+++พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันที่ 14 ก.พ.นี้ เวลา 08.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะนำ คสช.และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งหมดเข้าเฝ้าถวายสักการะสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ณ พระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร โดยให้ คสช.และ ครม.พร้อมกันที่วัดราชบพิธฯ เวลา 08.15 น. จากนั้นนายกฯและรัฐมนตรีจะกลับมาประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ตามปกติ
+++พ.อ.หญิงทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 ก.พ. นายกฯสั่งการให้ครม.และคสช.เตรียมตัวให้พร้อม เพราะไม่อยากเป็นการรบกวนสมเด็จพระสังฆราช จึงต้องการให้ทั้งครม.และคสช.เข้าเฝ้าถวายสักการะทั้งคณะรอบเดียวกัน
+++การตรวจสอบคดีสินบนบริษัทโรลส์รอยซ์ นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) กล่าวถึง การประชุมศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) มีมติให้สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ขอข้อมูลจากสำนักงานปราบปรามการทุจริตของอังกฤษ (เอสเอฟโอ) ว่า ถ้าจะเอาหลักฐานมาเพื่อดำเนินคดี ก็ต้องผ่านช่องทางของอสส. ซึ่งเป็นไปตามความร่วมมือคดีอาญาระหว่างประเทศว่าด้วยคดีอาญา จึงจะสามารถนำเอามาเป็นพยานหลักฐานได้ รมว.ยุติธรรมได้พูดคุยกับอสส.แล้ว ซึ่งอสส.จะดำเนินการต่อไป คาดว่าอสส.น่าจะทำคำขอได้ภายในสัปดาห์หน้า ยืนยันว่าศอตช.จริงจังและจริงใจที่จะทำเรื่องนี้ ทั้งนี้หากบุคคลที่เกี่ยวข้องเกษียณอายุราชการ หรือพ้นจากราชการไปแล้ว นายประยงค์ กล่าวว่า ไม่รอดพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินไปได้ เพราะกฎหมายดังกล่าวเป็นการดำเนินการทางแพ่งซึ่งไม่มีอายุความ ปัญหาที่เกิดขึ้น นายกฯได้สั่งการตั้งแต่เกิดปัญหาขึ้น
+++ส่วนที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ขอไปเป็นการประสานขอข้อมูลมาเพื่อสืบสวนหรือแสวงหาข้อเท็จจริงเบื้องต้น รวมถึงนำคนผิดมาลงโทษ แต่สามารถใช้ข้อมูลเดียวกันได้ ทั้งนี้ ศอตช.ต้องการหาทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้อีก จึงต้องแสวงหาข้อมูล เอกสารหลักฐานทั้งหมด เพื่อศึกษาข้อผิดพลาดในอดีต แล้ววางมาตรการป้องกันและต้องนำคนผิดมาลงโทษ
+++นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในภาพรวมปี 2560 ว่าจะขยายตัวได้ประมาณร้อยละ 3.0-4.0 จากการลงทุนและการใช้จ่ายของภาครัฐ ที่คาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจประมาณ 1.1 ล้านล้านบาท การส่งออกคาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 2.5-3.5 จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก อัตราแลกเปลี่ยนที่อ่อนค่าลง และราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นจากปีก่อน ส่งผลให้ราคาสินค้าเกษตรของไทยปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้ง ส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อในปีนี้ ที่คาดว่าจะอยู่ในเกณฑ์ร้อยละ 1.5-2.0 ต่อปี ส่วนภาคการท่องเที่ยว คาดว่า จะขยายตัวต่อเนื่องเช่นกัน จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 2.8 จากปี 2559 สามารถสร้างรายได้ให้ระบบเศรษฐกิจประมาณ 1.83 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.5 จากปีก่อน
+++ความคืบหน้าโครงการเรือเฟอร์รี่ข้ามอ่าวไทย พัทยา-หัวหิน ที่ได้เปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ท่าเทียบเรือท่องเที่ยวพัทยาใต้ (แหลมบาลีฮาย) จ.ชลบุรี พล.ท.สรรเสริญ เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีความพอใจโครงการดังกล่าว ที่เป็นนโยบายต้องการสร้างความเชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งทางน้ำฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก และเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้นนายกฯ ฝากขอบคุณกระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ช่วยกันผลักดันให้โครงการนี้เกิดขึ้นได้สำเร็จ ทั้งการปรับปรุงท่าเรือและการออกเดินเรือซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางโดยรถยนต์ได้กว่าครึ่งหนึ่ง ขณะเดียวกัน ยังเป็นทางเลือกใหม่ของการท่องเที่ยวทางทะเล ที่เชื่อมโยงระหว่างทั้งสองฝั่ง นอกจากนี้ยังจะช่วยสร้างความเจริญให้พื้นที่โดยรอบท่าเรือกลายเป็นแหล่งเศรษฐกิจได้ปีละกว่า 4,000 ล้านบาท
+++พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า นายกฯยังได้กำชับให้กระทรวงคมนาคมจับมือกับหน่วยงานอื่นๆ เช่น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้รับทราบอย่างทั่วถึง เพื่อดึงดูดให้มีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น รวมทั้งเร่งรัดศึกษาความเป็นไปได้ในการเพิ่มเติมเส้นทางอื่น ๆ ทั้งบางปู-หัวหิน บางปู-พัทยา ที่กำหนดไว้ในแผน สำหรับเป็นทางเลือกใหม่ให้กับประชาชน ทั้งนี้ ในช่วงที่เปิดทดลองให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ใช้บริการฟรี ระหว่างวันที่ 1 – 15 ม.ค.2560 ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยเรือเฟอร์รี่ข้ามอ่าวไทยหรือเรือรอยัล 1 เป็นเรือขนาดใหญ่ปรับอากาศ 2 ชั้น มีชั้นประหยัด 286 ที่นั่ง ชั้นธุรกิจ 44 ที่นั่ง ห้องวีไอพี 2 ห้อง ๆ ละ 8 ที่นั่ง ซึ่งได้ผ่านการตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงและความปลอดภัยจากกรมเจ้าท่าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นเปิดให้บริการวันละ 2 เที่ยว
+++การสร้างความเชื่อมั่นและขยายโอกาสในการลงทุน นางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า วันที่ 15 ก.พ.นี้ บีโอไอเตรียมจัดสัมมนาใหญ่แห่งปีและงานนิทรรศการภายใต้ชื่อ โอกาสทางการลงทุนในประเทศไทย ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี บีโอไอ จะชี้แจงกฎหมายใหม่และสิทธิประโยชน์ที่เริ่มใช้อย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมกับรายงานความคืบหน้ากฎหมายฉบับอื่นๆ ให้นักลงทุนทราบ ซึ่งขณะนี้มีผู้ตอบรับเข้าร่วมงานครบแล้ว จำนวนกว่า 2,500 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้บริหารระดับสูงของภาคเอกชนบริษัทชั้นนำของไทย และต่างประเทศที่อยู่ในไทย รวมทั้งนักธุรกิจจากต่างประเทศ บีโอไอ เชื่อมั่นว่า นักธุรกิจที่เข้าร่วมงานสัมมนา จะเห็นภาพอนาคตประเทศไทยและการขยายธุรกิจในประเทศไทยชัดเจนมากขึ้น เพราะจะได้รับทราบข้อมูลเชิงนโยบายจากนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ
+++ขณะเดียวกัน จะรับทราบถึงโอกาสใหม่ๆ จากภาคเอกชนไทยและต่างชาติที่ร่วมเสวนาบนเวที ตลอดจนรับทราบถึงโอกาสการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายและโอกาสในการจับคู่ธุรกิจกับผู้ผลิตไทย แผนการชักจูงการลงทุนในปี 2560 จะเข้มข้นยิ่งกว่าทุกๆ ปี เพราะประเทศไทยกำลังก้าวสู่ประเทศไทย 4.0 ซึ่งจะมีสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ที่เอื้อต่อการลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการลงทุน และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่งเพื่อรองรับการลงทุนของภาคเอกชน บีโอไอจึงได้เตรียมแผนในการสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ
+++สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานอ้างกระทรวงคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของจีนว่า หมอกควันจะเริ่มแผ่ปกคลุมในพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลางของประเทศในวันพรุ่งนี้ โดยเฉพาะกรุงปักกิ่งและเมืองเทียนจิน เช่นเดียวกับมณฑลเหอเป่ย,ซานซี,ซานตงและมณฑลเหอหนาน โดยหมอกควันจะแผ่ปกคลุมต่อเนื่องไปจนกว่ามวลอากาศหนาวจะพัดเข้ามาในวันพฤหัสบดีนี้ แต่อย่างไรก็ตาม มลพิษทางอากาศจะกลับมาอีกครั้งในวันเสาร์ หวังว่า จะเบาบางลงเรื่อยๆ รัฐบาลจะพยายามแก้ปัญหามลพิษ แต่การที่หมอกควันแผ่ปกคลุมพื้นที่ภาคเหนือของประเทศถือเป็นเรื่องปกติในช่วงฤดูหนาว ซึ่งอากาศหนาวจัดและการใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้าของโรงผลิตไฟฟ้าและโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆของจีน ยิ่งจะทำให้ปัญหามลพิษและหมอกควันหนักขึ้นเรื่อยๆ ทางการจีนได้เตือนภัยสีแดงในพื้นที่ต่างๆกว่า 20 เมืองในช่วงต้นปีนี้ ทำให้โรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งลดกำลังการผลิต ขณะที่รถยนต์ที่ปล่อยมลพิษทางอากาศสูงมากจะถูกห้ามแล่นออกตามท้องถนน
+++การดำเนินคดีสิ่งแวดล้อมเมื่อปีที่แล้ว มีคนถูกจำคุก 720 คน และอีก 6,454 คนถูกปรับ รัฐบาลไม่อนุมัติโครงการที่ใช้พลังงานสูงและสร้างมลพิษรวม 11 โครงการ มีมูลค่าการลงทุนรวมทั้งสิ้น 9 หมื่น 7 พันล้านหยวน
แฟ้มภาพ