ศาลไต่ส่วนเสร็จสิ้นแล้ว รื้อไม่รื้อคดีครูจอมทรัพย์ รอศาลฎีกาตัดสิน

10 กุมภาพันธ์ 2560, 19:27น.


วันที่สาม ของการสืบพยานที่ครูจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อดีตครู จ.สกลนคร ผู้ต้องโทษจำคุกในคดีขับรถชนคนตาย ขอรื้อฟื้นคดีขึ้นพิจารณาใหม่ ศาลจังหวัดนครพนม นัดสืบพยานวันที่ 8-10 ก.พ. 60 วันที่ 8 ก.พ. สืบฝ่ายผู้ร้อง คือ ฝ่ายครูจอมทรัพย์ รวม 9 ปาก จากนั้น ทางฝ่ายผู้คัดค้าน คือ อัยการ นำพยานขึ้นเบิกความทั้งหมด จำนวน 9 ปาก ส่วนการสืบพยานวันที่ 10 ก.พ. เริ่มตั้งแต่เวลา 10.00 น. ฝ่ายคัดค้านเบิกความพยานปากแรก มี พล.ต.ต.ธนาศักดิ์ ฤทธิเดชไพบูลย์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 รับผิดชอบหน้าที่ดูแลงานสอบสวน ในฐานะคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงคดีครูจอมทรัพย์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไพโรจน์ กุจิระพันธ์ ปัจจุบันตำแหน่งเป็นรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ในฐานะได้รับคำสั่งจากตำรวจภูธรภาค 4 ทำหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง เป็นพยานในศาล และนำสืบต่ออีกรวม 6 ปาก



 สำหรับประเด็นสำคัญในการสืบพยานของฝ่ายผู้คัดค้านในวันนี้ คือ พ.ต.ท.จิตต์ ศรีโยหะ มุกดาธนพงศ์ อดีต ส.ว.มุกดาหาร ที่ออกมายืนยันต่อศาลว่า ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2556 ได้ มีนายวิจิตร คำลือชัย ในฐานะเพื่อน ได้นำ นายสุริยา นวนเจริญ หรือ ครูอ๋อง ที่เป็นเพื่อนกับครูจอมทรัพย์ รวมถึง นายสับ วาปี นายเสริฐ รูปสะอาด และสามีครูจอมทรัพย์ คือ นายนิรันดร์ แสนเมืองโคตร กับคนที่เดินทางมาด้วยอีกหลายคน รวมทั้งหมด 10 คน เพื่อมาหาแนวทางช่วยเหลือครูจอมทรัพย์ เนื่องจากตนเป็นทนายความ รวมถึงเป็นบุคคลที่สังคมให้การยอมรับ พร้อมขอร้องให้ทำการบันทึกรับรองว่า นายสับ วาปี เป็นคนขับรถชนคนตายในคดีครูจอมทรัพย์ เพื่อที่จะนำไปเป็นหลักฐานสำคัญในการช่วยเหลือครูจอมทรัพย์ที่ถูกพิพากษาจำคุก และอยู่ระหว่างการรอศาลฎีกาตัดสิน



พ.ต.ท.จิตต์ ยังเบิกความด้วยว่า ได้มีการสอบถามส่วนตัว กับนายสับ วาปี แล้ว ปรากฏว่า ในช่วงเกิดเหตุรถยนต์ ทะเบียน บค 56 มุกดาหาร ไม่ได้อยู่ในครอบครอง จึงไม่เชื่อมั่น และได้แนะนำให้ไปหารือกับญาติผู้ตาย คือ นายเหลือ พ่อบำรุง เพื่อทำการเยียวยา พร้อมกับทักท้วงว่า น่าจะมีการรรับสารภาพก่อนหน้านี้ เพราะมาถึงกระบวนการของศาลฎีกา จะยากที่จะช่วยเหลือครูจอมทรัพย์ จากนั้นได้เงียบหายไป และมารู้อีกครั้งว่ามีการร้องเรียนจากฝ่ายครูจอมทรัพย์ว่าตกเป็นแพะ โดยในคำให้การครั้งนี้ได้พูดตามความเป็นจริง ส่วนศาลจะมีการพิจารณาอย่างไร ขอให้เป็นกระบวนการยุติธรรม



ด้าน พล.ต.ต.ธนาศักดิ์ ฤทธิเดชไพบูลย์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เปิดเผยว่า การสืบพยานในการรื้อฟื้นคดีครั้งนี้ สรุปทางฝ่ายผู้ร้องได้นำพยานขึ้นเบิกความต่อศาล จำนวน 9 ปาก ส่วนของฝ่ายคัดค้าน มี 15 ปาก ดำเนินการสืบพยานครบถ้วน โดยในส่วนของผู้ร้อง ได้มุ่งเน้นในการพิสูจน์ รถยนต์ บค 56 สกลนคร ของครูจอมทรัพย์ ยืนยันว่า ไม่ได้เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชน รวมถึงพยานบุคคลที่ระบุว่า คนขับรถยนต์ชนเป็นชาย เพื่อนำเสนอต่อศาล ในส่วนของฝ่ายคัดค้าน ได้นำพยานปากสำคัญให้การในเรื่องของ ประเด็นหลัก คือ นายสับ วาปี ซึ่งเป็นคนที่ออกมารับสารภาพว่า ได้ขับรถยนต์ บค 56 มุกดาหาร ไปชนคนตายในคดีดังกล่าว และเป็นพยานหลักฐานใหม่ที่สำคัญของฝ่ายผู้ร้อง นำเสนอต่อศาลให้มีการพิจารณารื้อคดีใหม่  ซึ่งแนวทางการพิจารณามีสองแนวทางคือ การยกคำร้องในการรื้อพิจารณาคดีใหม่ หรือพิจารณาให้ครูจอมทรัพย์ กลับเป็นผู้บริสุทธิ์ ส่วนการดำเนินคดีกับกลุ่มขบวนการผู้รับจ้างหรือไม่ ยังไม่สามารถตอบได้ ต้องรอศาลฎีกาพิจารณาเป็นที่สิ้นสุด



แฟ้มภาพ

ข่าวทั้งหมด

X