สวนดุสิตโพลล์ เผย กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 84.67 ให้เพิ่มโทษพวกปล่อยข่าวลือ ไม่เชื่อข่าวขู่ปองร้ายผู้นำ

“สวนดุสิตโพล”มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “ข่าวลือ ข่าวปล่อย”ในสายตาคนไทย พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 76.10คิดว่าโทรทัศน์เป็นช่องทางข่าวสารที่น่าเชื่อถือที่สุด รองลงมาคือหนังสือพิมพ์ ร้อยละ 42.70 ส่วนข่าวที่ประชาชนเชื่อว่า มีการปล่อยข่าว หรือข่าวลือมากที่สุดประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ52.79 เชื่อว่าเป็นข่าวการเมือง เพราะการเมืองยังไม่นิ่ง มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด เป็นการเล่มเกมการเมือง แบ่งพรรคแบ่งพวก สร้างกระแส โจมตีกันไปมา รองลงมาคือข่าวเศรษฐกิจ ร้อยละ 30.42 เพราะต้องการสร้างกระแสทำลายความเชื่อมั่น การทำธุรกิจมีการแข่งขันสูง กระทบต่อตลาดหุ้น เศรษฐกิจของประเทศ

เมื่อถามว่าวิธีจัดการการปล่อยข่าว หรือข่าวลือที่ดีที่สุด ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 84.67 เพิ่มบทลงโทษ เจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างจริงจัง เด็ดขาด รองลงมาร้อยละ 77.25 เห็นว่าต้องสืบสวน หาต้นตอคนปล่อยข่าว ดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด และร้อยละ 76.75 เห็นว่าผู้บริโภคข้อมูล ต้องมีสติ ไม่ตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มไม่หวัง

ที่น่าสนใจเมื่อถามถึงกรณีข่าวจะมีการลอบปองร้ายผู้นำ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 76.99 ไม่เชื่อข่าวดังกล่าว เพราะไม่ทราบข้อมูลข้อเท็จจริง ควรมีวิจารณญาณ อาจเป็นการปล่อยข่าวสร้างกระแส ไม่น่าจะรุนแรงถึงขั้นเอาชีวิต ส่วนร้อยละ 23.01 เชื่อข่าวดังกล่าว เพราะจากการทำงานก็มีทั้งผู้ที่หวังดีและไม่หวังดี ผู้ที่ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ สาเหตุน่าจะมาจากนโยบายปราบปรามการทุจริตและผู้มีอิทธิพล ผู้นำแต่ละประเทศก็มักจะมีผู้ปองร้าย

สำหรับการสอบถามความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ 1,187 คน สำรวจระหว่างวันที่ 6-10 ก.พ.2560