หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการจับกุมเครือขายยาเสพติด ของนายไซซะนะ แก้วพิมพา ที่เชื่อมโยงไปยังตัวการใหญ่ในจังหวัดชายแดนใต้ นายกรัฐมนตรี ว่า ถือเป็นผลงานของรัฐบาลและตำรวจที่มีความจริงจังในการกวาดล้างยาเสพติด ซึ่งได้รับความร่วมมือจาปประเทศเพื่อนบ้าน
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า กระบวนดังกล่าวมีความเชื่อมโยงที่เกี่ยวข้องโดยนำเงินไปสนับสนุนการก่อความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนใต้ นายกรัฐมนตรียอมรับว่า กระแสข่าวดังกล่าวมีมานานแล้ว แต่จะมีความเชื่อมโยงหรือไม่ต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวน โดยได้สั่งการให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ตรวจสอบเส้นทางการเงิน พร้อมขออย่าดูถูกเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานว่าไม่มีความคืบหน้าในการทำงาน เพราะรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจอยู่แล้ว
นายกรัฐมนตรียังกล่าวการฝึกคอบบร้าโกลด์ที่ประเทศไทยและสหรัฐอเมริกาเป็นเจ้าภาพจัดการฝึกซ้อมประจำปีระดับพหุภาคีในหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทยระหว่างวันที่ 14-24 ก.พ. ว่าในปีนี้มีหลายประเทศให้ความร่วมมือเข้าร่วมฝึกกว่า 30 ประเทศ ซึ่งการฝึกจะเป็นการเน้นกลยุทธการใช้กำลังทางการทหารและการรับมือกับสถานการณ์ภัยพิบัติ ซึ่งการฝึกปีที่แล้วได้เน้นในการฝึกเรื่องการรับมือภัยพิบัติ โดยไทยได้นำมาปรับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะการรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้
นายกรัฐมนตรียังย้ำว่าความสัมพันธ์ระหว่างไทย - สหรัฐ ยังคงดีเช่นเดิม ส่วนเรื่องของการเมืองตนเองก็ได้ชี้แจงว่าไทยกำลังเข้าสู่กระบวนการปรองดอง และปฏิรูปประเทศเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้ง ซึ่งสหรัฐและหลายประเทศก็เข้าใจและสนับสนุนให้ไทยเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งอย่างสุจริตโปร่งใสต่อไป
นายกรัฐมนตรี ยังเตือนกลุ่มคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินจังหวัดกระบี่ที่เตรียมชุมนุมเคลื่อนไหวเข้ากรุงเทพมหานคร ว่าขัดต่อพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ และคำสั่ง คสช. เรื่องการห้ามชุมนุม โดยขอให้รอฟังผลประชุมของกระทรวงพลังงานที่มีการประชุมว่าจะดำเนินการโรงไฟฟ้าได้หรือไม่ในวันที่ 17 ก.พ.นี้นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่าโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินดังกล่าวเป็นโครงการเดิมที่มีมาอยู่แล้ว แต่รัฐบาลได้เข้ามาปรับปรุงให้ใช้พลังงานทดแทนมากขึ้นและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งหากไม่สร้างโรงไฟฟ้าก็ขอให้ไปคิดว่าประชาชนในพื้นที่ภาคใต้หากทำอย่างไรหากไม่มีไฟฟ้าใช้
ผสข.ปิยะธิดา เพชรดี