สื่อสหรัฐฯวิเคราะห์รัฐบาลปธน.ทรัมป์พ่ายหมดรูปหลังศาลอุทธรณ์พิพากษายืนห้ามใช้คำสั่งพิเศษห้ามมุสลิมเข้าสหรัฐฯ

นายเจฟเฟอร์รี่ ทูบิน นักวิเคราะห์การเมืองของซีเอ็นเอ็นกล่าวว่า การที่องค์คณะ 3 คนในศาลอุทธรณ์ภาค 9 ประจำนครซานฟรานซิสโกของสหรัฐลงมติอย่างเอกฉันท์ 3-0 มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นเมื่อวานนี้ ระงับการบังคับใช้คำสั่งพิเศษของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กรณีการห้ามมุสลิม 7 ประเทศเข้าสหรัฐฯชั่วคราว ถือว่าเป็นการพ่ายแพ้อย่างหมดรูปของฝ่ายรัฐบาล ระบุว่าสาธารณชนในสหรัฐฯคงจะให้น้ำหนักความเชื่อถือกับคำตัดสินของศาลมากว่าเนื่องจากเป็นการชี้ขาดที่เป็นเอกฉันท์และคงจะทำให้รัฐบาลของนายทรัมป์ทำงานได้ลำบากขึ้น ถ้าพวกเขาเลือกที่จะผลักดันเรื่องต่อไปหรือวิจารณ์การตัดสินของศาลว่า แทรกแซงฝ่ายการเมือง

ที่ผ่านมารัฐบาลของนายทรัมป์ยังไม่ได้แถลงว่าจะทำอย่างไรต่อไป แต่นายทรัมป์เคยพูดก่อนหน้านี้ว่าเขาจะต่อสู้คดีนี้ไปจนถึงศาลฏีกา ถ้าจำเป็น นับเป็นความเคลื่อนไหวที่อาจจะเกิดประเด็นข้อกฎหมายที่ถือว่ามีเดิมพันสูงมากขึ้น ด้านนายทรัมป์ทวิตข้อความว่าเดี๋ยวเจอกันอีกในศาล,ความมั่นคงของประเทศตกอยู่ในความเสี่ยง! ระบุว่าเรื่องนี้เป็นการตัดสินใจทางการเมือง รัฐบาลจะพบกับฝ่ายคัดค้านในศาลและอยากให้ถึงวันนี้เร็วๆ ด้านกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯระบุในแถลงการณ์ว่าอยู่ระหว่างการศึกษาคำพิพาษาก่อนตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

แต่ซีเอ็นเอ็นวิเคราะห์ว่าเนื่องจากในขณะนี้ศาลฏีกามีองค์คณะเหลืออยู่เพียง 8 คน ยังขาดอยู่ 1 ตำแหน่งเนื่องจากนายนีล กอร์ซุช ที่นายทรัมป์เสนอเป็นเป็นผูพิพากษาคนที่ 9 ในศาลฏีกาขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการซักฟอกประวัติจากสว. จึงมีโอกาสสูงมากที่ผู้พิพากษาศาลฏีกาอาจจะลงมติด้วยคะแนนเสียงเท่าๆกันคือ 4-4 เสียง ตามอุดมการณ์ของ 2 พรรคการเมืองใหญ่ของสหรัฐฯ ตัดสินยืนตามคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ภาค 9 ซึ่งอาจจะมีผลกระทบอย่างถาวรมากขึ้นต่อรัฐบาลชุดใหม่ของนายทรัมป์/17.36 น.