและดีเอสไอเพราะต่างก็มีหมายจับ ขึ้นอยู่กับหน่วยงานใดจะมีความพร้อม  คดีดังกล่าวมีผู้ถูกกล่าวหาหลายคนซึ่งได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาไปหมดแล้ว เหลือเพียงพระธัมมชโยที่ยัง ไม่เข้ารับทราบข้อหา

+++ด้าน พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รองผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าได้รับมอบหมายงานให้รับผิดชอบการสนธิกำลังเข้าจับกุมตัวพระธัมมชโย แทน พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รองผบ.ตร. ว่า ยังไม่ทราบเรื่อง และยังไม่มีคำสั่งใด ๆ จาก พล.ต.อ.จักรทิพย์

+++คดีวิศวกรยิงเด็กวัยรุ่นที่จ.ชลบุรี  พ.ต.ท.ธีรวัฒน์ จันทร์ศรีเพชร รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน สภ.แสนสุข จ.ชลบุรี เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมและใน 4 คนของกลุ่มนี้ต้องรับทราบข้อกล่าวหา กลุ่มเด็กวัยรุ่นทั้ง 7 คน พร้อมด้วยคนขับรถตู้ได้เดินทางมาที่สถานีตำรวจ พอพบตำรวจ ตอนแรกยังไม่ยอมให้ปากคำ เอาแต่ก้มหน้า ไม่ยอมให้การใด  ต่อมา พ.ต.อ.เชี่ยวชาญ เพิ่มพูล ผกก.สภ.แสนสุข เปิดเผยว่า วันนี้กลุ่มวัยรุ่นมาเข้าให้ปากคำเพิ่มเติม ส่วนความคืบหน้าอื่น ๆ ขณะนี้กำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน โดยตรวจสอบกล้องวงจรปิดในจุดเกิดเหตุอย่างละเอียด เพื่อหาตัวบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้มาสอบสวน นอกจากนี้ยังสืบหากล้องวงจรปิดจุดอื่นใกล้กับที่เกิดเหตุนำมาประกอบหลักฐานในคดีนี้ด้วย เพื่อให้เกิดความกระจ่างครบทุกด้าน

+++พล.ต.คงชีพ ตันตระวานิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการด้านการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความสามัคคีปรองดองในชุดคณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง กล่าวภายหลังที่ตัวแทนพรรคชาติพัฒนา เข้าเสนอแนวทางปรองดอง ว่า  สำหรับบรรยากาศพูดคุย เสนอแนะเรียบร้อยเป็นกันเอง สร้างสรรค์ รวมทั้งเปิดใจกว้าง ตรงไปตรงมา ในการให้ข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะ  ซึ่งภายหลังพรรคการเมือง ทั้ง4 คือ พรรคคนธรรมดาแห่งประเทศไทย พรรคเครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย พรรคความหวังใหม่ และพรรคชาติพัฒนาต่างแสดงความคิดเห็นถึงแนวทางการปรองดองว่าต้องสร้างความปรองดอง เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ เพราะความขัดแย้งที่ผ่านมาทำให้ประเทศเสียโอกาส สังคมไทยติดหล่ม เกิดความขัดแย้งมานาน ซึ่งกระบวนการปรองดองทำให้เราได้จะทำให้สังคมไทยเดินออกจากความขัดแย้งได้  เพื่อนำไปสู่อนาคตในการอยู่ร่วมกันประเทศ โดยจำเป็นต้องสร้างความปรองดองก่อนการเลือกตั้ง และเป็นการเลือกตั้งตามระบบประชาธิปไตย และเป็นที่ยอมรับตามหลักสากล

+++และในวันนี้ เวลา09.00-12.00 น. คณะอนุกรรมการฯจะเชิญพรรรคไทยรวมพลังใครรวมพลัง พรรคไทยมหารัฐพัฒนา พรรคประชากรไทย ส่วนช่วงเวลา13.30-16.30 น. จะเชิญ พรรคชาติไทยพัฒนา สำหรับวันที่17 ก.พ. เวลา 09.00-12.00 น. จะเชิญพรรคประชาธิปัตย์มาพูดคุยเสนอแนะแนวทางการปรองดอง

+++การขยายผลจับเครือข่ายนายไซซะนะ แก้วพิมพา ผู้ต้องหาเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับนายณัฐพล นาคคำ หรือบอย ผู้ต้องหาซึ่งถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ และอาจจะเชื่อมโยงกับ นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง พล.ต.ต.สุนทร เฉลิมเกียรติ โฆษก บช.ปส. เปิดเผยว่า ได้เชิญเจ้าหน้าที่ของบริษัทราชธานี ลิสซิ่ง ไฟแนนซ์ จำกัด มาให้ข้อมูลพร้อมนำเอกสารมาชี้แจง เกี่ยวกับการเช่าซื้อรถแลมโบกินีของ นายอัครกิตติ์  พบว่ามีการทำสัญญาเช่าซื้อรถกันอย่างถูกต้อง ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. ได้มาเคลื่อนย้ายรถแลมโบกินี รวมถึงรถบิ๊กไบค์คันอื่น ๆ ไปยัง ป.ป.ส. หลังจากเป็นรายการทรัพย์สินที่เจ้าหน้าที่ยึดชั่วคราวในคดีดังกล่าว เพื่อไว้ตรวจสอบ ซึ่งหลังจากนี้เจ้าของจะต้องเข้ามาชี้แจงที่มาที่ไปของทรัพย์สินทั้งหมดกับทางเจ้าหน้าที่ต่อไป

+++ส่วนนายอัครกิตติ์ เข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ. แล้ว เหลือเพียงเอกสารบางส่วน ซึ่งพนักงานสอบสวนไม่ได้นัดหมายให้นายเบนซ์เข้าให้ปากคำ หรือยื่นเอกสารเพิ่มเติม ซึ่งนายเบนซ์ต้องการเข้าชี้แจงหรือให้เอกสารเพิ่มเติมหรือไม่ ก็เป็นสิทธิของนายเบนซ์  ขณะที่เมื่อวานนี้ ได้รับการติดต่อจากแม่เบนซ์ว่าจะนำเอกสารเข้ามาในเวลา 14.00 น. แต่ล่าสุดได้รับการติดต่อกลับมาว่าติดธุระจึงไม่ได้เข้ามา และในวันที่ 16 ก.พ.นี้ ที่มีกระแสข่าวว่านายเบนซ์จะเดินทางเข้ามานั้นก็ยังไม่ได้ติดต่อมา อย่างไรก็ตามขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน หากพบการกระทำผิดก็จะออกหมายเรียกเพื่อเข้าให้ปากคำ รวมทั้งต้องรอเอกสารธุรกรรมทางการเงินอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อนำมาสรุปสำนวนก่อนนำเรื่องไปประมวลให้กับคณะทำงานดำเนินการต่อไป