หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าได้นำคณะรัฐมนตรี (ครม.) และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าเฝ้าถวายสักการะสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก ซึ่งสมเด็จพระสังฆราช รับสั่งให้กำลังใจรัฐบาล และคสช. ให้มีสติ ไม่ประมาท ไม่หลงในลาภยศ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ยืนยันว่าไม่เคยคิดที่จะอยู่ในอำนาจ นอกจากนี้ ยังรับสั่งในเรื่องการมีศีลธรรมและการทำหน้าที่พลเมือง โดยเฉพาะเรื่องความละอายและเกรงกลัวต่อบาป ซึ่งวันนี้รัฐบาลได้นำมาผลักดันในเรื่องการที่ทำอย่างไรให้ประชาชน และข้าราชการใช้ชีวิตโดยนำธรรมมะมาปรับใช้ในชีวิต
ด้านความคืบหน้าเรื่องพูดคุยเรื่องความปรองดอง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขออย่ากังวล เพราะการทำงานของคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง ปยป. ต้องรายงานกลับมาให้ครม.และคสช. รับทราบอยู่แล้ว โดยจะใช้โอกาสนี้ในการรับฟังข้อสรุปของแต่ละคณะเป็นอย่างไรบ้างโดยเฉพาะคณะของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ที่มีการเชิญพรรคการเมืองและกลุ่มการเมืองมาพูดคุยในเรื่องความปรองดองว่าเป็นอย่างไร พร้อมย้ำว่าการพูดคุยไม่มีการเอื้อประโยชน์ และไม่มีการนำเรื่องนิรโทษกรรมเข้าไปพูดคุย ทั้งนี้ยอมรับว่าการแก้ปัญหาการปรองดองเป็นเรื่องยากสำหรับประเทศ แต่ก็จะทำให้ได้ นายกรัฐมนตรีระบุด้วยว่า กระบวนการปรองดองไม่จำเป็นต้องนำทหารไปทำสัญญากับใคร แต่ขอให้นักการเมืองทำสัญญากับตัวเองและประชาชนว่าจะไม่ทำให้บ้านเมืองเสียหายอีก ซึ่งยืนยันว่าไม่มีทหารคนใดต้องการทำรัฐประหารเนื่องเสี่ยงอันตรายและหากทำไม่สำเร็จก็จะทำให้เดือดร้อนกันทั้งหมด
นายกรัฐมนตรียังแนะนำให้สื่อมวลชนอ่านหนังสือเรื่องหลักคิดในการปฏิรูปประเทศ ของ ดร.วิชิตวงศ์ ณ ป้อมเพชร ซึ่งรัฐบาลได้นำหลักคิดมาปรับใช้ในการเดินหน้าปฏิรูปประเทศ ขณะเดียวกันก็ขอให้สื่อมวลชนอย่าเป็นกระบอกเสียงให้กับกลุ่มคนที่ไม่หวังดีกับบ้านเมือง ซึ่งหากสื่อมวลชนสามารถทำได้ก็ไม่จำเป็นต้องมีกฎหมายควบคุม
ส่วนกรณีการตรวจสอบพบว่า สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)บางคนที่ควบตำแหน่งข้าราชการขาดการประชุมเกินข้อบังคับที่กำหนด จนอาจจะเป็นเหตุให้สิ้นสภาพการเป็นสมาชิก สนช. เช่นพล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ยินดีให้ตรวจสอบตามกระบวนการ หากตรวจสอบว่ากระทำความผิดจริงก็ต้องพ้นจากหน้าที่ โดยนายกรัฐมนตรีได้ตั้งข้อสังเกต ว่าที่สื่อให้ความสนใจเพราะว่ามีชื่อของน้องชายตนเองเข้าไปอยู่ด้วย จึงขออย่านำมาเกี่ยวโยงกัน อย่างไรก็ตามขอให้รอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง เพราะทุกคนอยู่ในกฎกติกาเดียวกันทั้งหมด
ผสข:ปิยะธิดา เพชรดี