เอเอฟพีรายงานว่า ศาลของปากีสถานสั่งห้ามสาธารณชนจัดกิจกรรมในวันแห่งความรักหรือวันวาเลนไทน์(14 กพ.)ในกรุงอิสลามาบัด นับเป็นความพยายามของหนึ่งในประเทศมุสลิมอนุรักษ์นิยมในการปฏิเสธที่จะยอมรับกระแสการเฉลิมฉลองวันวาเลนไทน์ซึ่งเป็นวัฒนธรรมของชาติตะวันตก ศาลมีคำสั่งเรื่องนี้หลังมีผู้ยื่นคำร้องต่อศาลว่ามีการใช้โอกาสวันแห่งความรักเป็นข้ออ้างในการเผยแพร่ความเสื่อมโทรมทางศีลธรรม ความลามกอนาจารให้แพร่หลายในสังคม ขัดแย้งกับวัฒนธรรมและค่านิยมที่ดีงามของปากีสถาน
แม้ว่าที่ผ่านมาวันวาเลนไทน์ในแต่ละปีจะเป็นวันที่วัยรุ่นปากีสถานจะให้ความสำคัญค่อนข้างมาก ใช้โอกาสนี้ส่งการ์ด,ช็อกโกแลตและของขวัญให้แก่คนรัก ขณะที่บรรดานักเรียนอายุ 13-15 ปี กลุ่มหนึ่งในเมืองสุราบายา อินโดนีเซีย ประเทศที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิมระบุว่าพวกเขาจะไม่ให้ความสำคัญกับวันวาเลนไทน์อีกต่อไป ตำหนิการจัดกิจกรรมวันวาเลนไทน์ว่าเป็นวัฒนธรรมของชาติตะวันตกที่ส่งเสริมให้มีแสดงความรักเช่นการกอดจูบกันหรือวัฒนธรรมแบบฟรีเซ็กส์ของชาติตะวันตก ในเมืองอื่นๆอีกหลายเมืองของอินโดนีเซีย หน่วยงานท้องถิ่นสั่งห้ามสาธารณชนจัดกิจกรรมวันวาเลนไทน์ เช่นเดียวกับอีกหลายประเทศในเอเชีย ส่งผลให้การจัดกิจกรรมเนื่องในวันวาเลนไทน์ปีนี้ไม่คึกคักเท่าที่ควร
ขณะที่บรรดาคนโสดที่มองหาคู่รักในออสเตรเลีย,มาเลเซียและสิงคโปร์ได้รับคำเตือนให้ระวังถูกพวกแก๊งมิจฉาชีพหลอกเอาเงิน ถ้าหากใช้วิธีติดต่อกับคนที่จะคบหาดูใจกันผ่านสื่อออนไลน์ ส่วนที่ญี่ปุ่นมีประชาชนกลุ่มหนึ่งออกมาประท้วงตามท้องถนนเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา คัดค้านการที่บรรดาคู่รักที่เฉลิมฉลองเนื่องในวันแห่งความรักให้ยุติการกอดจูบกันในที่สาธารณะ ส่วนในมาเลเซีย ซึ่งอิสลามเป็นศาสนาประจำชาติ องค์กรชื่อสมาคมเยาวชนมุสลิมแห่งชาติได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้วัยรุ่นสตรีให้รักนวลสงวนตัว ไม่ควรแต่งกายเย้ายวนเพศตรงข้ามและใช้น้ำหอมมากเกินไป พวกเขาเชื่อว่าวันวาเลนไทน์จะทำลายความเชื่อทางศาสนาที่ยึดถือมาแต่ดั้งเดิมและส่งเสริมให้วัยรุ่นมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ชอบด้วยกฏหมาย/16.03 น.