เฟดของสหรัฐฯเผยยังไม่ทราบทิศทางนโยบายศก.ของรัฐบาล

รอยเตอร์รายงานอ้างนายสแตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานธนาคารกลาง(เฟด)ของสหรัฐฯว่านางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดจะเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารของวุฒิสภาสหรัฐฯในวันนี้และจะเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการด้านบริการทางการเงินของสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯในวันพรุ่งนี้ นับเป็นการเข้าชี้แจงต่อสภาฯเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สมาชิกสภาคองเกรสจากพรรครีพับลิกันเริ่มเข้าปฏิบัติหน้าที่ และคุมเสียงส่วนใหญ่ของทั้งสองสภาและทำเนียบขาว แต่จนถึงขณะนี้เฟดก็มีข้อมูลไม่มากนักในเรื่องทิศทางนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อเทียบกับช่วง 3 ปีที่เธอทำงานมาในยุครัฐบาลชุดก่อน

ก่อนหน้านี้นายทรัมป์เคยแถลงว่าจะระงับการใช้กฎระเบียบทางการเงิน แต่ก็ยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจนเท่าที่ควร เช่นเดียวกับเรื่องขนาด,ขอบเขตและช่วงเวลาการปรับลดภาษีตามที่เขาเคยให้คำมั่นไว้ นอกจากนี้มาตรการภาษีใหม่สำหรับสินค้านำเข้าและการเพิ่มงบประมาณเพื่อการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคของประเทศอาจจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อขยับขึ้นและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่ามากขึ้น แต่ความไม่ชัดเจนของทิศทางนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯส่งผลให้เฟดทำงานยากลำบากกว่าปกติในการกำหนดทิศทางนโยบายอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ แต่แม้ว่าในยุครัฐบาลอดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามาจะมีความชัดเจนของทิศทางนโยบายเศรษฐกิจ แต่ทางเลือกต่างๆของเฟดในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจก็ค่อนข้างจำกัด

ก่อนหน้านี้เฟดระบุเมื่อปี 2555 ว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2557 แต่ปรากฏว่าคณะกรรมการบริหารของเฟดรอจนถึงเดือนธันวาคม 2558 จึงขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรก นอกจากนี้นักวิเคราะห์หลายคนประเมินว่าเฟดอาจจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปี 2559 แต่ปรากฏว่าเฟดตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียว สำหรับเศรษฐกิจสหรัฐฯในปัจจุบันนี้ เฟดและนักวิเคราะห์หลายคนรวมถึงศาสตราจารย์โจน เฟราสท์ จากคณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์ สหรัฐฯประเมินว่าช่วงนี้เริ่มมีการจ้างงานเต็มกำลังการผลิต,อัตราเงินเฟ้อขยับขึ้นร้อยละ 1.6 และเศรษฐกิจสหรัฐฯเติบโตร้อยละ 1.6 เมื่อปีที่แล้วและคาดว่าเฟดอาจจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ ครั้งละร้อยละ 0.25/14.59 น.